ไทม์เฟรม กับ สไตล์การลงทุน

กระทู้สนทนา
ช่วงระยะเวลาที่ใช้วิเคราะห์การลงทุนหรือ “ไทม์เฟรม” (Time Frame) จะเป็นตัวกำหนดสไตล์การลงทุน ระดับความเสี่ยง ผลตอบแทน รวมถึงเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์การลงทุนของเรา ไปดูกันว่าไทม์เฟรมที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อวิธีการลงทุนอย่างไร



ไทม์เฟรมระดับ 1-5 นาที ส่วนมากใช้ในการเทรดหุ้นที่เข้าตลาดวันแรกหรือไอพีโอ เนื่องจากไม่มีกราฟราคาย้อนหลังจึงต้องเล่นในไทม์เฟรมที่สั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง รวมถึงคนที่เทรดตราสารอนุพันธ์อย่าง TFEX เนื่องจากราคามีการเวี่ยงตัวค่อนข้างแรง

ไทม์เฟรมระดับ 15,30,60 นาที ใช้ในการเก็งกำไรหุ้นรายวันหรือเดย์เทรด เนื่องจากราคาหุ้นมีความผันผวนสูง จึงต้องเน้นเข้าออกหุ้นด้วยความรวดเร็ว

ไทม์เฟรมระดับวัน (Day) ใช้วิเคราะห์ทิศทางเมื่อราคาปิดสิ้นวัน (End Of Day) ความผันผวนของราคาจะลดลง เหมาะกับนักลงทุนระยะกลางขึ้นไป จะเริ่มใช้เครื่องมือที่เป็น Lagging Indicator อย่าง MACD,RSI ได้ผลชัดเจน

ไทม์เฟรมระดับสัปดาห์และเดือน (Week and Month) ใช้ในการวิเคราะห์ภาพใหญ่ของหุ้น เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ถือหุ้นนานระดับปีขึ้นไป

ทั้งนี้ไทม์เฟรมที่สั้นมักจะมีความผิดพลาดและความเสี่ยงสูงเช่น ราคาอาจขึ้นผ่านแนวต้านได้ไม่จริง (Fault Break) รวมถึงให้ระดับผลตอบแทนที่ต่ำ อาจจะเพียงแค่ 2-3% ต่อการเทรดหนึ่งครั้ง จึงมักใช้ในการเก็งกำไรระยะสั้น

ขณะที่ไทม์เฟรมตั้งแต่ระดับวันขึ้นไป จะมีความแม่นยำสูง เนื่องจากเป็นการมองภาพใหญ่ของราคา มีความเสี่ยงต่ำและสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง ถ้าลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว (อาจจะต้องมีพื้นฐานที่ดีประกอบด้วย) สามารถสร้างผลกำไรได้ตั้งแต่หลักสิบเปอร์เซ็นต์จนถึงหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ได้เลยทีเดียว

นักลงทุนจึงควรเลือกใช้ไทม์เฟรมในการวิเคราะห์กราฟให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของตัวเอง เพียงเท่านี้เวลาเทรดก็จะไม่สับสนอีกต่อไป

:::Time Frame คือ ช่วงระยะเวลาของแท่งเทียนที่ใช้วิเคราะห์ เช่น ไทม์เฟรมระดับสัปดาห์ (Week) จะเป็นการนำราคา Open,High,Low,Close ของแต่ละสัปดาห์มาแสดงในแต่ละแท่นเทียน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่