สงสัยเกี่ยวกับคดียักยอกทรัพย์

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว ได้มีคู่รักชายหญิงคู่หนึ่ง สมมติชื่ิ นาย ก. และ นาง ข.
ออกรถมา โดยชื่อเป็นของนาง ข. โดยสัญญาปากเปล่ากันว่าจะจ่ายค่างวดต่อเดือนกันคนละครึ่ง

ต่อมาทั้งคู่ผ่อนไม่ไหว เลยหาคนจะมาผ่อนต่อโดยนำรถไปได้เลย จึงมี นาย ค. ซึ่งพอรุจักกับ นาย ก. มาเป็นคนเอารถไปผ่อนต่อเอง โดยเรื่องนี้ทั้ง นาย ก. และตัวนาง ข. ซึ่งเป็นชื่อผู้ซื้อเองก็รับรู้และยินยอมกันทั้งคู่ ทั้งหมดเป็นสัญญาใจทั้งสิ้น ไม่มีลายลักษณ์อักษรใดๆ

ต่อมาอีก3-4เดือน ทั้งคู่ก็ได้เลิกราแยกย้ายกัน และได้มีไฟแน้นท์มาทวงถามค่างวดจากนาง ข. เพราะ นาย ค. ไม่ได้จ่ายค่างวดต่อตามที่ตกลงกันไว้ เลยมาถามจาก นาย ก. ซึ่งนาง ข. เห็นว่ารุจักกัน

นาย ก. ก็ติดต่อให้ แต่...ติดต่อ นาย ค. ไม่ได้แล้ว
ซึ่งตอนนี้ตัวผมเองก็รับรู้และยังแนะนำ นาย ก. ว่าให้ไปหา นาง ข. เพื่อไปแจ้งความไว้ว่าอาจโดนยักยอกทรัพย์ แต่...ก็ไม่ได้ไป

จนมาเมื่อวานนี้กลับกลายเป็นว่า นาย ก. โดนจับกุมข้อหายักยอกทรัพย์เสียเอง โดย นาง ข. เป็นผู้แจ้งจับ

คำถามคือ
1.เราปฏิเสธได้ไหม เพราะเราไม่ได้เอาไป และตอน เอารถให้ นาย ค. ตัว นาง ข. เองก็รับรู้และยินยอม อีกทั้งชื่อรถก็เป็นของ นาง ข.

2.จากที่เริ่มรู้แล้วว่ารถอาจโดนเอาไปฟรีๆ ปล่อยเวลามายังไงก็เกิน3เดือน ซึ่งตามกฏหมายอายุความหมดไปแล้วแน่นอน ถึงยังโดนคดียักยอกทรัพย์ได้อีก

3.คดีนี้จะสู้ยังไงดี ดูเจตนาเหมือนทางนาง ข. อยากให้ นาย ก. รับผิดชอบค่าเสียหายแต่เพียงผู้เดียว เพราะเดาว่าน่าจะโดนทางไฟแน้นท์เองไล่บี้มาอีกต่อนึง

ขอบคุณล่วงหน้าทุกความเห็นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่