วันที่ 8 สิงหาคม 2561 ที่ห้องพัชราภา ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์พาเลช มหานาค กรุงเทพมหานคร พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท พระวิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี พระนิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า เป็นพระวิทยากรอบรมคุณธรรมผู้บริหารและบุคลากร สำนักงานธนานุเคราะห์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ภายใต้การบริหารคนก่อนการบริหารงาน หลักสูตรชีวิตเบิกบานการทำงานเป็น ซึ่งจัดโดยงานบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งมีนายสุชาติ ขจรสายวงษ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานธนานุเคราะห์กล่าวเปิดการอบรม
"วิชาที่ทำให้เรารู้จักตนเองดีที่สุด คือวิชากรรมฐาน เพราะเป็นวิชาที่ศึกษาภายในตนมากกว่าศึกษาคนอื่น วิชาต่างๆในโลกนี้มุ่งศึกษาแต่ภายนอก ศึกษาคนอื่นแต่วิชากรรมฐานของพระพุทธเจ้าจะให้เราได้ดูลมหายใจของตนเอง รักษาลมหายใจของตนเอง คนที่จะต้องทำงานกับมนุษย์ต้องเข้าใจตนเองก่อนเข้าใจคนอื่น จึงต้องพัฒนาภายในสู่ภายนอกเรียกว่าวิชายอด จรณะเยี่ยม เปี่ยมด้วยกรุณา เพราะเมื่อจบประโยชน์ตน นึกถึงประโยชน์คนอื่น ปราชญ์ท่านหนึ่งได้กล่าวว่า ก่อนจากโลกนี้ไป เราลองหาสักอย่างที่ไม่ทำเพื่อตนเอง สักอย่างที่ดีที่ไม่ได้หวังว่าสิ่งที่ทำนั้นจะตอบกลับมา หากทำได้ก่อนจากโลกนี้ ท่านจะเป็นบุคคลที่โลกจดจำไม่เคยลืม เพราะปกติมนุษย์จะทำเพื่อตนเองมากกว่าคนอื่น แต่ในการพัฒนาตน มนุษย์ต้องพัฒนาตนเองก่อนพัฒนาคนอื่น พัฒนาอะไรก็ติด ถ้าจิตไม่พัฒนา การทำอะไรบางอย่างที่ก้าวข้ามตนเองจะเป็นความสุขที่แท้จริง" พระวิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี กล่าวและว่า
ดังนั้น คุณธรรมที่คนในองค์กรควรตระหนักคือความกตัญญูต่อตนเอง ต่อบุคคล และต่อองค์กรสถานที่ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี กตัญญูจึงเป็นเครื่องมือของคนดี
นิมนต์พระสอน กรรมฐาน อบรมคุณธรรมผู้บริหารและบุคลากร พัฒนาชีวิตเบิกบานการทำงาน
วันที่ 8 สิงหาคม 2561 ที่ห้องพัชราภา ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์พาเลช มหานาค กรุงเทพมหานคร พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท พระวิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี พระนิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า เป็นพระวิทยากรอบรมคุณธรรมผู้บริหารและบุคลากร สำนักงานธนานุเคราะห์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ภายใต้การบริหารคนก่อนการบริหารงาน หลักสูตรชีวิตเบิกบานการทำงานเป็น ซึ่งจัดโดยงานบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งมีนายสุชาติ ขจรสายวงษ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานธนานุเคราะห์กล่าวเปิดการอบรม
"วิชาที่ทำให้เรารู้จักตนเองดีที่สุด คือวิชากรรมฐาน เพราะเป็นวิชาที่ศึกษาภายในตนมากกว่าศึกษาคนอื่น วิชาต่างๆในโลกนี้มุ่งศึกษาแต่ภายนอก ศึกษาคนอื่นแต่วิชากรรมฐานของพระพุทธเจ้าจะให้เราได้ดูลมหายใจของตนเอง รักษาลมหายใจของตนเอง คนที่จะต้องทำงานกับมนุษย์ต้องเข้าใจตนเองก่อนเข้าใจคนอื่น จึงต้องพัฒนาภายในสู่ภายนอกเรียกว่าวิชายอด จรณะเยี่ยม เปี่ยมด้วยกรุณา เพราะเมื่อจบประโยชน์ตน นึกถึงประโยชน์คนอื่น ปราชญ์ท่านหนึ่งได้กล่าวว่า ก่อนจากโลกนี้ไป เราลองหาสักอย่างที่ไม่ทำเพื่อตนเอง สักอย่างที่ดีที่ไม่ได้หวังว่าสิ่งที่ทำนั้นจะตอบกลับมา หากทำได้ก่อนจากโลกนี้ ท่านจะเป็นบุคคลที่โลกจดจำไม่เคยลืม เพราะปกติมนุษย์จะทำเพื่อตนเองมากกว่าคนอื่น แต่ในการพัฒนาตน มนุษย์ต้องพัฒนาตนเองก่อนพัฒนาคนอื่น พัฒนาอะไรก็ติด ถ้าจิตไม่พัฒนา การทำอะไรบางอย่างที่ก้าวข้ามตนเองจะเป็นความสุขที่แท้จริง" พระวิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี กล่าวและว่า
ดังนั้น คุณธรรมที่คนในองค์กรควรตระหนักคือความกตัญญูต่อตนเอง ต่อบุคคล และต่อองค์กรสถานที่ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี กตัญญูจึงเป็นเครื่องมือของคนดี