Leh Ladakh เที่ยวแบบวัฒนธรรม วิถีคนลาดักห์ ธรรมชาติ และวิวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

Leh Ladakh (เลห์ ลาดัก) เมืองแห่งเทือกเขาHimalaya วิวแกรนด์ทุกที่
Flight มาLehคือการได้บินอยู่บนสวรรค์




Ladakhคือพื้นที่ทั้งหมด Lehคือเมืองหลวง
คนลาดักห์เรียกว่า Ladakhi เค้าไม่ใช่คนอินเดีย มีหน้าตา2แบบ คือแบบแขกอ่อนๆ กับคนที่หน้าตาดูจีนที่ผิวคล้ำกว่าจีนปกติ มีเรื่องเล่าโรแมนติกถึงkingที่เป็นคนลาดักห์รักกับqueenมุสลิมที่มาจากCentral Asiaบรรพบุรุษของคนที่นี่
คนที่หน้าแขกนับถือศาสนาอิสลาม และคนที่หน้าจีนคือคนพุทธแบบทิเบต พระดาลัยลามะมาที่นี่บ่อย มีธงที่เป็นทิเบตอยู่เต็มเมือง








ที่ตลาดเลห์มีขายงานทำมือของชาวบ้าน พวกกระเป๋าหนัง ผ้าพันคอ พรม  เราได้กระเป๋าสะพายใบเล็กหนังวัวแท้ผสมกับขนแกะมาหนึ่งใบ ราคาแค่ 1,200 รูปี หรือประมาณ 600 บาท สวยเลย


คนที่นี่ชอบเอาหินมาเรียงซ้อนกัน บางทีก็วางเฉยๆไม่มีการเชื่อมด้วยปูนเลย ทำเป็นกำแพง ทำเป็นผนังบ้าน เรียงไว้ริมถนน วางเล่นเป็นชั้น ที่เป็นกองจตุรัสริมถนนใหญ่เท่ากับหนึ่งคันรถเค้าขายด้วย





ที่เที่ยวสวยที่ต้องไปก็มี Pangong lake, Tsumoriri lake, Nubra Valley, Magnetic Hills วิวใหญ่ทุกที่

ได้ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวดูManetic Hills คือชิวและดี ดูคนRafting ที่ Sangam, River meeting point









Raftingคือคล้ายการล่องแก่ง ที่นี่น้ำเชี่ยวระยะทางไกลchallengeมาก บางคนก็พายคยักแบบไม่กลัวเลย


Tsumoriri Lake คือวิวgrandมาก ภูเขาอลังการ ท้องฟ้าสีฟ้า เมฆสีขาว น้ำสีฟ้า อยากลงไปแหวกว่ายมาก ตอนหน้าหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง ภูเขาจะเป็นสีขาวปกคลุมด้วยหิมะ พักในแคมป์คือฟิน




















ที่จุดสูงเค้าจะเอาธงมาทำสวยๆแบบนี้




Trekking คือ จะเดินไปเรื่อยๆตามเส้นทาง เอาของใส่บนม้า ค่ำไหนนอนนั่น จะประมาณ 5-6วัน แน่นอนมากคนที่สามารถtrekkingได้ คือที่นี่เราเดิน 10ก้าว ยืนพัก1นาที ที่นี่สูงอ๊อกซิเจนจะน้อย เดินแล้วจะเหนื่อยมากกว่าปกติ ขึ้นบันได3ชั้น อย่างกับเล่นคาดิโอครึ่งชั่วโมง


Yak จะเห็นได้เฉพาะในภูมิภาคนี้เท่านั้น ตัวสีดำคล้ายกระทิงผสมวัวผสมม้า รูปร่างแข็งแรง จะชอบร้องตอนกลางคืน เป็นเสียงที่ไม่คุ้นหู ชาวบ้านเค้ากินเนื้อมันด้วย สัตว์ทุกชนิดที่นี่อ้วนท้วนอุดมสมบูรณ์ทุกตัวแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ได้เห็นสัตว์แปลกๆที่บ้านเราไม่ค่อยได้เห็น (รูปล่างเป็นลาน้อยนะคะ ไม่ใช่Yakนะ)


Maggiอาหารemergencyยอดฮิตในเมนูระหว่างเดินทางและมีทุกที่ milk tea ก็อร่อย เค้าเรียกinstant noodle ว่าMaggi เหมือนที่เราเรียกมาม่า


มีอาหารทิเบต Momo, Lassi อร่อยชอบมาก และอาหารอินเดียChapati rotti เป็นแป้งที่ใส่มะเขือเทศพริกนิดหน่อยกินกับซุปถั่วและซุปครีม, และโชริพูริ เป็นแป้งแผ่นพองๆกินกับซุปถ้วยเล็กๆ อาหารIndia







การเดินทางจะต้องบินมาที่เดลีก่อน แล้วต่อไปที่เลห์ ขากลับ เมื่อเครื่องบินมาถึงเดลี โอ้วพระแม่ เมืองเดลีเขียวขจีมาก ต้นไม้เยอะกว่าทุกเมืองใหญ่ที่เคยเจอ (ขามาไฟล์ทกลางคืนเลยไม่เห็นวิวที่เดลี) Flightมาเลห์จะมีตั้งแต่ตอนเช้ามืดถึงเที่ยงๆ
สนามบินเดลี มีอาหาร ฟาสฟู๊ด อย่างแมคโดนัล , KFC, Subway, Domino Pizza, ect ไม่อดตายค่ะ เราเลือกกินข้าวซอยร้านอาหารไทย-จีน และในDuty Free ก็มีของให้ซื้อเยอะเลย สินค้าHimalaya มีหลากหลายมาก ซื้อกลับมาฝากได้เลยราคาไม่แพง
ค่าเงินอินเดีย 1 บาท เท่ากับประมาณ 2 รูปี ค่าครองชีพที่นี่ไม่แพง ซื้อของกินของใช้ของฝากได้สบาย  


เราไปโดยใช้บริการlocal tour ของบริษัท Himalaya Insight แนะนำค่ะ ทุกอย่างดีเลย มารับที่สนามบินและดูแลจนจบทริปส่งถึงสนามบิน  เค้าให้พักที่Noble House ซึ่งสวย ใหม่ สะอาด มีน้ำอุ่น พ่อครัวทำอาหารอร่อย ทำอาหารไทยได้ด้วย แถมเค้าจัดรอบกองไฟทำไก่บาบีคิวให้กิน ให้แขกทุกคนมาจอยกัน แลกเปลี่ยนเพลงของชาติตัวเองให้คนอื่นฟัง ร้องเพลงเต้นกัน ตอนที่เราไปมีรัสเซีย เนปาล อินเดีย คนไทย และคนลาดักห์ สนุกมาก  
Himalaya Insight :  abidleh@gmail.com/ Phone: +91 01982-2516671/ / mobile: +91 9419299067

















และ The Master Piece ของเราในทริปนี้ก็คือ ....
ขอบอกเลยว่าสวยกว่าที่ใครเคยทำมาทั้งหมด ยิ้ม

ปล. วันที่เดินทาง 26-31 กรกฎาคม, 2561  (26-31 July, 2018)
พอจะให้คำแนะนำได้นะคะ ทักมาได้ค่ะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่