นายณพ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวลือ
ธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าหนี้รายใหญ่ของบริษัทอยู่ระหว่างทาบทาม บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เข้ามาซื้อหุ้น WEH
ว่า ขณะนี้ไม่ได้รับการติดต่อจากธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทที่ถูกเอ่ยถึง อีกทั้งไม่ทราบข่าวดังกล่าว
“ผมกู้เงินมา 3 หมื่นกว่าล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยตามกำหนด ธุรกิจก็ไปได้ การก่อสร้างโรงไฟฟ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้วแบงก์กังวลอะไร” นายณพ กล่าว
นายณพ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (ซีโอดี) จำนวน 267 เมกะวัตต์
และเดือน ธ.ค.นี้ โครงการวะตะแบก ที่อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จะก่อสร้างได้ครบ 90 เมกะวัตต์
และอีก 5 โครงการที่ธนาคารไทยพาณิชย์ปล่อยกู้ปีนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จตามแผน 4 โครงการ
และภายในไตรมาสแรกปี 2563 บริษัทจะซีโอดีครบ 720 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ปี 2563 หลังบริษัทซีโอดีครบ 720 เมกะวัตต์แล้ว คาดว่ามีรายได้รวม 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,500 ล้านบาท
ขณะที่ปี 2562 คาดว่ามีรายได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,000-6,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามแผน โดยคาดว่าปลายปีนี้ หรือไม่เกินต้นปีหน้า
คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
โดยธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และขณะนี้ได้จัดโครงสร้างทางการเงินเสร็จแล้ว โดยบริษัทไม่ได้ต้องการเพิ่มทุนจำนวนมาก เนื่องจากหลังซีโอดีครบแล้ว จะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามาต่อเนื่อง
“ผมได้บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง มา 2 ปี ก็มีข่าวเข้ามาตลอดว่าคนนั้นคนนี้ จะเข้ามาเทคโอเวอร์
ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่า มีบริษัทพลังงานทางเลือกแห่งหนึ่ง จะเข้ามาซื้อหุ้นบริษัท” นายณพ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง มีปัญหายืดเยื้อจากการฟ้องร้อง ของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมกับนายณพ และครอบครัวณรงค์เดช
ที่มา หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 4 สิงหาคม 2561
ลื่อหึ่ง SCB ดึงกัลฟ์ซื้อหุ้น ‘วินด์’ เอนเนอร์ยี่ “ณพ” ปัดไม่ได้รับการติดต่อ ยันจ่ายดอกเบี้ยแบงก์ตามปกติ
ธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าหนี้รายใหญ่ของบริษัทอยู่ระหว่างทาบทาม บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เข้ามาซื้อหุ้น WEH
ว่า ขณะนี้ไม่ได้รับการติดต่อจากธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทที่ถูกเอ่ยถึง อีกทั้งไม่ทราบข่าวดังกล่าว
“ผมกู้เงินมา 3 หมื่นกว่าล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยตามกำหนด ธุรกิจก็ไปได้ การก่อสร้างโรงไฟฟ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้วแบงก์กังวลอะไร” นายณพ กล่าว
นายณพ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (ซีโอดี) จำนวน 267 เมกะวัตต์
และเดือน ธ.ค.นี้ โครงการวะตะแบก ที่อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จะก่อสร้างได้ครบ 90 เมกะวัตต์
และอีก 5 โครงการที่ธนาคารไทยพาณิชย์ปล่อยกู้ปีนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จตามแผน 4 โครงการ
และภายในไตรมาสแรกปี 2563 บริษัทจะซีโอดีครบ 720 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ปี 2563 หลังบริษัทซีโอดีครบ 720 เมกะวัตต์แล้ว คาดว่ามีรายได้รวม 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,500 ล้านบาท
ขณะที่ปี 2562 คาดว่ามีรายได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,000-6,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามแผน โดยคาดว่าปลายปีนี้ หรือไม่เกินต้นปีหน้า
คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
โดยธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และขณะนี้ได้จัดโครงสร้างทางการเงินเสร็จแล้ว โดยบริษัทไม่ได้ต้องการเพิ่มทุนจำนวนมาก เนื่องจากหลังซีโอดีครบแล้ว จะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามาต่อเนื่อง
“ผมได้บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง มา 2 ปี ก็มีข่าวเข้ามาตลอดว่าคนนั้นคนนี้ จะเข้ามาเทคโอเวอร์
ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่า มีบริษัทพลังงานทางเลือกแห่งหนึ่ง จะเข้ามาซื้อหุ้นบริษัท” นายณพ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง มีปัญหายืดเยื้อจากการฟ้องร้อง ของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมกับนายณพ และครอบครัวณรงค์เดช
ที่มา หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 4 สิงหาคม 2561