ด่วน !! น้ำมันทิ้งดิ่งอย่างแรง จะแตะ -4% แล้ว ความกังวล ขยายวงกว้างไปทั่วโลก !! (มีภาพ)

ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งกว่า 2% หลุด 68 ดอลลาร์ หลังจีนเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้าสหรัฐ

Source: IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ | 8 Aug 2018 21:29

         สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ส.ค. 61)--สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้าสหรัฐวงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้มาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
          ณ เวลา 21.05 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 2.17% สู่ระดับ 67.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
          นักลงทุนกังวลว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
          กระทรวงพาณิชย์ของจีนแถลงในวันนี้ว่า จีนจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบและรถยนต์
          การดำเนินการดังกล่าวของจีนมีขึ้นเพื่อตอบโต้สหรัฐซึ่งในวันนี้ได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.
          ก่อนหน้านี้ คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนล็อตแรกในอัตรา 25% วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นไม่นาน จีนก็ได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในอัตราและวงเงินที่เท่ากัน
          การที่สหรัฐออกมาตรการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนทั้ง 2 ล็อต คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ในอัตราและวงเงินที่เท่ากัน
          เมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้ประกาศรายการสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีนที่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ มีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการเรียกเก็บภาษีสินค้าล็อตที่ 2 วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.
          นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่จีนเปิดเผยตัวเลขการนำเข้าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย สู่ระดับ 36.02 ล้านตันในเดือนก.ค. และอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นอันดับ 3 ในปีนี้ หลังจากที่ได้ร่วงลงในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้
          
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่