เราเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความสงสัยว่าความรักในปัจจุบันนี้ เริ่มคุยกัน รักกัน คบกัน เร็วมากน้อยแค่ไหน และอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากรู้มากๆเลยก็คือ ยังมีอยู่มากน้อยแค่ไหน สำหรับความรักที่เรื่อง....จะไม่มาเป็นดับแรกในการเลือกคบกัน มีหลายคู่เริ่มคุยกันโดยไม่ได้นึกถึงเรื่องนั้น แต่เราสังเกตว่าผู้ชายส่วนใหญ่ จะมองเรื่องของหน้าตาและกิจกรรมในเรื่องนั้นมาก่อนเสมอ ไอ้เราก็คิดอยู่ ว่าตัวเราเองคงจะหัวโบราณเกินไป เราไม่ได้บอกให้คู่รักคู่ไหนห้ามทำโน่นนี่นะ อันนี้ความสงสัยส่วนตัว สิ่งที่คู่รักทำด้วยกัน มันจำเป็นต้องมีเรื่องนั้นมาเกี่ยวโยงด้วยเสมอเลยใช่มั้ยน้า ถ้าเราลองคิดกลับมุมลองจัดลำดับใหม่ เอาเรื่องนั้นลงมาอยู่เกือบท้ายสุดของกิจกรรมคู่รัก คนทั้ง 2 ที่รักกันจะอยู่ด้วยกันได้โดยค่อยๆเริ่มไปทีละนิดได้หรือไม่ ความรักที่ยังไม่ต้องมีเรื่องนั้นมาเกี่ยว คล้ายรักในวัยเรื่องสมัยก่อน ที่มีแค่การได้ไปเที่ยวที่ต่างๆ ทำนู่นนี่ด้วยกัน  ยิ้มหัวเราะด้วยกัน เล่นอะไรแปลกฮาๆด้วยกัน ทั้ง 2 ฝ่ายมีความสุข ได้ดูแลกันและกัน อาจมีโมเมนท์เล็กที่คอยช่วยเหลือดูแลกันให้ชื่นใจ ได้จับมือกันเดินไป มีห่างกันบ้าง ไม่ต้องมาตามติดกัน ให้อิสระแก่กันและกัน  ซึ่งสมัยนี้มีน้อยมากเพราะ พอคู่รักส่วนใหญ่มีเรื่องนั้นเข้ามาเกี่ยวเป็นอันดับต้นๆ ก็เลยไม่แปลกที่เวลาเลิกกันแล้วมันเจ็บปางตายขนาดนั้น ไม่แปลกที่จะหึงหวงกันรุนแรง ไม่แปลกที่ต่างฝ่ายจะกักเก็บอิสระของกันและกันไว้ เกิดปัญหาจุกจิกต่างๆ ตามมา เกิดการผูกมัดเกิดความคาดหวังต่างๆ  ขอถามอันนี้จริงจังละ คนที่ต้องการเอาเรื่องนั้นลงไปอยู่ลำดับท้ายๆ ของกิจกรรมคู่รักจะมีอยู่เยอะมั้ย ตอบกันได้นะไม่ว่าจะโสดหรือมีแฟนแล้ว แลกเปลี่ยนความเห็นกัน .....

ลองคิดตาม.... การละลายพฤติกรรมของคู่รักไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเสมอไป แค่เปิดใจให้กัน ต่างฝ่ายต่างรับรู้ตัวตนของกันและกัน ซึ่งทั้ง2สามารถยอมรับมันได้ พร้อมที่จะแก้ไขและเดินต่อด้วยกัน ค่อยๆเป็นค่อยๆไป 95% ยังไงก็ยั่งยืน ทั้งเรื่องความรู้สึก และการให้เกียรติกัน สำคัญเสมอ...