เนื่องจากกระทู้มีความยาวมาก เลยขอแบ่งเป็นกระทู้ย้อยๆตามนี้
กระทู้ 1: Kansai ครบรส เที่ยว เดิน ขับ นั่ง กิน ชิว
Kansai Airport/ ขับรถไป Wakayama / Shoyu factory / Hotel Urashima / เมือง Nachikatsuur /ศาลเจ้า Kumamo nachi Taisha / จุดพักรถ Hashigui-Iwa rock / Sandam beki ถ้ำโจรสลัด
ตัวเมือง Wakayama/ ร้านราเมงชื่อดัง Ide shoten/ Porto Europa หมู่บ้านอเมริกา / ตลาดปลา kuroshio / Kishi Station สถานีรถไฟแมวทามะ / ตลาด Yottett Market
นั่งรถไป Numba, Osaka/ ร้านแกงกะหรี่ + ราเมง Oretachi no curry~ya
กระทู้ที่ 2: เดินจนขาลากที่ นัมบะ โอซาก้า
Numba / รูปปั้น Fudomyoo / ป้ายปูยักษ์ขยับได้ / คุยดะโอเรทาโร่ / ปลาปักเป้า / ป้ายซูชิมากุโร่ / ป้ายกูลิโกะ โดทงโบริ / ร้านราเมง Nagahori / local supermarket uper Tamade Kujo shop
กระทู้ที่ 3: เที่ยวคันไซ มีหรือจะพลาดโกเบ
Kobe/ Herb Garden / Nankin-machi, Kobe Chinatown / ร้านอาหารจีนเด็ด Minsei / หมู่บ้านKitano - cho / ร้านทงคัตสึแบบlocal
กระทู้ที่ 4: Osaka Nara trip หานุ้งกวางที่นารา
Nara/ Nara park / วัดโทไดจิ / Osaka / ปราสาทOsaka /
กระทู้ที่ 5: Kyoto Family Trip คือดีย์~
Kyoto/ วัดจิ้งจอกฟูชิมิ/ เสาประตูโทริอิ / kyoto style beef restaurant / วัดน้ำใส มรดกโลก / Gion เมืองเกอิชา
กระทู้ที่ 6: Kansai series มุดเข้า Osaka aquarium ออกที่ Outlet
Osaka aquarium / outlet/ วัดเท็นโนจิ
หลังจากทริปที่ osaka และ Wakayama ก็ถึงเวลาของโกเบ เมืองแห่งแห่งเนื้อชั้นดี แต่วันนี้จขกท.จะพาทุกคนไปดูอีกมุมของโกเบที่มีดีไม่แพ้เนื้อเลย และจุดมุ่งหมายแรกของทริปนี้คือ Nunobiki Herb garden
เริ่มต้นทริปวันนี้จากสถานีนัมบะ นั่งรถไฟสาย นั่งรถไฟใต้ดินสายhanshin ไปสถานีKobe-sannomiya.
#ขอพูดถึงเรื่องกาซื้อตั๋วนิดนึง
แนะนำว่าสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาซื้อตั๋วทีละเที่ยวให้ซื้อเป็นบัตรเติมเงินดีกว่า บัตรเติมเงินสามารถซื้อได้ตามตู้ขายตั๋วธรรมดาโดยจขกท.เติมเงินไว้ที่¥1000 มัดจำไว้ก่อน ตอนไปคืนบัตรจะได้เงินคืน แต่ต้องระวัง ถ้าใช้เงินในบัตรไม่หมดต้องจ่ายค่าเอาเงินออกจากบัตรด้วย
จากสถานีsannomiyaให้นั่งต่อไปอีก 1สถานี ถึShin kobe จากนั้นให้เดินตามป้ายHerb gardenเลยจ๊า
ก่อนที่จะไปถึงยอดสุดของHerb Garden ต้องนั่งกระเช้าเสียก่อน โดยราคาอยู่ที่ ¥900เยนต่อคน เฉพาะขาไป ถ้าอยากได้ตั๋วทั้งไปและกลับ ราคาจะอยู่ที่ ¥1400เยน (ตั๋วต้องซื้อจากเครื่องขายตั๋ว)
พอขึ้นไปถึงยอดก็จะเป็นสวนดอกไม้ใบหญ้า และจุดชมวิวที่สวยมากๆ อาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆที่นี่ให้ครั้งรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในประเทศยุโรปเลยทีเดียว เวลาเดินเข้าไปในตัวอาคารจะได้กลิ่นหอมๆจากพืชชนิดต่างๆ หอมมวากๆ
ถัดมาจากสวนและธรรมชาติ จขกท.เลยตัดสินใจเปลี่ยนบรรยากาศไปเข้าเมืองแทน ไม่ใช่เมืองญี่ปุ่นเดิมๆที่เดินผ่าน แต่เมืองนี้คือ Nankin-machi (Kobe Chinatown)
วิธีการไปChinatown จากสถานี Shin kobeคือให้นั่งรถไฟนฝสายYamate ไปอีก2สถานีจนถึงkencho-mae station และใช้google map เดินต่อไปอีกสักหน่อย ประมาณ10นาทีถึง Nakin-machi ที่นี่มีทั้งเป็นแบบร้านอาหารและ Street food เช่น
เป็ดปักกิ่ง ¥500
โมจิstrawberry ¥200
เกาลัด¥500
มาถึงช่วงแนะนำร้านอาหาร: ร้านMinsei เปิดเวลา 11.30-15.00/17.00-19.30
จขกทมีกัน 5 คน เลยสั่งเยอะหน่อย กับข้าวก็จะมีเนื้อผัดพริกหวาน Mapu tofu ผัดผัก (lettuce)
และที่ขาดไม่ได้ signature ของร้าน คือ ปลาหมึกทอด
หลังกินอิ่มก็ต้องเดินเผาผลาญจริงมั๊ย และจุดสุดท้ายที่จะไปในวันนี้ก็หนีไม่พ้นสถานที่ม่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยหมู่บ้านKitano - choซื้อใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที~ ชิวๆ
ถ้าอยากแวะพักดื่มกาแฟก็สามารถแวะไปคาเฟ่ระหว่างทางได้
หรือจะไป Starbuck สวยๆ
แต่ขอแนะนำให้เก็บท้องไว้กินขนมอร่อยๆที่ Kitano - cho ตามข้างทางจะมีขนมขายด้านใน + ร้านเบเกอร์รี่ + ร้านของฝากทั่วไป และศาลเจ้า
บ้านต่างๆที่เห็นคือบ้านหลังจริงและเคยมีคนอยู่จริง แต่ตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม แต่ไม่ฟรีนะจ๊ะ
ขอจบทริปเที่ยวโกเบไว้เท่านี้ และขอแถมอาหารเย็นที่Osakaเช่นเดิน ร้านทงคัตสึแบบlocalมักมาก ดูจากทางเข้าก็คงรู้ บรรยากาศข้างในก็สงบๆ แบบญึ่ปุ่นๆ
คนขายพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และเมนูก็ไม่มีภาษาอังกฤษ โชคดีของเรา มันมีภาพ 555
จบจริงๆแล้วจ๊า 555 ฝากติดตามทริปถัดไปที่ นารา และ เกียวโตด้วยน๊า
เที่ยวคันไซ มีหรือจะพลาดโกเบ
หลังจากทริปที่ osaka และ Wakayama ก็ถึงเวลาของโกเบ เมืองแห่งแห่งเนื้อชั้นดี แต่วันนี้จขกท.จะพาทุกคนไปดูอีกมุมของโกเบที่มีดีไม่แพ้เนื้อเลย และจุดมุ่งหมายแรกของทริปนี้คือ Nunobiki Herb garden
เริ่มต้นทริปวันนี้จากสถานีนัมบะ นั่งรถไฟสาย นั่งรถไฟใต้ดินสายhanshin ไปสถานีKobe-sannomiya.
#ขอพูดถึงเรื่องกาซื้อตั๋วนิดนึง
แนะนำว่าสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาซื้อตั๋วทีละเที่ยวให้ซื้อเป็นบัตรเติมเงินดีกว่า บัตรเติมเงินสามารถซื้อได้ตามตู้ขายตั๋วธรรมดาโดยจขกท.เติมเงินไว้ที่¥1000 มัดจำไว้ก่อน ตอนไปคืนบัตรจะได้เงินคืน แต่ต้องระวัง ถ้าใช้เงินในบัตรไม่หมดต้องจ่ายค่าเอาเงินออกจากบัตรด้วย
จากสถานีsannomiyaให้นั่งต่อไปอีก 1สถานี ถึShin kobe จากนั้นให้เดินตามป้ายHerb gardenเลยจ๊า
ก่อนที่จะไปถึงยอดสุดของHerb Garden ต้องนั่งกระเช้าเสียก่อน โดยราคาอยู่ที่ ¥900เยนต่อคน เฉพาะขาไป ถ้าอยากได้ตั๋วทั้งไปและกลับ ราคาจะอยู่ที่ ¥1400เยน (ตั๋วต้องซื้อจากเครื่องขายตั๋ว)
พอขึ้นไปถึงยอดก็จะเป็นสวนดอกไม้ใบหญ้า และจุดชมวิวที่สวยมากๆ อาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆที่นี่ให้ครั้งรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในประเทศยุโรปเลยทีเดียว เวลาเดินเข้าไปในตัวอาคารจะได้กลิ่นหอมๆจากพืชชนิดต่างๆ หอมมวากๆ
ถัดมาจากสวนและธรรมชาติ จขกท.เลยตัดสินใจเปลี่ยนบรรยากาศไปเข้าเมืองแทน ไม่ใช่เมืองญี่ปุ่นเดิมๆที่เดินผ่าน แต่เมืองนี้คือ Nankin-machi (Kobe Chinatown)
วิธีการไปChinatown จากสถานี Shin kobeคือให้นั่งรถไฟนฝสายYamate ไปอีก2สถานีจนถึงkencho-mae station และใช้google map เดินต่อไปอีกสักหน่อย ประมาณ10นาทีถึง Nakin-machi ที่นี่มีทั้งเป็นแบบร้านอาหารและ Street food เช่น
เป็ดปักกิ่ง ¥500
โมจิstrawberry ¥200
เกาลัด¥500
มาถึงช่วงแนะนำร้านอาหาร: ร้านMinsei เปิดเวลา 11.30-15.00/17.00-19.30
จขกทมีกัน 5 คน เลยสั่งเยอะหน่อย กับข้าวก็จะมีเนื้อผัดพริกหวาน Mapu tofu ผัดผัก (lettuce)
และที่ขาดไม่ได้ signature ของร้าน คือ ปลาหมึกทอด
หลังกินอิ่มก็ต้องเดินเผาผลาญจริงมั๊ย และจุดสุดท้ายที่จะไปในวันนี้ก็หนีไม่พ้นสถานที่ม่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยหมู่บ้านKitano - choซื้อใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที~ ชิวๆ
ถ้าอยากแวะพักดื่มกาแฟก็สามารถแวะไปคาเฟ่ระหว่างทางได้
หรือจะไป Starbuck สวยๆ
แต่ขอแนะนำให้เก็บท้องไว้กินขนมอร่อยๆที่ Kitano - cho ตามข้างทางจะมีขนมขายด้านใน + ร้านเบเกอร์รี่ + ร้านของฝากทั่วไป และศาลเจ้า
บ้านต่างๆที่เห็นคือบ้านหลังจริงและเคยมีคนอยู่จริง แต่ตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม แต่ไม่ฟรีนะจ๊ะ
ขอจบทริปเที่ยวโกเบไว้เท่านี้ และขอแถมอาหารเย็นที่Osakaเช่นเดิน ร้านทงคัตสึแบบlocalมักมาก ดูจากทางเข้าก็คงรู้ บรรยากาศข้างในก็สงบๆ แบบญึ่ปุ่นๆ
คนขายพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และเมนูก็ไม่มีภาษาอังกฤษ โชคดีของเรา มันมีภาพ 555
จบจริงๆแล้วจ๊า 555 ฝากติดตามทริปถัดไปที่ นารา และ เกียวโตด้วยน๊า