เคยได้ยินมาว่าขอวีซ่าอิตาลีจะเยอะเรื่องเอกสาร แล้วก็เป็นตามที่ได้ยินมาค่ะ
ก่อนอื่น ต้องจองคิวก่อนค่ะ
เข้าเว็บจองคิว
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/
พวกเราต้องการยื่นเอกสารวันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม เวลา 9:30
ต้องเข้าสมัครสมาชิกก่อนแล้วไปที่การนัดหมาย และเลือกวันที่และเวลาที่ต้องการ
เมื่อจองได้แล้ว จะได้เมลยืนยันการจองตอบกลับมา ให้ปริ๊นออกมา
การเตรียมเอกสาร
1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าสำหรับเดินทางไปประเทศสมาชิกเชงเกน
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/Italy_New_Application_Form_230616.pdf
ปริ๊นออกมาเขียนด้วยปากกาสีน้ำเงิน และแนะนำให้เขียนตัวพิมพ์ใหญ่ เพราะจะได้อ่านได้ง่ายค่ะ
2. รูปถ่ายพื้นหลังขาว 2 นิ้ว 2 ใบ พื้นหลังขาว
3. เล่มพาสปอร์ตที่มีวันหมดอายุมากกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ไปขอ และสำเนา เราใช้ 1 ชุด
เล่มของเราหมดเดือน พ.ย. เลยต้องไปทำใหม่ และเล่มเก่ามีวีซ่าเชงเก้นด้วย ก็ต้องถ่ายหน้าพาสปอร์ตเล่มเก่า และหน้าที่มีวีซ่าไปด้วย
4. ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ของเราจองการบินไทย บินออกจากมาเลเซีย-โรม ขากลับ โรม-กทม และตั๋วแอร์เอเชีย ที่บินจากกรุงเทพไปมาเลเซีย ของเราจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับใครยังไม่มั่นใจ ให้จองแบบยกเลิกได้ก็ได้นะคะ
** ปล. เราจองราคาโปร ของการบินไทย แต่ออกจากมาเลเซีย-โรม ขากลับ โรม-กทม บินตรง ในราคา 18,500 เลยจองและจ่ายเงินเลยค่ะ ถ้าบินกับป้าม่วง ราคานี้เป็นที่พอใจ พออีกอาทิตย์นึงมากดดูรูทเดิมอีกครั้ง ราคาเป็น 1 แสนบาท โอ้วแม่เจ้า นึกว่าตาฝาด
และตั๋วเครื่องบินต้องครอบคลุมการเดินทางทั้งหมด
5. ใบจองโรงแรม ต้องมีชื่อผู้เดินทางทุกคนอยู่ในใบจอง
จริงๆ เราจองบ้านพักกับ Air bnb แต่ไม่สามารถใส่ชื่อได้ครบทุกคน เลยจองโรงแรมกับทาง booking แบบที่ยกเลิกฟรี เพื่อใส่ชื่อทั้ง 4 คนลงไป เมื่อได้วีซ่าแล้ว ก็ไปยกเลิกค่ะ
6. แผนการเที่ยว เราทำตั้งแต่วันที่ออกจากไทย ไปมาเลเซีย และไปโรมค่ะ
สถานที่ที่จะไปในแต่ละวัน พักที่ไหน
7. หลักฐานทางการเงิน ของเราขอสเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือนเลย เพราะถึงขอ 3 เดือนก็จ่ายเท่ากัน แล้วก็เอกสารรับรองจากธนาคารขอเป็นภาษาอังกฤษและขอเป็นสกุลเงินยูโร
8. ประกันอุบัติเหตุ เลือกบริษัทประกัน เอาที่สบายใจ รายชื่อที่สถานทูตรับรอง เช็คได้ลิงค์นี้ค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/list_travel_medical_insurance_2_14.06.13%20(1).pdf
9. ทะเบียนบ้านเราไม่มีเล่มจริง ใจตุ้มๆต่อมๆมาก ว่าจะมีปัญหาอะไรไหม เพราะอ่านรีวิวมา ทุกคนเขียนว่าต้องใช้เล่มจริง
เรามีแต่ฉบับถ่ายเอกสาร และฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ ส่งไป แต่ก็ผ่าน
สามารถเข้าไปโหลดแบบฟอร์มได้ที่นี่ >>
https://goo.gl/zgjuox
10.
จดหมายแนะนำตัว สำคัญ
เนื่องจาก ไม่ได้ทำงานบริษัท ไม่มีใครการันตีให้ สลีปเงินเดือนก็ไม่มี ในเอกสาร บอกว่าเราชื่ออะไร ทำงานอะไร ไปกับใครบ้าง ใส่ชื่อเพื่อนไปให้หมด
ใส่รายละเอียดงานเข้าไปด้วย มีเสื้อผ้าเป็นแบรนด์ตัวเองนะ มีขายที่ไหนบ้าง แล้วก็ต้องแนบรูปสินค้า หรือหน้าร้านด้วยนะคะ ตัวอย่างรูป แบร์นเราชื่อ MALI CLASSIC
และก็อธิบายเพิ่มไปว่าเรามีลูกแล้ว จะเข้าเรียนปีหน้า เลยอยากจะเที่ยวก่อนที่จะไม่มีเวลาไป บลาๆๆ (อันนี้จะอธิบายเพิ่มหรือไม่ก็แล้วแต่นะคะ เราแค่อยากบอก ว่าฉันอยากไปเที่ยว อิตาลีคือหนึ่งในความฝันของฉันที่อยากจะไป ก่อนที่ฉันจะไม่ได้เที่ยวแล้วนะ พลีสสส)
ตัวอย่าง
รูปสินค้า หรือร้านค้าที่มีค่ะ ถ้าหากไม่มีแบบนี้ ให้ใช้ข้อความที่แชทคุยซื้อขายกับลูกค้าแทนนะคะ
11.
สัญญาเช่า สำคัญมาก ถ้าคุณเช่าร้าน หรือฝากขายของตามร้านในห้าง หรือถ้ามีหน้าร้านเป็นของตัวเอง แน่นอนต้องมีสัญญาเช่าที่ หรือเช่าขายสินค้า ถ้ามีใบจดทะเบียนพานิชย์ด้วยก็ดี เอามาแปลด้วยนะคะ ยื่นทั้งแบบภาษาไทยและฉบับแปลภาษาอังกฤษ
ข้อนี้วุ่นวายพอสมควร เพราะเราไม่รู้ว่าต้องใช้ เอกสารทุกอย่างที่เตรียม เราทำเหมือนตอนยื่นขอวีซ่าสวิสทุกอย่าง ซึ่งสถานทูตสวิสไม่ได้ขอเอกสารนี้กับเรา
ตัวอย่าง
วันจันทร์ตอนบ่ายได้รับสายจากคนที่สถานทูต โทรมาขอเอกสารเพิ่มเติม คือใบสัญญาเช่าแบบแปล งานเข้าสิคะ รีบพุ่งไปร้านแปลเอกสาร เลย เสียค่าแปลไป500 บาท ปาดเหงื่อ และนอกเหนือจากนั้น ก็ถูกสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ด้วย
เจ้าหน้าที่ถามเราว่าไปกันกี่คน ไปกับใคร ชื่ออะไรบ้าง เป็นอะไรกัน เพื่อนที่ไหน มหาลัยหรือทำงาน เพื่อนเรียนคณะอะไร เพื่อนทำงานอะไร ละเอียดมากกก พอแปลเสร็จก็แฟกซ์ไปให้สถานทูตในวันอังคาร
12. เป็นใบเช็คลิสต์ที่ทาง VFS ใช้ตรวจสอบเอกสารค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/pdf/Tourist_Checklist_291015.pdf
13. เงินสด 2,850 เลือกไปรับเอง เพราะอยู่ใกล้ เลยไม่เสียค่าส่ง
ยื่นเอกสารที่ ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15 ยูนิต c
191 ถนน สีลม แขวง สีลม เขต บางรัก
ตอนเราไปจองคิว 9:30 ไปถึง 9โมง
ได้บัตรคิวแล้วเข้าไปนั่งรอด้านใน ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงค่ะ แต่พอเริ่มสายๆ คนจะเริ่มเยอะขึ้นมาก
ยื่นเอกสาร จ่ายเงินเสร็จ สแกนนิ้ว เป็นอันจบ กลับบ้านได้ค่ะ
หลังจากส่งเอกสารเพิ่มเติมไป แล้วก็เงียบไป เพื่อนอีกสามคนได้ sms กันหมดแล้วจนบ่ายวันศุกร์ sms เด้งมา ให้ไปรับเล่มได้
พวกเราก็ไปรับพร้อมกันเลย เปิดเล่มกันด้วยความลุ้นระทึก และก็ได้วีซ่ากันทุกคนค่ะ ได้มา 22 วัน
จบเพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
[CR] ขอวีซ่าอิตาลี 2018 ฉบับแม่ค้า ไม่มีสลีปเงินเดือน
ก่อนอื่น ต้องจองคิวก่อนค่ะ
เข้าเว็บจองคิว http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/
พวกเราต้องการยื่นเอกสารวันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม เวลา 9:30
ต้องเข้าสมัครสมาชิกก่อนแล้วไปที่การนัดหมาย และเลือกวันที่และเวลาที่ต้องการ
เมื่อจองได้แล้ว จะได้เมลยืนยันการจองตอบกลับมา ให้ปริ๊นออกมา
การเตรียมเอกสาร
1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าสำหรับเดินทางไปประเทศสมาชิกเชงเกน
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/Italy_New_Application_Form_230616.pdf
ปริ๊นออกมาเขียนด้วยปากกาสีน้ำเงิน และแนะนำให้เขียนตัวพิมพ์ใหญ่ เพราะจะได้อ่านได้ง่ายค่ะ
2. รูปถ่ายพื้นหลังขาว 2 นิ้ว 2 ใบ พื้นหลังขาว
3. เล่มพาสปอร์ตที่มีวันหมดอายุมากกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ไปขอ และสำเนา เราใช้ 1 ชุด
เล่มของเราหมดเดือน พ.ย. เลยต้องไปทำใหม่ และเล่มเก่ามีวีซ่าเชงเก้นด้วย ก็ต้องถ่ายหน้าพาสปอร์ตเล่มเก่า และหน้าที่มีวีซ่าไปด้วย
4. ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ของเราจองการบินไทย บินออกจากมาเลเซีย-โรม ขากลับ โรม-กทม และตั๋วแอร์เอเชีย ที่บินจากกรุงเทพไปมาเลเซีย ของเราจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับใครยังไม่มั่นใจ ให้จองแบบยกเลิกได้ก็ได้นะคะ
** ปล. เราจองราคาโปร ของการบินไทย แต่ออกจากมาเลเซีย-โรม ขากลับ โรม-กทม บินตรง ในราคา 18,500 เลยจองและจ่ายเงินเลยค่ะ ถ้าบินกับป้าม่วง ราคานี้เป็นที่พอใจ พออีกอาทิตย์นึงมากดดูรูทเดิมอีกครั้ง ราคาเป็น 1 แสนบาท โอ้วแม่เจ้า นึกว่าตาฝาด
และตั๋วเครื่องบินต้องครอบคลุมการเดินทางทั้งหมด
5. ใบจองโรงแรม ต้องมีชื่อผู้เดินทางทุกคนอยู่ในใบจอง
จริงๆ เราจองบ้านพักกับ Air bnb แต่ไม่สามารถใส่ชื่อได้ครบทุกคน เลยจองโรงแรมกับทาง booking แบบที่ยกเลิกฟรี เพื่อใส่ชื่อทั้ง 4 คนลงไป เมื่อได้วีซ่าแล้ว ก็ไปยกเลิกค่ะ
6. แผนการเที่ยว เราทำตั้งแต่วันที่ออกจากไทย ไปมาเลเซีย และไปโรมค่ะ
สถานที่ที่จะไปในแต่ละวัน พักที่ไหน
7. หลักฐานทางการเงิน ของเราขอสเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือนเลย เพราะถึงขอ 3 เดือนก็จ่ายเท่ากัน แล้วก็เอกสารรับรองจากธนาคารขอเป็นภาษาอังกฤษและขอเป็นสกุลเงินยูโร
8. ประกันอุบัติเหตุ เลือกบริษัทประกัน เอาที่สบายใจ รายชื่อที่สถานทูตรับรอง เช็คได้ลิงค์นี้ค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/list_travel_medical_insurance_2_14.06.13%20(1).pdf
9. ทะเบียนบ้านเราไม่มีเล่มจริง ใจตุ้มๆต่อมๆมาก ว่าจะมีปัญหาอะไรไหม เพราะอ่านรีวิวมา ทุกคนเขียนว่าต้องใช้เล่มจริง
เรามีแต่ฉบับถ่ายเอกสาร และฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ ส่งไป แต่ก็ผ่าน
สามารถเข้าไปโหลดแบบฟอร์มได้ที่นี่ >> https://goo.gl/zgjuox
10. จดหมายแนะนำตัว สำคัญ
เนื่องจาก ไม่ได้ทำงานบริษัท ไม่มีใครการันตีให้ สลีปเงินเดือนก็ไม่มี ในเอกสาร บอกว่าเราชื่ออะไร ทำงานอะไร ไปกับใครบ้าง ใส่ชื่อเพื่อนไปให้หมด
ใส่รายละเอียดงานเข้าไปด้วย มีเสื้อผ้าเป็นแบรนด์ตัวเองนะ มีขายที่ไหนบ้าง แล้วก็ต้องแนบรูปสินค้า หรือหน้าร้านด้วยนะคะ ตัวอย่างรูป แบร์นเราชื่อ MALI CLASSIC
และก็อธิบายเพิ่มไปว่าเรามีลูกแล้ว จะเข้าเรียนปีหน้า เลยอยากจะเที่ยวก่อนที่จะไม่มีเวลาไป บลาๆๆ (อันนี้จะอธิบายเพิ่มหรือไม่ก็แล้วแต่นะคะ เราแค่อยากบอก ว่าฉันอยากไปเที่ยว อิตาลีคือหนึ่งในความฝันของฉันที่อยากจะไป ก่อนที่ฉันจะไม่ได้เที่ยวแล้วนะ พลีสสส)
ตัวอย่าง
รูปสินค้า หรือร้านค้าที่มีค่ะ ถ้าหากไม่มีแบบนี้ ให้ใช้ข้อความที่แชทคุยซื้อขายกับลูกค้าแทนนะคะ
11. สัญญาเช่า สำคัญมาก ถ้าคุณเช่าร้าน หรือฝากขายของตามร้านในห้าง หรือถ้ามีหน้าร้านเป็นของตัวเอง แน่นอนต้องมีสัญญาเช่าที่ หรือเช่าขายสินค้า ถ้ามีใบจดทะเบียนพานิชย์ด้วยก็ดี เอามาแปลด้วยนะคะ ยื่นทั้งแบบภาษาไทยและฉบับแปลภาษาอังกฤษ
ข้อนี้วุ่นวายพอสมควร เพราะเราไม่รู้ว่าต้องใช้ เอกสารทุกอย่างที่เตรียม เราทำเหมือนตอนยื่นขอวีซ่าสวิสทุกอย่าง ซึ่งสถานทูตสวิสไม่ได้ขอเอกสารนี้กับเรา
ตัวอย่าง
วันจันทร์ตอนบ่ายได้รับสายจากคนที่สถานทูต โทรมาขอเอกสารเพิ่มเติม คือใบสัญญาเช่าแบบแปล งานเข้าสิคะ รีบพุ่งไปร้านแปลเอกสาร เลย เสียค่าแปลไป500 บาท ปาดเหงื่อ และนอกเหนือจากนั้น ก็ถูกสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ด้วย
เจ้าหน้าที่ถามเราว่าไปกันกี่คน ไปกับใคร ชื่ออะไรบ้าง เป็นอะไรกัน เพื่อนที่ไหน มหาลัยหรือทำงาน เพื่อนเรียนคณะอะไร เพื่อนทำงานอะไร ละเอียดมากกก พอแปลเสร็จก็แฟกซ์ไปให้สถานทูตในวันอังคาร
12. เป็นใบเช็คลิสต์ที่ทาง VFS ใช้ตรวจสอบเอกสารค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/pdf/Tourist_Checklist_291015.pdf
13. เงินสด 2,850 เลือกไปรับเอง เพราะอยู่ใกล้ เลยไม่เสียค่าส่ง
ยื่นเอกสารที่ ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15 ยูนิต c
191 ถนน สีลม แขวง สีลม เขต บางรัก
ตอนเราไปจองคิว 9:30 ไปถึง 9โมง
ได้บัตรคิวแล้วเข้าไปนั่งรอด้านใน ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงค่ะ แต่พอเริ่มสายๆ คนจะเริ่มเยอะขึ้นมาก
ยื่นเอกสาร จ่ายเงินเสร็จ สแกนนิ้ว เป็นอันจบ กลับบ้านได้ค่ะ
หลังจากส่งเอกสารเพิ่มเติมไป แล้วก็เงียบไป เพื่อนอีกสามคนได้ sms กันหมดแล้วจนบ่ายวันศุกร์ sms เด้งมา ให้ไปรับเล่มได้
พวกเราก็ไปรับพร้อมกันเลย เปิดเล่มกันด้วยความลุ้นระทึก และก็ได้วีซ่ากันทุกคนค่ะ ได้มา 22 วัน
จบเพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้