องค์พระธาตุเจดีย์มีพลังได้อย่างไร
ในที่นี้ขอยกกรณีตัวอย่างจากพระธาตุดอยเวา
ซึ่งพระธาตุดอยเวา ตั้งอยู่ ณ วัดพระธาตุดอยเวา ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ก่อสร้างในพุทธศักราช ๒๙๖ ในรัชสมัยพระองค์เวา รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ ผู้ครองนครโยนกนาคพันธุ์ ซึ่งผ่านมานับพันปี
เมื่อองค์พระธาตุเจดีย์ตั้งมานานก็มีคนหลั่งใหลมากราบไหว้สักการะองค์พระธาตุเจดีย์ ในแต่ละคนที่มาไหว้พระธาตุฯ ย่อมตั้งจิตมีศรัทธาต่อองค์พระธาตุฯ เรียกว่า พลังแห่งศรัทธา
จิตผู้มาสักการะย่อมน้อมระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ด้วยพลังแห่งจิตของผู้มีศรัทธานี้ ทำให้องค์พระธาตุนี้มีพลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
การขอพลังจากองค์พระธาตุเจดีย์
ให้เราตั้งฐานจิตมีศรัทธาต่อองค์พระธาตุฯ มองไปที่องค์พระธาตุฯ แล้วคิดหรือจิตนาการว่า พระธาตุเจดีย์ฯ ได้ส่งพลังเป็นแสงสีขาวสว่างลงมายังกลางกระหม่อมเรา
เมื่อเรารับแล้วก็กล่าว สาธุ...!! ใครรับได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับศรัทธาแต่ละบุคคล เพราะศรัทธาเป็นเบื้องต้นแห่งการรับพลัง เสมือนหนึ่งเป็นประตู หากประตูนี้ปิด อะไรๆ ก็เข้าไม่ได้ หากเปิดแง้มนิดเดียวก็เข้าลำบาก ฉะนั้น เราควรเปิดประตูแห่งจิตวิญญาณ
พระธาตุเจดีย์จะหมดพลังไหม?
เป็นข้อสงสัย ตั้งคำถามอยู่ในใจ เมื่อเราขอรับพลังจากองค์พระธาตุแล้ว พระธาตุจะไม่หมดพลัง กลับเป็นการเพิ่มพลังขึ้นมา เพราะอย่างที่บอกแล้วว่า หากพระธาตุมีบุคคลสักการะ ศรัทธามากเท่าไหร่ พระธาตุก็ยิ่งมีพลังมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เมื่อเรารับพลังจากพระธาตุได้มากเท่าไหร่ พระธาตุก็ยิ่งจะเพิ่มพลังมากขึ้นเท่านั้น เพราะเรามีศรัทธาเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง พลังแห่งพระธาตุฯ จะเป็นพลังแห่งการหมุนเวียน เมื่อพระธาตุปล่อยพลังให้ใครแล้ว ทางธรรมย่อมเติมแก่พระธาตุใหม่ เป็นอย่างนี้เรื่อยไป
---------------------------
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
องค์พระธาตุเจดีย์มีพลังได้อย่างไร
ในที่นี้ขอยกกรณีตัวอย่างจากพระธาตุดอยเวา
ซึ่งพระธาตุดอยเวา ตั้งอยู่ ณ วัดพระธาตุดอยเวา ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ก่อสร้างในพุทธศักราช ๒๙๖ ในรัชสมัยพระองค์เวา รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ ผู้ครองนครโยนกนาคพันธุ์ ซึ่งผ่านมานับพันปี
เมื่อองค์พระธาตุเจดีย์ตั้งมานานก็มีคนหลั่งใหลมากราบไหว้สักการะองค์พระธาตุเจดีย์ ในแต่ละคนที่มาไหว้พระธาตุฯ ย่อมตั้งจิตมีศรัทธาต่อองค์พระธาตุฯ เรียกว่า พลังแห่งศรัทธา
จิตผู้มาสักการะย่อมน้อมระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ด้วยพลังแห่งจิตของผู้มีศรัทธานี้ ทำให้องค์พระธาตุนี้มีพลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
การขอพลังจากองค์พระธาตุเจดีย์
ให้เราตั้งฐานจิตมีศรัทธาต่อองค์พระธาตุฯ มองไปที่องค์พระธาตุฯ แล้วคิดหรือจิตนาการว่า พระธาตุเจดีย์ฯ ได้ส่งพลังเป็นแสงสีขาวสว่างลงมายังกลางกระหม่อมเรา
เมื่อเรารับแล้วก็กล่าว สาธุ...!! ใครรับได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับศรัทธาแต่ละบุคคล เพราะศรัทธาเป็นเบื้องต้นแห่งการรับพลัง เสมือนหนึ่งเป็นประตู หากประตูนี้ปิด อะไรๆ ก็เข้าไม่ได้ หากเปิดแง้มนิดเดียวก็เข้าลำบาก ฉะนั้น เราควรเปิดประตูแห่งจิตวิญญาณ
พระธาตุเจดีย์จะหมดพลังไหม?
เป็นข้อสงสัย ตั้งคำถามอยู่ในใจ เมื่อเราขอรับพลังจากองค์พระธาตุแล้ว พระธาตุจะไม่หมดพลัง กลับเป็นการเพิ่มพลังขึ้นมา เพราะอย่างที่บอกแล้วว่า หากพระธาตุมีบุคคลสักการะ ศรัทธามากเท่าไหร่ พระธาตุก็ยิ่งมีพลังมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เมื่อเรารับพลังจากพระธาตุได้มากเท่าไหร่ พระธาตุก็ยิ่งจะเพิ่มพลังมากขึ้นเท่านั้น เพราะเรามีศรัทธาเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง พลังแห่งพระธาตุฯ จะเป็นพลังแห่งการหมุนเวียน เมื่อพระธาตุปล่อยพลังให้ใครแล้ว ทางธรรมย่อมเติมแก่พระธาตุใหม่ เป็นอย่างนี้เรื่อยไป
---------------------------
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์