เพิ่งได้รับเล่มส่งมาถึงบ้านวันนี้เองค่ะ สำหรับวีซ่าอิตาลี (ปี 2018) เลยจะมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าด้วยตัวเองซะหน่อย ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้ยาก แต่เอกสารอาจจะเยอะนิดนึงค่ะ ซึ่งตั้งแต่วันที่เราไปยื่น จนถึงวันนี้ได้รับเล่ม คือ 8 วันพอดี (ไปทำพฤหัสที่แล้วได้เล่มพฤหัสนี้) ก็ถือว่าเร็วดีค่ะ นึกว่าจะไม่ทันซะละ เพราะศึกษามาหลายที่มากๆ บางคนบอกว่านานเป็นเดือน ผมนี่ใจแป๊ววว - -*
เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะ เราจะเรียงเอกสารเพื่อให้ง่ายต่อการเตรียมเอกสารต่างๆ นะคะ เพราะเรามีปัญหาตรงที่ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าตัวเองไม่ค่อยมีเวลาก็เลยกะว่าจะให้เอเจนซี่ยื่นให้ แต่พอรู้ว่าต้องเอาตัวเราไปด้วย เอ้า!! งั้นทำเองก็ได้มั้ยย... เลยตัดสินใจทำเอง แล้วพลาดเรื่องเวลาการเตรียมเอกสารทำให้ไม่ได้ยื่นไปครั้งนึงค่ะ เลยกลับมาเตรียมเอกสารใหม่ งั้นเราจะสรุปเอกสารเลยนะ (เรียงตามในใบเช็ค)
1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าสำหรับเดินทางไปประเทศสมาชิกเชงเกน
- โหลดได้จากหน้าเว็บ VFS (หน้าเว็บมีทั้ง 2 แบบ แล้วแต่กดจากหน้าไหน - -* ใช้ได้ทั้ง 2 แบบนะคะ / เราใช้แบบแรก)
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/short_stay.pdf
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/Italy_New_Application_Form_230616.pdf
- ปริ้นออกมาแล้วเขียนเองด้วยปากกา แนะนำให้เขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เพื่อความอ่านง่ายค่ะ
2. รูปถ่ายแบบสี พื้นหลังขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (เราบอกเค้าว่าถ่ายไปทำวีซ่าอิตาลี แค่นั้นแหล่ะ)
- การไปถ่ายรูป ถอดเครื่องประดับทั้งหมดออก ผมทัดหู แต่งกายให้สุภาพนะคะ ถ่ายตามร้านถ่ายรูปทั่วไป รอรับได้เลยประมาณ 1 ชั่วโมง
3. Passport ตัวจริง + สำเนา 2 ชุด
- โดยให้เซ็นต์ชื่อกำกับในสำเนา ให้เหมือนกับที่เซ็นต์ในเล่มจริงนะคะ (หากใครมี Passport เล่มเก่าที่มีวีซ่าต่างๆ มากมายที่คุณเคยไปผ่านสมรภูมิอะไรมา ถ่ายเอกสารไปด้วยค่ะ ถ่ายด้านหน้าที่มีชื่อเรา กับพวกวีซ่าข้างในไปค่ะ / ของเรามี 2 เล่ม ถ่ายไปหมดเลยค่ะ กลัวเค้าหาว่าจะไม่กลับประเทศ 555+)
4. ตั๋วเครื่องบินแบบ E-Ticket ให้ปริ้นใบที่จองไปค่ะ
- เราเข้าไปจองในหน้าเว็บการบินไทยค่ะ เพราะของการบินไทย สามารถจองไว้ได้ 72 ชั่วโมง เราก็เอาใบที่เราจองอ่ะแหล่ะไปยื่น เมื่อยื่นแล้วค่อยมาหาจองราคาที่ต้องการจริงๆ อีกทีค่ะ
5. ใบจองโรงแรมตลอดทริปตามแผนท่องเที่ยว
- เราจองใน Expedia ค่ะ จองตามเมืองใน Plan Trip ที่ทำไว้เลย แต่ฝากตรวจสอบดีๆ ด้วยนะคะว่าวันที่ที่จองเนี่ย ครอบคลุมการเดินทางหรือเปล่า เราอ่ะรีบจองไม่ทันดูว่ามันขาดไปวันนึง เหมือนห้องมันเต็มไรงี้ ตอนเอาไปยื่นหายไปวันนึงค่ะ โอ้โหหหห เหงื่อแตก กลัวไม่ผ่าน -*- เค้าเลยให้เมล์เรามาส่งเอกสารตามไป แต่เราก็กดบุ๊คเดี๋ยวนั้น ส่งที่นั่นเลย แล้วเดินไปถามด้วยว่า ได้เมล์แล้วยังคะ (กลัวว่าจะไม่ได้ไป 555+) **อย่าลืมเลือกโรงแรมที่ยกเลิกได้ด้วยนะคะ
6. Plan Trip หรือ แผนการเดินทาง
- เป็นตารางกำหนดการง่ายๆ ค่ะว่า พักเมืองไหน ไปที่ไหนบ้าง (ซึ่งอันนี้เราไม่ได้ยื่นตัวที่เรา Plan จะไปจริงๆ นะคะ เพราะว่าเรามีเพื่อนอยู่ที่นู่น ยังไม่รู้จะพาไปไหนบ้าง แต่ก็ทำ Plan ง่ายๆ ให้เค้าไปค่ะ แล้วก็จองโรงแรมตามเมืองที่เรา Plan)
7. Statement และเอกสารรับรองการเงินจากธนาคาร ***
***ตัวนี้ล่าสุด ธ.ค. 2018 ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วทั้งหนังสือรับรองและ Statement นะคะ สามารถปริ้นจาก Online Banking ได้เลยค่ะ***
- เราเอาไป 2 แบงค์ค่ะ เนื่องจากเงินเก็บที่เป็นเงินก้อนอยู่คนละแบงค์กับแบงค์ที่เป็นเงินเดือน Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (จะรายงานว่าบัญชีเรามีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง) และใบรับรองการเงินภาษาอังกฤษจากทางธนาคาร (ตัวนี้จะเป็นการรับรองว่าเงินในบัญชีนั้นถูกต้อง) ต้องขอไว้ไม่เกิน 7 วันนะคะ โดยขอแสดงสกุลเงินเป็นยูโรค่ะ (บางสาขาอาจจะไม่ได้เอกสารในวันนั้น ลองสอบถามพนักงานดูก่อนนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาไปหลายรอบ) โดยยอดเงินจะอัพเดทล่าสุดคือวันก่อนไปขอนะคะ
8. เอกสารรับรองการทำงานจากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ
- เอกสารฉบับนี้มีอายุการใช้งานได้ 30 วันนะคะ หากเลยวันจะไม่สามารถนำมายื่นขอได้ค่ะ ในเอกสารให้ระบุว่าเป็นพนักงาน และรับรองการลาและเงินเดือนค่ะ
9. ทะเบียนบ้านตัวจริง + สำเนา + แปลเป็นอังกฤษ
- สำหรับทะเบียนบ้าน หากของใครหน้าชื่อตัวเองกับเลขที่บ้านอยู่กันคนละหน้า ให้ซีร็อกให้อยู่หน้าเดียวกันเพื่อความง่ายนะคะ และต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษไปด้วยค่ะ สามารถเข้าไปโหลดแบบฟอร์มได้ที่นี่ >>
https://goo.gl/zgjuox
(ตัวอย่างของเราค่ะ)
ในส่วนของตัวเองมุมขวาบน ขวาล่าง เป็นตัวเลขหน้า ต้องใส่ไว้นะคะ (ใส่ตามจริงนะ อย่าลอกของเราไป 555)
ส่วนเส้นขีดด้านล่างของรูปที่ 2 หากใครย้ายเข้าบ้าน มันจะมีรายละเอียดตรงนี้เพิ่มนะคะ แต่เราเกิดที่นี่ อยู่บ้านนี้แต่เกิด มันเลยไม่มีตรงนั้นค่ะ
ถ้าใครมีก็ต้องแปลด้วยนะ
10. กรมธรรม์การเดินทางของเชงเก้น (ภาษาอังกฤษ) เราจะเลือกซื้อของที่ไหนก็ได้ แต่ต้องระบุว่าเป็นประเทศเชงเก้นนะคะ
ตรวจสอบบริษัทที่สามารถใช้ได้จากที่นี่
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/list_travel_medical_insurance_2_14.06.13%20(1).pdf
11. เงินสด 3,131 บาท (แบ่งเป็นค่าวีซ่า 2,341 ค่าบริการทำวีซ่า 500 ค่าบริการ 220 ค่าสมัคร SMS 70) ซึ่งหลังจากได้เล่มแล้ว SMS ยังไม่มาเลย -*-
12. ใบนัดจองคิวเพื่อทำวีซ่า
- เราต้องทำการจองคิวเพื่อเข้าไปยื่นขอวีซ่านะคะ โดยสามารถเข้าไปจองคิวได้ที่นี่ค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/
คลิกที่เมนูการนัดหมายการยื่นคำร้องขอวีซ่าค่ะ โดยจะเลือกช่วงไหนก็ได้ เพราะหากเลือกบ่าย แล้วไปเช้า ก็ไม่ได้ยื่นนะคะ ต้องนั่งรอ ตามคิวเวลาเรียกค่ะ // ตัวนี้บางทีเราจะจองในวันถัดไปเลยไม่ได้นะคะ เพราะแล้วแต่คิวเลย เพราะงั้นแนะนำว่าให้จองก่อนไปยื่นขอ Statement ค่ะ เพราะบางทีเราอาจจะต้องจองข้ามอาทิตย์ซักหน่อย เผื่อเวลาไปขอเอกสารด้วยนะคะ
13. ใบ Tourist check list จะเป็นใบเช็คลิสต์ที่ทาง VFS ใช้ตรวจสอบเอกสารค่ะ
- ตอนเราไปเราปริ้นแล้วต็กเอกสารที่เรามีไปด้วย แต่เค้าก็เอาใบใหม่มาตรวจเอกสารเราอยู่ดี
เรียงตามเวลาการจัดเตรียมเอกสาร (ใครไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน ทำตาม List นี้ได้เลยค่ะ)
3. Passport ตัวจริง + สำเนา 2 ชุด
2. รูปถ่ายแบบสี พื้นหลังขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
8. เอกสารรับรองการทำงานจากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ (30 วัน)
6. Plan Trip หรือ แผนการเดินทาง
5. ใบจองโรงแรมตลอดทริปตามแผนท่องเที่ยว
--จองคิวยื่นวีซ่ากับ VFS--
7. Statement และเอกสารรับรองการเงินจากธนาคาร (7 วัน)
-- 2 อันล่างแนะนำให้ทำก่อนไปยื่น 1 วันค่ะ--
4. ตั๋วเครื่องบินแบบ E-Ticket ให้ปริ้นใบที่จองไปค่ะ (72 ชั่วโมง)
1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าสำหรับเดินทางไปประเทศสมาชิกเชงเกน
ยัง ยัง ยังไม่หมด นี่มันแค่ขั้นตอนการเตรียมเอกสารเองนะ 5555+ เมื่อเตรียมเอกสารเสร็จแล้ว อย่าลืมว่าเราต้องจองคิวก่อนไปยื่นวีซ่านะคะ โดยทั่วไปถ้าเรากดจองเนี่ย มันจะโชว์คิวล่าสุดให้ดูว่าไปยื่นได้วันไหนเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นด้านบนเราถึงให้ขั้นตอนนี้อยู่ก่อนการขอ Statement ค่ะ เผื่อคิวยาว ถ้าไปขอก่อนอาจจะหมดอายุไปอีก
จากนั้นก็หอบเอกสารทั้งหมดไปยื่นขอวีซ่าที่ VFS ค่ะ
ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15 ยูนิต c
191 ถนน สีลม แขวง สีลม เขต บางรัก
กรุงเทพ ฯ 10500 สายด่วน +66 (02) 263-9101
เรานั่ง BTS จากหมอชิตไปเปลี่ยนสายที่สถานีสยามค่ะ แล้วมาลงสถานีศาลาแดง ออกทางออกที่ 4 เดินเลี้ยวมาก็จะเจอทางเชื่อมเข้าห้างเลย แต่หากใครจองคิวเช้า มันจะเดินทะลุเข้าห้างไม่ได้นะคะ ต้องเดินลงบรรไดไปชั้นล่างแล้ว เดินเข้าตึกข้างซ้ายค่ะ จะมีประตูใสๆ อยู่ เมื่อเข้าไปแล้ว เดินเลี้ยวขวาไปกดลิฟต์ ชั้น 15 แล้วเข้าลิฟต์ไปค่ะ โผล่ออกลิฟต์มาก็เจอเลย
ใครที่ขาดเอกสารอะไร ต้องการถ่ายเอกสาร ที่ VFS มีบริการนะคะ แต่ราคาโหดอยู่ คือ 5 บาท 10 บาทไรงี้ แต่ถ้าใครไม่รีบ เดินเข้าห้างไปร้าน Double A ชั้น 4 อยู่แถวๆ ที่มีธนาคารเยอะๆ ค่ะ แผ่นละ 1 บาท
เมื่อไปถึงเราก็ต้องรอรอบของเราค่ะ จากนั้นถึงจะได้บัตรคิวและเข้าไปนั่งรอด้านใน พนักงานก็จะเรียกชื่อตามลำดับค่ะ เมื่อเอกสารครบถ้วน เค้าจะถามเราว่าเราจะมารับเองหรือจะให้ส่งไปรษณีย์ ซึ่งหากเลือกส่งไปรษณีย์ เค้าจะให้ซองสีน้ำตาลเรามาเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรค่ะ จากนั้นก็ไปปั้มลายนิ้วมิอ แค่นี้ก็เสร็จ กลับบ้านได้ เย่!!
ก็หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับคนที่อยากลองยื่นขอวีซ่าอิตาลี (เชงเก้น) ด้วยตัวเองดูนะคะ
หากเตรียมเอกสารไปครบ แปบเดียวก็เสร็จค่ะ (เราคิว 11.15 ตอน 11.37 เสร็จแล้ว กลับบ้านเลยค่ะ งงไปเลย ลางานทั้งวัน 555+)
เรากำลังจะทำชาแนลท่องเที่ยว ฝากคอยติดตามกันด้วยนะคะ
ต้องการปรึกษาอะไรสอบถามได้ค่ะ
-Kukku-
- Edit 24/3/2018 เพิ่มภาพตัวอย่าง Plan Trip แผนการเดินทาง
อัพเดทล่าสุดนะคะ
เราไปยื่นล่าสุด เดือนธันวาคม 2561 เค้าเปลี่ยนสถานที่แล้วนะคะ
ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลี กรุงเทพฯ
ได้ทำการย้ายออฟฟิศไปยัง
เดอะพลาซ่า ชั้น 4 ยูนิตที่ 404 - 405 อาคารจามจุรีสแควร์
ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2561
รถไฟใต้ดิน (MRT):
สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือสถานีสามย่าน ทางออกประตูที่ 2
รถไฟฟ้า (BTS)
สถานีศาลาแดง
[CR] ขอวีซ่าอิตาลีด้วยตัวเองแบบละเอียด 20 นาทีก็ยื่นเสร็จ (Schengen VISA) #2018
เพิ่งได้รับเล่มส่งมาถึงบ้านวันนี้เองค่ะ สำหรับวีซ่าอิตาลี (ปี 2018) เลยจะมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าด้วยตัวเองซะหน่อย ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้ยาก แต่เอกสารอาจจะเยอะนิดนึงค่ะ ซึ่งตั้งแต่วันที่เราไปยื่น จนถึงวันนี้ได้รับเล่ม คือ 8 วันพอดี (ไปทำพฤหัสที่แล้วได้เล่มพฤหัสนี้) ก็ถือว่าเร็วดีค่ะ นึกว่าจะไม่ทันซะละ เพราะศึกษามาหลายที่มากๆ บางคนบอกว่านานเป็นเดือน ผมนี่ใจแป๊ววว - -*
เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะ เราจะเรียงเอกสารเพื่อให้ง่ายต่อการเตรียมเอกสารต่างๆ นะคะ เพราะเรามีปัญหาตรงที่ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าตัวเองไม่ค่อยมีเวลาก็เลยกะว่าจะให้เอเจนซี่ยื่นให้ แต่พอรู้ว่าต้องเอาตัวเราไปด้วย เอ้า!! งั้นทำเองก็ได้มั้ยย... เลยตัดสินใจทำเอง แล้วพลาดเรื่องเวลาการเตรียมเอกสารทำให้ไม่ได้ยื่นไปครั้งนึงค่ะ เลยกลับมาเตรียมเอกสารใหม่ งั้นเราจะสรุปเอกสารเลยนะ (เรียงตามในใบเช็ค)
1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าสำหรับเดินทางไปประเทศสมาชิกเชงเกน
- โหลดได้จากหน้าเว็บ VFS (หน้าเว็บมีทั้ง 2 แบบ แล้วแต่กดจากหน้าไหน - -* ใช้ได้ทั้ง 2 แบบนะคะ / เราใช้แบบแรก)
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/short_stay.pdf
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/Italy_New_Application_Form_230616.pdf
- ปริ้นออกมาแล้วเขียนเองด้วยปากกา แนะนำให้เขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เพื่อความอ่านง่ายค่ะ
2. รูปถ่ายแบบสี พื้นหลังขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (เราบอกเค้าว่าถ่ายไปทำวีซ่าอิตาลี แค่นั้นแหล่ะ)
- การไปถ่ายรูป ถอดเครื่องประดับทั้งหมดออก ผมทัดหู แต่งกายให้สุภาพนะคะ ถ่ายตามร้านถ่ายรูปทั่วไป รอรับได้เลยประมาณ 1 ชั่วโมง
3. Passport ตัวจริง + สำเนา 2 ชุด
- โดยให้เซ็นต์ชื่อกำกับในสำเนา ให้เหมือนกับที่เซ็นต์ในเล่มจริงนะคะ (หากใครมี Passport เล่มเก่าที่มีวีซ่าต่างๆ มากมายที่คุณเคยไปผ่านสมรภูมิอะไรมา ถ่ายเอกสารไปด้วยค่ะ ถ่ายด้านหน้าที่มีชื่อเรา กับพวกวีซ่าข้างในไปค่ะ / ของเรามี 2 เล่ม ถ่ายไปหมดเลยค่ะ กลัวเค้าหาว่าจะไม่กลับประเทศ 555+)
4. ตั๋วเครื่องบินแบบ E-Ticket ให้ปริ้นใบที่จองไปค่ะ
- เราเข้าไปจองในหน้าเว็บการบินไทยค่ะ เพราะของการบินไทย สามารถจองไว้ได้ 72 ชั่วโมง เราก็เอาใบที่เราจองอ่ะแหล่ะไปยื่น เมื่อยื่นแล้วค่อยมาหาจองราคาที่ต้องการจริงๆ อีกทีค่ะ
5. ใบจองโรงแรมตลอดทริปตามแผนท่องเที่ยว
- เราจองใน Expedia ค่ะ จองตามเมืองใน Plan Trip ที่ทำไว้เลย แต่ฝากตรวจสอบดีๆ ด้วยนะคะว่าวันที่ที่จองเนี่ย ครอบคลุมการเดินทางหรือเปล่า เราอ่ะรีบจองไม่ทันดูว่ามันขาดไปวันนึง เหมือนห้องมันเต็มไรงี้ ตอนเอาไปยื่นหายไปวันนึงค่ะ โอ้โหหหห เหงื่อแตก กลัวไม่ผ่าน -*- เค้าเลยให้เมล์เรามาส่งเอกสารตามไป แต่เราก็กดบุ๊คเดี๋ยวนั้น ส่งที่นั่นเลย แล้วเดินไปถามด้วยว่า ได้เมล์แล้วยังคะ (กลัวว่าจะไม่ได้ไป 555+) **อย่าลืมเลือกโรงแรมที่ยกเลิกได้ด้วยนะคะ
6. Plan Trip หรือ แผนการเดินทาง
- เป็นตารางกำหนดการง่ายๆ ค่ะว่า พักเมืองไหน ไปที่ไหนบ้าง (ซึ่งอันนี้เราไม่ได้ยื่นตัวที่เรา Plan จะไปจริงๆ นะคะ เพราะว่าเรามีเพื่อนอยู่ที่นู่น ยังไม่รู้จะพาไปไหนบ้าง แต่ก็ทำ Plan ง่ายๆ ให้เค้าไปค่ะ แล้วก็จองโรงแรมตามเมืองที่เรา Plan)
7. Statement และเอกสารรับรองการเงินจากธนาคาร ***
***ตัวนี้ล่าสุด ธ.ค. 2018 ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วทั้งหนังสือรับรองและ Statement นะคะ สามารถปริ้นจาก Online Banking ได้เลยค่ะ***
- เราเอาไป 2 แบงค์ค่ะ เนื่องจากเงินเก็บที่เป็นเงินก้อนอยู่คนละแบงค์กับแบงค์ที่เป็นเงินเดือน Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (จะรายงานว่าบัญชีเรามีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง) และใบรับรองการเงินภาษาอังกฤษจากทางธนาคาร (ตัวนี้จะเป็นการรับรองว่าเงินในบัญชีนั้นถูกต้อง) ต้องขอไว้ไม่เกิน 7 วันนะคะ โดยขอแสดงสกุลเงินเป็นยูโรค่ะ (บางสาขาอาจจะไม่ได้เอกสารในวันนั้น ลองสอบถามพนักงานดูก่อนนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาไปหลายรอบ) โดยยอดเงินจะอัพเดทล่าสุดคือวันก่อนไปขอนะคะ
8. เอกสารรับรองการทำงานจากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ
- เอกสารฉบับนี้มีอายุการใช้งานได้ 30 วันนะคะ หากเลยวันจะไม่สามารถนำมายื่นขอได้ค่ะ ในเอกสารให้ระบุว่าเป็นพนักงาน และรับรองการลาและเงินเดือนค่ะ
9. ทะเบียนบ้านตัวจริง + สำเนา + แปลเป็นอังกฤษ
- สำหรับทะเบียนบ้าน หากของใครหน้าชื่อตัวเองกับเลขที่บ้านอยู่กันคนละหน้า ให้ซีร็อกให้อยู่หน้าเดียวกันเพื่อความง่ายนะคะ และต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษไปด้วยค่ะ สามารถเข้าไปโหลดแบบฟอร์มได้ที่นี่ >> https://goo.gl/zgjuox
(ตัวอย่างของเราค่ะ)
ในส่วนของตัวเองมุมขวาบน ขวาล่าง เป็นตัวเลขหน้า ต้องใส่ไว้นะคะ (ใส่ตามจริงนะ อย่าลอกของเราไป 555)
ส่วนเส้นขีดด้านล่างของรูปที่ 2 หากใครย้ายเข้าบ้าน มันจะมีรายละเอียดตรงนี้เพิ่มนะคะ แต่เราเกิดที่นี่ อยู่บ้านนี้แต่เกิด มันเลยไม่มีตรงนั้นค่ะ
ถ้าใครมีก็ต้องแปลด้วยนะ
10. กรมธรรม์การเดินทางของเชงเก้น (ภาษาอังกฤษ) เราจะเลือกซื้อของที่ไหนก็ได้ แต่ต้องระบุว่าเป็นประเทศเชงเก้นนะคะ
ตรวจสอบบริษัทที่สามารถใช้ได้จากที่นี่
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/pdf/list_travel_medical_insurance_2_14.06.13%20(1).pdf
11. เงินสด 3,131 บาท (แบ่งเป็นค่าวีซ่า 2,341 ค่าบริการทำวีซ่า 500 ค่าบริการ 220 ค่าสมัคร SMS 70) ซึ่งหลังจากได้เล่มแล้ว SMS ยังไม่มาเลย -*-
12. ใบนัดจองคิวเพื่อทำวีซ่า
- เราต้องทำการจองคิวเพื่อเข้าไปยื่นขอวีซ่านะคะ โดยสามารถเข้าไปจองคิวได้ที่นี่ค่ะ http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/
คลิกที่เมนูการนัดหมายการยื่นคำร้องขอวีซ่าค่ะ โดยจะเลือกช่วงไหนก็ได้ เพราะหากเลือกบ่าย แล้วไปเช้า ก็ไม่ได้ยื่นนะคะ ต้องนั่งรอ ตามคิวเวลาเรียกค่ะ // ตัวนี้บางทีเราจะจองในวันถัดไปเลยไม่ได้นะคะ เพราะแล้วแต่คิวเลย เพราะงั้นแนะนำว่าให้จองก่อนไปยื่นขอ Statement ค่ะ เพราะบางทีเราอาจจะต้องจองข้ามอาทิตย์ซักหน่อย เผื่อเวลาไปขอเอกสารด้วยนะคะ
13. ใบ Tourist check list จะเป็นใบเช็คลิสต์ที่ทาง VFS ใช้ตรวจสอบเอกสารค่ะ
- ตอนเราไปเราปริ้นแล้วต็กเอกสารที่เรามีไปด้วย แต่เค้าก็เอาใบใหม่มาตรวจเอกสารเราอยู่ดี
เรียงตามเวลาการจัดเตรียมเอกสาร (ใครไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน ทำตาม List นี้ได้เลยค่ะ)
3. Passport ตัวจริง + สำเนา 2 ชุด
2. รูปถ่ายแบบสี พื้นหลังขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
8. เอกสารรับรองการทำงานจากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ (30 วัน)
6. Plan Trip หรือ แผนการเดินทาง
5. ใบจองโรงแรมตลอดทริปตามแผนท่องเที่ยว
--จองคิวยื่นวีซ่ากับ VFS--
7. Statement และเอกสารรับรองการเงินจากธนาคาร (7 วัน)
-- 2 อันล่างแนะนำให้ทำก่อนไปยื่น 1 วันค่ะ--
4. ตั๋วเครื่องบินแบบ E-Ticket ให้ปริ้นใบที่จองไปค่ะ (72 ชั่วโมง)
1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าสำหรับเดินทางไปประเทศสมาชิกเชงเกน
ยัง ยัง ยังไม่หมด นี่มันแค่ขั้นตอนการเตรียมเอกสารเองนะ 5555+ เมื่อเตรียมเอกสารเสร็จแล้ว อย่าลืมว่าเราต้องจองคิวก่อนไปยื่นวีซ่านะคะ โดยทั่วไปถ้าเรากดจองเนี่ย มันจะโชว์คิวล่าสุดให้ดูว่าไปยื่นได้วันไหนเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นด้านบนเราถึงให้ขั้นตอนนี้อยู่ก่อนการขอ Statement ค่ะ เผื่อคิวยาว ถ้าไปขอก่อนอาจจะหมดอายุไปอีก
จากนั้นก็หอบเอกสารทั้งหมดไปยื่นขอวีซ่าที่ VFS ค่ะ
ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15 ยูนิต c
191 ถนน สีลม แขวง สีลม เขต บางรัก
กรุงเทพ ฯ 10500 สายด่วน +66 (02) 263-9101
เรานั่ง BTS จากหมอชิตไปเปลี่ยนสายที่สถานีสยามค่ะ แล้วมาลงสถานีศาลาแดง ออกทางออกที่ 4 เดินเลี้ยวมาก็จะเจอทางเชื่อมเข้าห้างเลย แต่หากใครจองคิวเช้า มันจะเดินทะลุเข้าห้างไม่ได้นะคะ ต้องเดินลงบรรไดไปชั้นล่างแล้ว เดินเข้าตึกข้างซ้ายค่ะ จะมีประตูใสๆ อยู่ เมื่อเข้าไปแล้ว เดินเลี้ยวขวาไปกดลิฟต์ ชั้น 15 แล้วเข้าลิฟต์ไปค่ะ โผล่ออกลิฟต์มาก็เจอเลย
ใครที่ขาดเอกสารอะไร ต้องการถ่ายเอกสาร ที่ VFS มีบริการนะคะ แต่ราคาโหดอยู่ คือ 5 บาท 10 บาทไรงี้ แต่ถ้าใครไม่รีบ เดินเข้าห้างไปร้าน Double A ชั้น 4 อยู่แถวๆ ที่มีธนาคารเยอะๆ ค่ะ แผ่นละ 1 บาท
เมื่อไปถึงเราก็ต้องรอรอบของเราค่ะ จากนั้นถึงจะได้บัตรคิวและเข้าไปนั่งรอด้านใน พนักงานก็จะเรียกชื่อตามลำดับค่ะ เมื่อเอกสารครบถ้วน เค้าจะถามเราว่าเราจะมารับเองหรือจะให้ส่งไปรษณีย์ ซึ่งหากเลือกส่งไปรษณีย์ เค้าจะให้ซองสีน้ำตาลเรามาเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรค่ะ จากนั้นก็ไปปั้มลายนิ้วมิอ แค่นี้ก็เสร็จ กลับบ้านได้ เย่!!
ก็หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับคนที่อยากลองยื่นขอวีซ่าอิตาลี (เชงเก้น) ด้วยตัวเองดูนะคะ หากเตรียมเอกสารไปครบ แปบเดียวก็เสร็จค่ะ (เราคิว 11.15 ตอน 11.37 เสร็จแล้ว กลับบ้านเลยค่ะ งงไปเลย ลางานทั้งวัน 555+)
เรากำลังจะทำชาแนลท่องเที่ยว ฝากคอยติดตามกันด้วยนะคะ
ต้องการปรึกษาอะไรสอบถามได้ค่ะ
-Kukku-
- Edit 24/3/2018 เพิ่มภาพตัวอย่าง Plan Trip แผนการเดินทาง
อัพเดทล่าสุดนะคะ
เราไปยื่นล่าสุด เดือนธันวาคม 2561 เค้าเปลี่ยนสถานที่แล้วนะคะ
ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลี กรุงเทพฯ
ได้ทำการย้ายออฟฟิศไปยัง
เดอะพลาซ่า ชั้น 4 ยูนิตที่ 404 - 405 อาคารจามจุรีสแควร์
ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2561
รถไฟใต้ดิน (MRT):
สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือสถานีสามย่าน ทางออกประตูที่ 2
รถไฟฟ้า (BTS)
สถานีศาลาแดง