เครดิตบทความ พรานล่าหุ้น
เลือกจังหวะให้เหมาะกับการเทรด
ซื้อดัก
เป็นการซื้อหุ้นที่ราคาอยู่ต่ำๆ เหมาะกับนักลงทุนพวก VI เพราะเมื่อราคาหุ้นลงมาที่ฐาน จะเป็นฐานหรือไม่อันนี้เราต้องพิจารณาเอง นักลงทุนที่กล้าซื้อก่อนก็จะเป็นพวก VI ที่รอโอกาสที่จะได้ซื้อหุ้นราคาถูกที่ตัวเองรอมานาน พวกนี้รู้พื้นฐานของบริษัทเป็นอย่างดีเพราะ มีความรู้ทางด้านบัญชี สามารถคำนวณราคาที่เหมาะสมของหุ้นได้ และศึกษาธุรกิจของหุ้นตัวนั้นเป็นอย่างดี ทำให้เมื่อหุ้นลงมากลุ่ม VI จะรีบเข้าไปซื้อหุ้นที่ตัวเองเฝ้าไว้ ทำให้ได้ที่ราคาต่ำ เมื่อซื้อแล้วก็รอให้หุ้นขึ้นและราคาสะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง แต่ก็มีข้อแตกต่างดังนี้
ข้อดี
ได้ราคาหุ้นที่ฐานราคาทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาผันผวนและลงมาเกินทุนที่ซื้อไว้
กล้าซื้อเมื่อหุ้นเกิดความผันผวนราคาลงมามากๆ เพราะรู้จักพื้นฐานของษริษัทเป็นอย่างดีและรู้ว่านัก ลงทุน สถาบัน และต่างชาติก็ซื้อหุ้นประเภทเดียวกันจึงซื้อก่อนและรอให้ 2 กลุ่มนี้ซื้อเพื่อดันราคาขึ้น ไป
ข้อเสีย
ต้องรอให้หุ้นที่ตัวเองสนใจราคาลงมาที่ฐานล่างก่อนจึงจะซื้อเพราะไม่อย่างงั้น มันจะสี่ยงเกินไป เพราะนักลงทุนกลุ่มนี้จะพิถีพิถันมาก ถ้าราคาไม่ถูกจริงก้ไม่ซื้อ ไม่มีส่วนลดก็ไม่ซื้อทำให้ต้องใช้ เวลาในการรอให้หุ้นลงมา และก็ต้องรอให้ราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานมันต้องใช้เวลารอทั้งสิ้น
ซื้อตาม
จะเหมาะกับนักลงทุนกลุ่ม ที่เล่นเกร็งกำไรเพราะเมื่อมี volume เข้ามาที่หุ้นตัวใดแล้ว ระบบ Scan พบก็เก็บไว้ใน watch list รอจังหวะซื้อจากกราฟ ถ้าราคาขึ้นก็ซื้อตามเลย หรือจะรอให้ราคาย่อก่อนแล้วค่อยพิจารณาเพื่อเข้าสถานะ
ข้อดี
ใช้เวลาไม่นานในการซื้อและรอเข้าสถานะเพราะมีการทำราคาขึ้นมาแล้วระดับหนึ่ง หรือเริ่มเป็นขาขึ้นแล้วจึงหาจังหวะซื้อตาม
เข้าและออกจากหุ้นใช้เวลาไม่นานเพราะตอนเข้าราคาขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ก็ซื้อตามเมื่อราคาขึ้นต่อไปถึงจุดที่ราคาเริ่มตื้อๆ ไม่ไปต่อก็ขายทิ้งแล้วไปเข้าหุ้นตัวอื่นเพื่อทำรอบให้ได้กำไรเร็วๆ
ข้อเเสีย
มีโอกาสผิดทางเพราะ อาจจะเจอจังหวะย่อหรือ ออก sideway มากกว่า VI
การเข้าและออกจากสถานะบ่อยๆ เพื่อทำรอบมีความเสี่ยงที่จะผิดทาง ถ้าเราไม่มีชำนาญในการเลือกกราฟมากพอ
สุดท้าย ก็เลือกการเทรดให้เหมาะกับการลงทุนของเรา แล้วเราจะอยู่กับตลาดได้นานและทำไรได้อย่างต่อเนื่อง
ปล. เป็นแบบไหนกันครับ ผมเป็นแบบแรก ซื้อดัก
ซื้อดัก vs ซื้อตาม
เลือกจังหวะให้เหมาะกับการเทรด
ซื้อดัก
เป็นการซื้อหุ้นที่ราคาอยู่ต่ำๆ เหมาะกับนักลงทุนพวก VI เพราะเมื่อราคาหุ้นลงมาที่ฐาน จะเป็นฐานหรือไม่อันนี้เราต้องพิจารณาเอง นักลงทุนที่กล้าซื้อก่อนก็จะเป็นพวก VI ที่รอโอกาสที่จะได้ซื้อหุ้นราคาถูกที่ตัวเองรอมานาน พวกนี้รู้พื้นฐานของบริษัทเป็นอย่างดีเพราะ มีความรู้ทางด้านบัญชี สามารถคำนวณราคาที่เหมาะสมของหุ้นได้ และศึกษาธุรกิจของหุ้นตัวนั้นเป็นอย่างดี ทำให้เมื่อหุ้นลงมากลุ่ม VI จะรีบเข้าไปซื้อหุ้นที่ตัวเองเฝ้าไว้ ทำให้ได้ที่ราคาต่ำ เมื่อซื้อแล้วก็รอให้หุ้นขึ้นและราคาสะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง แต่ก็มีข้อแตกต่างดังนี้
ข้อดี
ได้ราคาหุ้นที่ฐานราคาทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาผันผวนและลงมาเกินทุนที่ซื้อไว้
กล้าซื้อเมื่อหุ้นเกิดความผันผวนราคาลงมามากๆ เพราะรู้จักพื้นฐานของษริษัทเป็นอย่างดีและรู้ว่านัก ลงทุน สถาบัน และต่างชาติก็ซื้อหุ้นประเภทเดียวกันจึงซื้อก่อนและรอให้ 2 กลุ่มนี้ซื้อเพื่อดันราคาขึ้น ไป
ข้อเสีย
ต้องรอให้หุ้นที่ตัวเองสนใจราคาลงมาที่ฐานล่างก่อนจึงจะซื้อเพราะไม่อย่างงั้น มันจะสี่ยงเกินไป เพราะนักลงทุนกลุ่มนี้จะพิถีพิถันมาก ถ้าราคาไม่ถูกจริงก้ไม่ซื้อ ไม่มีส่วนลดก็ไม่ซื้อทำให้ต้องใช้ เวลาในการรอให้หุ้นลงมา และก็ต้องรอให้ราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานมันต้องใช้เวลารอทั้งสิ้น
ซื้อตาม
จะเหมาะกับนักลงทุนกลุ่ม ที่เล่นเกร็งกำไรเพราะเมื่อมี volume เข้ามาที่หุ้นตัวใดแล้ว ระบบ Scan พบก็เก็บไว้ใน watch list รอจังหวะซื้อจากกราฟ ถ้าราคาขึ้นก็ซื้อตามเลย หรือจะรอให้ราคาย่อก่อนแล้วค่อยพิจารณาเพื่อเข้าสถานะ
ข้อดี
ใช้เวลาไม่นานในการซื้อและรอเข้าสถานะเพราะมีการทำราคาขึ้นมาแล้วระดับหนึ่ง หรือเริ่มเป็นขาขึ้นแล้วจึงหาจังหวะซื้อตาม
เข้าและออกจากหุ้นใช้เวลาไม่นานเพราะตอนเข้าราคาขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ก็ซื้อตามเมื่อราคาขึ้นต่อไปถึงจุดที่ราคาเริ่มตื้อๆ ไม่ไปต่อก็ขายทิ้งแล้วไปเข้าหุ้นตัวอื่นเพื่อทำรอบให้ได้กำไรเร็วๆ
ข้อเเสีย
มีโอกาสผิดทางเพราะ อาจจะเจอจังหวะย่อหรือ ออก sideway มากกว่า VI
การเข้าและออกจากสถานะบ่อยๆ เพื่อทำรอบมีความเสี่ยงที่จะผิดทาง ถ้าเราไม่มีชำนาญในการเลือกกราฟมากพอ
สุดท้าย ก็เลือกการเทรดให้เหมาะกับการลงทุนของเรา แล้วเราจะอยู่กับตลาดได้นานและทำไรได้อย่างต่อเนื่อง
ปล. เป็นแบบไหนกันครับ ผมเป็นแบบแรก ซื้อดัก