▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวต่างประเทศ
เลห์ ลาดักห์
..............Leh in my memory 3-7 July no.1
เราบินจากสุวรรณภูมิด้วย jet airway เลทตามระเบียบแต่เราไม่ค่อนเดือดร้อนเพราะ เราจะไปรอขึ้นเครื่องสายๆของอีกวันหนึ่งเพื่อไปเลห์ค่ะ
ครั้งแรกนั่ง jet อาหาร ไม่ค่อยอร่อยข้าวแข็งเลยแต่กินไปเพื่อให้มีอะไรอยู่ท้อง น้ำขนม โยเกิร์ต อร่อยค่ะ เครื่องดื่มบนเครื่องตามมาตรฐาน แต่จขกท.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ ใช้เวลาบิน สี่ชม. ครึ่ง ถึงสนามบินอินธิราคานธี เที่ยงคืนกว่าๆ ไมเจอ ผดส.ที่แย่หรือตัวเหม็นโชคดีไป หลังลงเครื่อง
เปลี่ยนเทอร์มินอล จากสาม ที่jet ลงเป็น เทอร์มินอล 2 เพื่อรอขึ้นเครื่อง go air แปดโมง เชคอินได้ตั้งแต่ตีสอง หาที่นั่ง ที่นอนกันไป กินบ้าง เดินบ้าง
หลังจากนั้นก็ ขึ้นเครื่องอีก ชม.ยี่สิบนาที ถึงเลห์ โอ๊ย วิว ก่อนแลนด์ดิ้งงี้คือ แม่จ้าวนี่มันดาวอังคารชัด ๆแต่เป็นดาวอังคารที่มีโอเอซิส เขียวๆเป็นหย่อมๆจากการละลายของน้ำแข็งบนภูเขาในหน้าหนาว กลายเป็นแอ่งน้ำ แล้วต้นไม้ก็ขึ้นในหน้าร้อน ในเครื่องแบบโลว์คอสไม่มีของแจกไดๆฮ่าๆ ชมวิวกันไป
กรอกใบผ่านตม. แบบยิ้มๆ ลากกระเป๋น มีรถโรงแรมมารับ เข้าเมืองเลห์กันค่ะ สนามบินไม่ไกล สิบ ยี่สิบนาทีเอง
เข้าโรงแรม ทานข้าวสาย นอนสอง ชม. เพื่อให้ร่างกายเราพัก จากระดับความสูงที่เปลี่ยนแปลงกระทันหัน
ความรู้สึกแรกคือ หนาวว นี่มันหน้าร้อนใช่ไม้ คนไทยนอนห่มผ้ากันไปค่ะ เนื่องจากอดนอนมาทั้งคืนและต่อเครื่อง ทุกคนเลยหลับกันไปอย่างง่ายดาย
บ่ายๆวันแรก เค้ากฌพาเราไปวัดค่ะ คนไทยกับวัดเป็นของคู่กัน มาเลห์ก็ต้องมาวัด ไหว้พระให้เป็นสิริมงคล
วัดแรกคือ วัดสันติ ตั้งชื่อเป็นภาษาไทยเอง
เจดีย์สันติภาพ(Shanti Stupa)
เจดีย์สันติภาพ เป็นเจดีย์สีขาว ขนาดใหญ่โดยญี่ปุ่นเป็นผู้สร้างขึ้นเพื่อประกาศพระศาสนาและแสดงถึงสันติภาพแห่งโลก เจดีย์นี้ตั้งอยู่บนยอดเขาในแทบจังสปา ห่างจากเมืองเลห์ประมาณ 2 กิโลเมตร เราสามารถเดินขึ้นบันไดไปชมเจดีย์ได้ เห็นเมืองเลห์ได้ในมุมสูง และมองเห็นพระราชวังเลห์ และ วัดนัมเกลและป้อมแห่งชัยชนะ เจดีย์สันติภาพเปิดให้เข้าชมเวลาประมาณ 05.00 - 21.00 น. ได้เข้าไปกราบพระพุทธรูปด้านในสวยมากค่ะ น่าจะเป็นศิลปะแบบธิเบต ในอุโบสถเป็นพื้นไม้ เงียบสงบมาก
โอ๊ย คือข้างบน วิวสวยมาก ลมแรงมากเช่นกันค่ะ ไม่หนาวมากพอใส่เสื้อยืดได้
แต่อาการที่สูงเริ่มมาหัวใจเต้นเร็วและแรง เดินไปหน่อยๆก็พัก
ลานจอดรถ และทางที่เราเดินมาค่ะ เค้าจะให้รถจอดด้านล่างและเดินขึ้นมาบนเจดีย์ค่ะ
ที่นี่มอเตอร์ไซด์ ยี่ห้อหลักของอินเดียเพียบๆ มีห้องน้ำ แต่ไม่ได้ลอง ใครเคยเข้าที่นี่บ้าง
สถานีถัดไป พระราชวัง เลห์ คือ ฝนตกพอดี ภาพที่ได้จากพระราชวังเลยแบบครึ้มมาก ที่นี่ มีค่าเข้า
คนละยี่สิบรูปี ประมาณ สิบบาท พระเก็บเองเลย ไปกันเย็นมาก ท่านเลยปิดส่วนเก็บเงินแล้วมานั้งได้ใน ที่นี่จะเป็นแบบมืดเล็กๆหน่อย มีอารามกราบพระด้านใน ที่เลห์จะเป็นแบบนี้คือ สร้างอารามไว้ในตัวพระราชวังอีกทีหนึ่ง มีพระพุทธรูปให้สักการะ
มาเที่ยวเลห์ ใครอินกะน้องหมาจะฟินมาก มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ฮ่าๆ ไม่ดุ ไม่ดื้อ และเป็นมิตรทักันทุกสถานที่ท่องเที่ยว
หมดละค่ะ หลังจากนั้นก็กลับโรงแรมและไปเดินตลาด จากตลาดจะเห็นพระราชวัง เลห์ ชัดมาก สวยเพราะอยู่ในสถานที่แบบนี้มันดูเข้ากันกับภูมิประเทศ
แต่พอไปตลาดเลห์ ที่ตลาดจะมีอีกวัด กลางตลาดซ่อนตัวอยู่ วัดไหนก็สวยหมด พระพุทธรูปด้านในยิ่งสวย แต่ที่นี่ห้ามถ่ายรูปด้านในค่ะ
จะมีป้ายติดให้ทราบก่อนขึ้นอุโบสถ
สรุป จบวันแรก ไปแบบประทับใจวิวเมือง และความครึกครื้น ของตลาด แต่ร่างกายพังค่ะ
คือ มีอาการ คัดจมูก แสบตา เวียนหัว และเพื่อนในกลุ่มอาเจียน กลับโรงแรม ทานยาแล้วก็นอนค่ะ ได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้จะไม่เป็นอะไรมากนัก เพราะไม่งั้นแย่ๆแน่ๆ มาวันแรก ก็จะงานเข้า กลางคืนที่โรงแรมหนาวมาก แต่มีน้ำร้อนให้อาบและสามารถ ขอน้ำร้อนเป็นกระติกที่ห้องอาหารได้เค้าจะให้เรามากานึงเลย