[แชร์ประสบการณ์] การซื้อคอนโด ครั้งแรกของผม

สวัสดีครับ ผม เป็นสมาชิกพันทิพย์มานาน แล้วตอนนี้ มีแผนกำลังซื้อคอนโด ซึ่งจะมาแชร์ประสบการณ์ของผม หากผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับผม
เพระ กระทู้ https://ppantip.com/topic/36267715 ทำให้ผมคิดว่า ความกังวล+แผนจะชำระให้ครบ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อ เพื่อนๆพี่ๆไม่มากก็น้อย

ผมอายุ 36-37 ปีเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว จดทะเบียนมาเรียบร้อย เกิน 8 ปี เสียภาษีถูกต้อง
บริษัท มีรายได้ 20-30 ล้านต่อปี ก็ตกเฉลี่ยเดือนและ 2ล้านกว่าๆ ครับ คิดกำไรก้อ 3 แสนบาทต่อเดือน
ให้เงินเดือนตัวเอง 1แสนบาท ต่อเดือน ปลอดหนี้
เงินสดสำรอง ตัวเอง น่าจะราวๆ 1.5 ล้านบาทที่เป็นเงินสด + กองทุนสำรอง 1.3 ล้านของผมเอง
สรุป ผมมีสินทรัพย์ 2.8 ล้านบาท + รายได้ บริษัท 2แสนบาท(หักเงินเดือนผม)+เงินเดือนตัวเอง 1แสนบาท ไม่มีหนี้สิน

ส่วนภรรยาผม อายุเท่ากัน เงินเดือน 35,xxx เป็น อาจารย์มหาวิทยาลัยรัฐ ครับ จึงมีสวัสดีการโดยตรงกับ ธอส ไม่มีหนี้
สรุป ภรรยาผมมี รายได้ 35,xxx บาท + เงินที่จะเพิ่ม +5%ตามอายุงาน+ เงินสวัสดิการอื่นๆ + กองทุนสำรอง 1.3 ล้านบาท

พอผมและภรรยาอายุมากขึ้น ก็อยากจะมีทรัยพ์สินเป็นของตัวเอง(ปัจจุบันอยู่ที่ทำงานข้างบนทำเป็นบ้านแต่เป็นชื่อพ่อแม่)
จะได้มองหา คอนโดหรือบ้าน ด้วยปัจจัยอยากจะให้ใช้ประโยชน์โดยทันที จึงมีแนวความคิดว่าจะซื้อใกล้ที่ทำงานเพื่อย่นระยะเวลาการเดินทางและค่าใช้จ่ายในการเดินทางและทำให้คุณภาพชีวิตดีกว่าปัจจุบัน
มองหาบ้านหรือคอนโดดี?
ปรากฏว่าบ้านแถวที่ทำงานราคา 8ล้าน up และรถติดเดินทางเหนื่อยมากๆจึงคิดว่าไม่ค่อยเหมาะในการซื้อ
ต่อมามองหา คอนโด มีหลายแห่งเลยที่ใกล้ที่ทำงานภรรยาผม และด้วยเคยเช่าคอนโด ยี่สิบกว่าๆ ตรม. จึงรู้สึกว่า เล็กไปไหนๆก้อจะซื้อเป็นของตัวเองจึงอยากอยู่ให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นจึงได้ดูขนาด สี่สิบกว่า ตรม.
โจทย์ในการซื้อคอนโด
1. ใกล้ที่ทำงาน ภรรยา จะได้ใช้ประโยชน์ได้ทันที
1. ใกล้ BTS / MRT (เผื่อเป็นทางเลือกที่สองปล่อยเช่าได้)
1. ใกล้ทางด่วน (ที่อยู่ปัจจุบันใกล้ทางด่วน จึงอยากเดินทางไปคอนโดสะดวก)
2. ใกล้ โรงพยายาล(ไว้เกษียรอยู่จะได้ไป รพ.ใกล้ๆ)
3. ใกล้ห้าง ใกล้ตลาด(ไว้เกษียรจะได้เดินไปซื้อของ ถือว่าออกกำลังกาย)
4. ใกล้คมนาคมทางเลือกอื่น คือ ท่าเรือ,สถานีรถไฟ ปรกติ
5. ใกล้โรงเรียน(ภรรยาผมมองเป็นเรื่องแรก เขตพื้นที่)
6. พื้นที่ 40 กว่า ตรม ขึ้นไป อยู่คล้ายบ้าน ไม่อึดอัด จำนวน unitในโครงการไม่เยอะ
7. วิวสวย(ถ้าเลือกได้ก้ออยากได้วิวสวย นะครับ ตอนนี้ จองคอนโด ได้วิว สวยและชั้น 19 ตรงกับความต้องการ)
8. ถ้าราคาไม่แพงจนเกินไปนักก็พอสู้ไหว

และแล้วก้อมีคอนโด ที่ตอบโจทย์ทุกข้อตามข้างต้น ที่ราคา 7ล้านนิดๆ ติด MRT,ติด รพ.,ติดห้าง,ติดตลาด,ติดท่าเรือ,พื้นที่ห้อง 50 ตรม.,วิวแม่น้ำ,ชั้น 19 (กลัวเรื่องเสียรถดังและวิวสวย) ก้อทำการตกลงจอง 50,000 และทำเรื่องกุ้ธนาคาร 100%
มียื่นไป 5 ธนาคาร ทั้ง5ธนาคารอนุมัติแต่ยอด ได้ 95% บ้าง 100% บ้าง ตอนนี้กำลังรอ ธอส ซึ่งเป็น สวัสดิการของภรรยาผมโดยตรง เหลือแค่ธนาคารเดียวก็จะครบและนำทั้ง 5 ธนาคารมาเลือกว่า ใครเสนอเงื่อนไข ดีที่สุด

ตัวผมมีความเป็นกังวลว่า จะชำระแบบไหน? โปะเท่าไหร่ดี? ต้องแบ่งเงินไว้สำหรับบริษัท? ไว้เรื่องคอนโด? ไว้สำหรับฉุกเฉินเท่าไหร่? จะแบ่งเป็นกี่กองตามหน้าที่? สิ่งเหล่านี้ทำให้ มีความกังวล มาหลายวัน
ดอกเบี้ยธนาคารก็แพงเอาเรื่องอยากโปะ แต่ถ้าไม่โปะแค่เอาเงินไว้กับบริษัท ไว้จ่ายค่าสินค้าก้อจะได้ส่วนลด 3% ต่อเดือน ซึ่งส่วนนี้เข้าใจว่าควรเก็บเงินเอาส่วนลด 3 % ดีกว่าโปะธนาคาร  

ตอนนี้กำลังวางแผนคราวๆว่าจะ มีกลยุทธ์การจ่าย คอนโดต่อเดือนขึ้นต่ำ? หรือโปะเท่าๆกันแต่ละเดือนดี? แบ่งเงินสำหรับเงินหมุนบริษัทเท่าไหร่? เงินฉุกเฉินเท่าไหร่?

เบื้องต้นที่คิดออกในการวางแผนจ่ายคอนโด ครั้งนี้
- คอนโด ราคา 7ล้านกว่าๆ พื้นที่ 50 ตรม จ่ายต่อเดือน ราวๆ 44200 บาท / 30 ปี
1. ให้ ธนาคารหักอัตโนมัติ แต่ละเดือนเพื่อไม่ให้ผิดชำระหนี้แน่นอน
2. บัญชีมีเงินขั้นต่ำ 50000 บาท(เผื่อไว้ 1 เดือน ทุกเดือนจะนำเงินเข้าบัญชีนี้อีก 50000 บาท) ส่วนเกินไว้เป็นค่า ส่วนกลางคอนโด
3. ตั้งใจจะให้ทุกๆ 3 ปี เงินต้นหาย 1 ล้านบาท (ให้ธนาคารแจงว่าที่เราจ่ายไปตัดเงินต้นเท่าไหร่ แล้วจึงค่อยเดิมเงินให้ครบเป้าหมาย 3 ปีเงินต้นหายไป 1 ล้าน) ทำตามนี้ จะ 21 ปี จึงจะเป็นไท
4. จะมีการตรวจสุขภาพทางการเงินก่อนวันที่จ่ายคอนโด ว่า มีเงินสดในตัวทั้งหมดเท่าไหร่ แล้วจึงค่อยตัดสินใจว่าจะโปะในงวดนั้นๆเพิ่มหรือไม่
5. ต้องมีเงินฉุกเฉินบางส่วน
6. ต้องทำให้เงินหมุนในบริษัท มีเพิ่มขึ้นเอาไว้ตัดเงินสดสินค้า ได้รับส่วนลด 3%(เอาส่วนลดมาจ่าย คอนโดเพิ่มได้)

ความเสี่ยงในการไม่สามารถชำระได้
1. ผมและภรรยา มีรายจ่ายต่อเดือน คือค่าใช้จ่ายพอควร แต่ก็ไม่ได้เยอะจนเป็นหนี้(อาจจะเพราะ สนุกในการใช้ชีวิต ถ้ามีหนี้น่าจะใช้น้อยลง นี่ก็เป็นอีกเหตุผมหนึ่งที่ผมจะแปลงค่าใช้จ่ายมาเป็นสินทรัพย์)
2. บริษัทต้องการเงินหมุนที่มากพอ เพราะ ลูกหนี้+เจ้าหนี้ หมุนทันกันพอดีแต่ก็ ฉิวเฉียดทีเดียว จึงอยากมีเงินสำรองไว้พอสมควร(จะทำให้การโปะล่าช้าออกไป)
3. เหตุสุดวิสัย ถ้าบริษัท ยอดขายตกจะต้องมีเงินสดสำรองไว้ตรงนี้อนาคตไม่แน่ไม่นอน

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ สำหรับเพื่อนๆพี่ๆ ถ้าเห็นว่าผมยังมีจุดบกพร่องตรงไหนจะเสริมแล้ว อุดรูรั่ว ผมก็ยินดีรับฟังทุกความเห็นนะครับ
ผมเป็นกังวลมากๆ ว่าสินทรัพย์นี้จะเป็น NPL เพราะใช้เวลาในการปลดหนี้นานมากๆ

ปล. เงื่อนไข ธนาคาร 44200 บาท/30 ปี ถ้าผมเร่ง 3ปี 1ล้านจะใช้เวลา 21 ปี
ปล1 ผมและภรรยาจะมี LTF+ประกันที่ทำก้อจะกลับมาในแต่ละปี คงเอามาจ่ายคอนโดเพื่อโปะหนี้ไป ส่วนการซื้อใหม่คงฉลอ ไปก่อนครับ
ปล2 ผมกู้รวมกับภรรยา ครับ
ปล3 ขอให้ผมปลดหนี้คอนโด ได้ในเร็ววัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่