หลังจากทริปขับรถที่ Wakayama ขาลากที่นัมบะ และโกเบแบบแหวกแนว(เที่ยวแบบลืมเรื่องเนื้อโกเบไปเลย) วันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่จะพาทุกคนเดินทางด้วยคันไซpassไปยังนาราเมืองกวางน้อย ฮิ้ววววววววววว   หน้าตาของบัตรสวรรณ์ก็จะเป็นแบบนี้


ง่อวววววว คือมีความบางมาก ใส่กระเป๋ากางเกงคือพับ แหะๆ ช่างเหอะ อันดับแรกจขกท.ขอเริ่มจากสถานีรถไฟ Numba Station กันเลย นั่งรถไฟสาย kintesu ไปยัง Kintesu Nara station สุดสายนาจา เมื่อถึงแล้ว สถานที่แรกที่ต้องไปเหยียบคือ วัดโคฟุคุจิ เป็นวัดที่เก่าแก่มากๆวัดหนึ่งของนาราเลยทีเดียว




เดินต่อไปอีกหน่อยก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย นุ้งกวาง ฮุฮิ ที่ Nara park แต่อย่าได้คาดหวังว่ากวางนั้นเป็นสัตว์น้อยน่ารักอัธยาศัยดี ลืมความคิดนั้นไปซะเถอะ กวางแบบนั้นมีแค่ในDisney นะหนูว ถ้าไม่เชื่อดูนี่


โปรดอย่าได้สนใจว่าภาพกลับหัว เราทำดีที่สุดแล้ว>< เข้าเรื่องเลย เห็นกันมั๊ย! ความโหดร้ายที่ไม่มีเล่าในนิทาน ป้ายมันคือ Bite Kick Butt knock down มาเป็นเสต็บมวยปล้ำ ป่ายวาดซะโคตรคิคุ คืออัลไร แต่ถึงเห็นป้ายแบบนี้ ผู้กล้าทั้งหลาย มาถึงนาราแล้วต้องเอาให้สุด ให้อาหารกวางแบบนักรบ คำเตือนก่อนเข้าสมรภูมิ เตรียมหนีบกระเป๋าไว้ดีๆ  เวลาให้อาหารระวังโดนงาบนิ้ว คนใส่เสื้อผ้าสวยๆทั้งหลายต้องทำใจ โดนน้ำลายทำลายล้างแบบหมดสภาพแน่นอน(ก็เวอร์ไป~)  เรื่องถ่ายรูปไม่ต้องห่วง คือมันรู้งานดี นิ่งแบบ โวววววว ขอจ้างไปเป็นนายแบบเลยเจ้าเอ๊ย  ไม่ต้องห่วงว่าไม่ได้ภาพ คือห่วงตัวเองว่าจะโดดงาบไปกินรึเปล่าก็พอ



หน้าแบบ ป๋มไม่ผิด ป๋มไม่รู้เรื่อง เสื้อนั้น นะนะนะน้ำลาย
หลังจากรอดตายจากสมรภูมิกวางน้อง ก็เดินมาถึงศาลเจ้า ระหวางทางเดินเหมือนจะคล้ายๆสุสาน คือเหมือนจะน่ากลัวนะ แต่สวยมากอะ




ไปศาลเจ้าแล้วยังไม่พอ ต่อด้วยวัดดังของนารา วัดโทไดจิ ระหว่างเดินทางเข้าวัดจะมี มีของเล่น ขนม ของฝากต่างๆนาๆมาขาย คือที่มันมาก็เพื่อสูบเงินของเรานั่นเอง กำกระเป๋าไว้ดีๆ ทริปนี้ยังอีกยาวไกลทุกคน อย่าได้หลังเชื่อกลิ่นมันเผาหอมๆ และดังโงะขาวๆ



เหออออออ เรียบร้อย ใครเสียเงินไปแล้วก็ต้องปกป้องอาหารของคุณด้วยชีวิต สิ่งมีชีวิตอย่างกวางๆมันโผล่มาได้ตลอด และพร้อมที่จะเอามันเผากับโงะของเราไป อ่ออีกอย่างระวังเหยียบกับระเบิดนะจ๊ะ เตือนหย่างผู้หวังดีเพราะน่าจะเหยียบไปแล้ว อ่าาาาาเยี่ยม


อย่าได้สนใจกวางเลย กลับมาที่วัดกันเถอะ วัดโทไดจินั้นเป็นวัดไม้ที่เก่าแก่มากและมีประตูวัดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โบสถ์ของวัดทำจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เล่ากันว่าถ้าเราเดินผ่านลานกว้างที่มีเสาไม้สำคัญๆเหล่านี้ จะพบเจอความโชคดีในปีนั้น


ขอบคุณนะเจ้าที่บังวิว


ง่าาาาาาาาทริปนาราหมดแล้วจ๊า ต่อจากนี้คือไปแวะทานอาหารเที่ยงแถวๆสถานีรถไฟ Kintetsu station และไปต่อกันที่ Osaka แวะชิมขนมโมจิเกาลัดนิดนึง



การเดินทางไปโอซาก้านั้นขอเล่าละกันน๊อ คือไม่มีอะไรมาก ง่ายๆคือหลงอะนะ เข้านู่นออกนี่จากรถไฟยันรถบัส แต่โชคดีมี kansai pass เพราะมันสามารถใช้กับรถบัสได้ด้วยง่อววววว แต่ต้องดูคันที่บอกว่ารับคันไซpassนะ ไม่งั้นยื่นไปคืองงทั้งคนขับทั้งคนยื่น
เอาเป็นว่าเราก็เอาตัวรอดกันจนมาถึงปราศาทโอซาก้า ที่เลือกมาตอนเย็นเพราะอยากได้วิวพระอาทิตย์ตกดิน และยังมีโอกาศเข้าไปซื้อของและเล่นเกมเกี่ยวกับนินจาด้วย ชอบเวลาเค้าเปิดไฟตอนกลางคืนนะ สวยๆดี มีความโรแมนติกฮี้วววววววว



วิวจากปราศาทก็สวยยยยย

เนื่องจากหลงนานเลยต้องรีบกลับนัมบะไปกินข้าวก่อน ภาพปราศาทเลยไม่ได้มีเยอะอะนะ เสียจายยยยย  นั่งรถไฟใต้ดิน Tonimachi line ไปถึงสถานีTanimachi และต่อด้วย  Nodahanshin ไป Numba station มื้อเย็นวันนี้คือเสี่ยวหลวงเปา มีหมู เนื้อ กุ้ง ปู และซาลาเปาไก่ ทุกอย่าง 410เยน/เข่ง คือหิวมาก จัดกันไป 9 เข่ง ยังไม่พอนะไปเดินนัมบะ ปลาไทยากิ และ ทาโกะยากิ ก็กินเรียบ





ทริปคันไซวันที่ 1 ก็จบลงแล้ว ถ้าใครอยากติดตามคันไซpassวันที่ 2 (บัตรใช้ได้สองวัน)  กับ Kyoto ก็อย่าลืมติดตามกันน๊อ ส่วนสำหรับคนที่มีข้อคิดเห็นอยากรู้อะไร อยากถามอะไร และ อยากแชร์ประสบการของตัวเองที่ญึ่ปุ่นบ้างก็อย่าลืม comment ไว้ด้านล่างเลย หวังว่ากระทู้นี้จะทำให้หลายคนสนใจเกี่ยวกับNara มากขึ้น ขอบคุณค่า