Shoplifters (Hirokazu Koreeda, 2018) คะแนน A+
By Form Corleone
"ความสัมพันธ์ที่เลือกได้ สามารถยึดโยงใจไว้ด้วยกัน" Shoplifters ภาพยนตร์ของผู้กำกับ 'ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ' ชนะรางวัล Palme d'Or (รางวัลปาล์มทองคำ) ปีล่าสุด เล่าเรื่องราวของครอบครัวยากจน สะท้อนผ่านการลักเล็กขโมยน้อย ที่ไม่ได้ยัดเยียดศีลธรรมอันดีหรือแสดงภาวะให้เราต้องกล่าวโทษตัวละครแต่ละตัวต่อพฤติกรรมที่พวกเขาเลือก ความน่าสนใจคือหนังพาเราไปพบเจอครอบครัวยากจนที่ดูผิวเผินไม่น่าจะมีอะไรพิเศษ และคงไม่ได้มีความสลับซับซ้อนด้วยที่มาที่ไปในช่วงเริ่มต้น แต่ตัวหนังกลับพาเราไปพบเจอคำถามต่อความสัมพันธ์ที่ดูแสนเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และตั้งคำถามปลายเปิดให้เราตระหนักถึงความสัมพันธ์ทั้งหมดได้อย่างดีงามทรงพลัง ซับพล็อตต่างๆ ที่หนังเลือกหยิบมานั้นสามารถยึดโยงเข้ากันได้อย่างกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว เช่น ประเด็นระหว่างความรักของผู้ให้กำเนิด เรื่องราวความรักที่อยู่เหนือจากความผูกพันทางสายเลือด การเลือกอยู่ในครอบครัวที่เลือกได้เอง การลักเล็กขโมยน้อย หรือกระทั่ง คำถามต่อการกระทำที่ตัวละครเหล่านั้นเลือกทำไม่ได้ถูกแบ่งแยกจากความดีหรือความไม่ดีอย่างมีนัยสําคัญ ฯลฯ
การดำเนินเรื่องของ 'Shoplifters' เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยมุมมองที่พาเราไปโฟกัสตัวละครทั้งหมดได้หลากหลายมิติ เราสามารถยึดโยงไปกับตัวละครและสังเกตการณ์ตัวละครไปได้ตลอดทั้งเรื่อง แง่มุมหนึ่ง เราจึงกลายเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่อยู่กับครอบครัวนี้และเชื่อมั่นว่าตัวละครจะสามารถฝ่าวิกฤตต่างๆไปได้ และยังมองว่าสิ่งที่ตัวละครเลือกกระทำนั้นไม่ได้ผิดมนุษย์เกินไป แต่ในภาวะหนึ่งที่เรากลายร่างเป็นผู้สังเกตด้วยมุมมองที่อยู่ห่างไกลออกไปจากตัวละคร ค่อยๆมองดูพฤติกรรมของตัวละครอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรากลับพบว่า พฤติกรรรมต่างๆเหล่านี้ดูน่าสงสารและแน่นอนว่าต้องเวทนาจนบาดลึกต่อความรู้สึก และส่งอิทธิพลกระทบต่อห้วงความคิดคำนึงถึงบริบทแวดล้อมเหล่านั้น ทั้งหมดจึงสร้างความน่าสลดใจและน่าเศร้าใจชนิดที่ไม่อยากดูเรื่องราวแบบนี้ซ้ำรอบสอง ฉะนั้นแล้ว รูปแบบการทำงานของหนังเรื่องนี้จึงเป็นการให้ไดอะล็อกต่างๆทำหน้าที่ค่อยๆกัดกินอารมณ์ความรู้สึกของเราไปเรื่อยๆ และปิดท้ายด้วยใจสลายอย่างน่าทึ่ง จนเผลอร้องไห้ออกมาไม่รู้ตัว ผนวกด้วยงานภาพที่ละมุมและเรียบง่ายสื่อสารออกมาได้ทรงพลัง
ประเด็นที่เราชอบมากๆ คือการตั้งคำถามต่อการอยู่รวมกันเป็นครอบครัว ที่จำเป็นแน่หรือที่ทุกคนจะต้องมีสายเลือดเดียวกัน จำเป็นด้วยหรือไม่ที่เราจะต้องรักผู้ให้กำเนิด หรือกระทั่ง เรายังเชื่อคำพูดที่บอกว่า 'พ่อแม่ทุกคนไม่มีใครไม่รักลูกได้อีกหรือเปล่า?' เพราะสาเหตุที่เรารักพ่อแม่ของเรา จริงๆอาจเป็นเพราะพ่อกับแม่ส่งมอบความรักมาให้เราอย่างสม่ำเสมออยู่ตลอดเวลา เราจึงเลือกที่จะอยู่ในครอบครัวนี้เพราะเราได้รับความรักจากคนในครอบครัวชนิดที่ไม่เคยขาดตกบกพร่องที่ส่วนไหน แต่ถ้าเราไม่ได้รับความรักจากคนในครอบครัว จำเป็นด้วยหรือที่เราจะต้องอาศัยอยู่ในครอบครัวนี้ จำเป็นหรือเปล่าที่เราต้องมอบความรักให้คนที่ไม่รักเราอย่างจริงใจ ด้วยเงื่อนไขว่าเขาคนนั้นคือผู้ให้กำเนิดเรา ทั้งๆที่เราเลือกไม่ได้ว่าจะต้องมาอาศัยอยู่ในท้องใครมาตั้งแต่ต้น และครั้งที่เราเลือกได้ การเลือกอยู่กับใครหรือครอบครัวไหนคือการสร้างความผูกพันที่แนบแน่นที่สุดให้กับความสัมพันธ์ทั้งคนให้และคนรับอย่างแท้จริงใช่หรือไม่? คำถามที่กรีดแทงใจ คือ เราสามารถใช้คำว่าแม่หรือพ่อได้หรือเปล่า ถ้าเราไม่ได้ให้กำเนิดเด็กหนึ่งคนขึ้นมาเอง และเด็กสามารถเรียกแม่หรือพ่อผู้ที่ไม่ได้ให้กำเนิดเขามาได้ด้วยเสียงที่ดังพอจะได้ยินขนาดไหน?
ท้ายสุด 'Shoplifters' เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การดูและทำให้เราตระหนักถึงความสัมพันธ์แบบครอบครัว ที่อยู่นอกเหนือเหตุผลที่เราเคยเข้าใจ ทำให้เราได้สัมผัสชุดความคิดที่ตั้งคำถามต่อสถาบันครอบครัวในอีกแง่มุมหนึ่ง พร้อมทั้งคำถามต่างๆมากมายผ่านบทสนทนาที่น่าสนใจและลุ่มลึกไปด้วยการจัดวางองค์ประกอบของแต่ละฉาก รวมถึงวิธีดำเนินเรื่องที่เนิบช้าเป็นธรรมชาติแฝงไปด้วยเสน่ห์ที่สมจริงในทุกๆอิริยาบถ งานภาพพร้อมด้วยเหล่านักแสดงสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ละเมียดละไมลึกซึ้ง ทั้งหมดจึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนใจและต้องขบคิดต่อความน่าสลดเศร้าหมองสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปอีกนาน...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Shoplifters (Hirokazu Koreeda, 2018) รีวิวโดย Form Corleone
By Form Corleone
"ความสัมพันธ์ที่เลือกได้ สามารถยึดโยงใจไว้ด้วยกัน" Shoplifters ภาพยนตร์ของผู้กำกับ 'ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ' ชนะรางวัล Palme d'Or (รางวัลปาล์มทองคำ) ปีล่าสุด เล่าเรื่องราวของครอบครัวยากจน สะท้อนผ่านการลักเล็กขโมยน้อย ที่ไม่ได้ยัดเยียดศีลธรรมอันดีหรือแสดงภาวะให้เราต้องกล่าวโทษตัวละครแต่ละตัวต่อพฤติกรรมที่พวกเขาเลือก ความน่าสนใจคือหนังพาเราไปพบเจอครอบครัวยากจนที่ดูผิวเผินไม่น่าจะมีอะไรพิเศษ และคงไม่ได้มีความสลับซับซ้อนด้วยที่มาที่ไปในช่วงเริ่มต้น แต่ตัวหนังกลับพาเราไปพบเจอคำถามต่อความสัมพันธ์ที่ดูแสนเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และตั้งคำถามปลายเปิดให้เราตระหนักถึงความสัมพันธ์ทั้งหมดได้อย่างดีงามทรงพลัง ซับพล็อตต่างๆ ที่หนังเลือกหยิบมานั้นสามารถยึดโยงเข้ากันได้อย่างกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว เช่น ประเด็นระหว่างความรักของผู้ให้กำเนิด เรื่องราวความรักที่อยู่เหนือจากความผูกพันทางสายเลือด การเลือกอยู่ในครอบครัวที่เลือกได้เอง การลักเล็กขโมยน้อย หรือกระทั่ง คำถามต่อการกระทำที่ตัวละครเหล่านั้นเลือกทำไม่ได้ถูกแบ่งแยกจากความดีหรือความไม่ดีอย่างมีนัยสําคัญ ฯลฯ
การดำเนินเรื่องของ 'Shoplifters' เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยมุมมองที่พาเราไปโฟกัสตัวละครทั้งหมดได้หลากหลายมิติ เราสามารถยึดโยงไปกับตัวละครและสังเกตการณ์ตัวละครไปได้ตลอดทั้งเรื่อง แง่มุมหนึ่ง เราจึงกลายเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่อยู่กับครอบครัวนี้และเชื่อมั่นว่าตัวละครจะสามารถฝ่าวิกฤตต่างๆไปได้ และยังมองว่าสิ่งที่ตัวละครเลือกกระทำนั้นไม่ได้ผิดมนุษย์เกินไป แต่ในภาวะหนึ่งที่เรากลายร่างเป็นผู้สังเกตด้วยมุมมองที่อยู่ห่างไกลออกไปจากตัวละคร ค่อยๆมองดูพฤติกรรมของตัวละครอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรากลับพบว่า พฤติกรรรมต่างๆเหล่านี้ดูน่าสงสารและแน่นอนว่าต้องเวทนาจนบาดลึกต่อความรู้สึก และส่งอิทธิพลกระทบต่อห้วงความคิดคำนึงถึงบริบทแวดล้อมเหล่านั้น ทั้งหมดจึงสร้างความน่าสลดใจและน่าเศร้าใจชนิดที่ไม่อยากดูเรื่องราวแบบนี้ซ้ำรอบสอง ฉะนั้นแล้ว รูปแบบการทำงานของหนังเรื่องนี้จึงเป็นการให้ไดอะล็อกต่างๆทำหน้าที่ค่อยๆกัดกินอารมณ์ความรู้สึกของเราไปเรื่อยๆ และปิดท้ายด้วยใจสลายอย่างน่าทึ่ง จนเผลอร้องไห้ออกมาไม่รู้ตัว ผนวกด้วยงานภาพที่ละมุมและเรียบง่ายสื่อสารออกมาได้ทรงพลัง
ประเด็นที่เราชอบมากๆ คือการตั้งคำถามต่อการอยู่รวมกันเป็นครอบครัว ที่จำเป็นแน่หรือที่ทุกคนจะต้องมีสายเลือดเดียวกัน จำเป็นด้วยหรือไม่ที่เราจะต้องรักผู้ให้กำเนิด หรือกระทั่ง เรายังเชื่อคำพูดที่บอกว่า 'พ่อแม่ทุกคนไม่มีใครไม่รักลูกได้อีกหรือเปล่า?' เพราะสาเหตุที่เรารักพ่อแม่ของเรา จริงๆอาจเป็นเพราะพ่อกับแม่ส่งมอบความรักมาให้เราอย่างสม่ำเสมออยู่ตลอดเวลา เราจึงเลือกที่จะอยู่ในครอบครัวนี้เพราะเราได้รับความรักจากคนในครอบครัวชนิดที่ไม่เคยขาดตกบกพร่องที่ส่วนไหน แต่ถ้าเราไม่ได้รับความรักจากคนในครอบครัว จำเป็นด้วยหรือที่เราจะต้องอาศัยอยู่ในครอบครัวนี้ จำเป็นหรือเปล่าที่เราต้องมอบความรักให้คนที่ไม่รักเราอย่างจริงใจ ด้วยเงื่อนไขว่าเขาคนนั้นคือผู้ให้กำเนิดเรา ทั้งๆที่เราเลือกไม่ได้ว่าจะต้องมาอาศัยอยู่ในท้องใครมาตั้งแต่ต้น และครั้งที่เราเลือกได้ การเลือกอยู่กับใครหรือครอบครัวไหนคือการสร้างความผูกพันที่แนบแน่นที่สุดให้กับความสัมพันธ์ทั้งคนให้และคนรับอย่างแท้จริงใช่หรือไม่? คำถามที่กรีดแทงใจ คือ เราสามารถใช้คำว่าแม่หรือพ่อได้หรือเปล่า ถ้าเราไม่ได้ให้กำเนิดเด็กหนึ่งคนขึ้นมาเอง และเด็กสามารถเรียกแม่หรือพ่อผู้ที่ไม่ได้ให้กำเนิดเขามาได้ด้วยเสียงที่ดังพอจะได้ยินขนาดไหน?
ท้ายสุด 'Shoplifters' เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การดูและทำให้เราตระหนักถึงความสัมพันธ์แบบครอบครัว ที่อยู่นอกเหนือเหตุผลที่เราเคยเข้าใจ ทำให้เราได้สัมผัสชุดความคิดที่ตั้งคำถามต่อสถาบันครอบครัวในอีกแง่มุมหนึ่ง พร้อมทั้งคำถามต่างๆมากมายผ่านบทสนทนาที่น่าสนใจและลุ่มลึกไปด้วยการจัดวางองค์ประกอบของแต่ละฉาก รวมถึงวิธีดำเนินเรื่องที่เนิบช้าเป็นธรรมชาติแฝงไปด้วยเสน่ห์ที่สมจริงในทุกๆอิริยาบถ งานภาพพร้อมด้วยเหล่านักแสดงสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ละเมียดละไมลึกซึ้ง ทั้งหมดจึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนใจและต้องขบคิดต่อความน่าสลดเศร้าหมองสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปอีกนาน...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/