สวัสดีครับทุกท่าน

ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนกระทู้กองทุนรวม รวดเดียวจบในกระทู้เดียวเลย
ไปๆมาๆ ปรากฏว่า เนื้อหาดันยาวมากๆ

เพราะผมไปลงรายละเอียดเยอะด้วย อันนี้โทษใครไม่ได้
ขออนุญาตแบ่งเป็น 2 กระทู้นะครับ ตอนที่ 2.2 จะเขียนให้จบช่วง เสาร์-อาทิตย์นี้ครับ

ความเดิมตอนที่แล้ว ใครยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้อ่านก่อนนะครับ
ออมให้เงินโต ตอนที่ 0 ทำไมต้องออม
https://ppantip.com/topic/37903747

ออมให้เงินโต ตอนที่ 1 สร้างวินัยทางการเงิน วางแผนใช้จ่ายระยะสั้น-กลาง
https://ppantip.com/topic/37906208

ท่านที่อ่านแล้วเชิญพบกับภาคต่อ
ที่หลายๆคนรอคอย(เหรอ) 5555+

ออมให้เงินโต ตอนที่ 2.1 รู้จักกับกองทุนรวม

***กระทู้นี้สามารถเอาไปแชร์ได้นะครับตามสบาย แต่ไม่อนุญาตให้คัดลอกเอาเฉพาะเนื้อหาไปใช้ แบบไม่บอกที่มาที่ไป ถ้าผมเจอ จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้นะครับ***

มารู้จักกองทุนรวมกันเถอะ
กองทุนรวมคืออะไร
คือการเอาเงินทุน มากองรวมๆกัน
ใช่เหรอ
อ้าว ตอบจริงไม่มุกครับ
แต่เดี๋ยวก่อน อ่อน อ่อน อ่อน (เสียงเอคโค่)

ก่อนที่จะขยายความเรื่องกองทุนรวม
ขออนุญาตแนะนำคำศัพท์ในแวดวงการเงิน หนึ่งคำนะครับ
นั่นคือ “ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน”
ฟังดูยาก วิชาการ ไกลตัวและเข้าใจยากเนาะ

ง่ายๆ มันคือของที่เราจ่ายตังค์ซื้อ แล้วจะได้ตังค์
จะได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของมัน

พูดไปยิ่ง งง มาดูตัวอย่างดีกว่า
ยกตัวอย่างเช่น
การเอาเงินไปฝากธนาคาร (ได้ดอกเบี้ย)
ซื้อประกันชีวิต (ซื้อความคุ้มครอง ถ้าตายได้เงิน)
ซื้อประกันรถ (ซื้อความคุ้มครอง รถชน รถหาย ได้เงิน)
จะเห็นว่า มันอยู่ใกล้ๆตัวเรานี่แหละ ชื่อมันฟังดูยากเฉยๆ

เข้าเรื่องเสียที กองทุนรวมนั้น
ก็จัดเป็น ผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบหนึ่ง
เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่า ยังมีคนอีกมาก ที่อยากลงทุน
แต่ทว่า เขาและเธอว์เหล่านั้น ไม่มีตังค์ (อาจจะรวมไปถึงไม่มีเวลา และ ไม่มีความรู้ด้วย)
มากพอที่จะเอาไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนแบบเนื้อๆเน้นๆ

ถ้าเกิดเรารวบรวมเงินเหล่านั้น เอามารวมกันเป็นก้อนใหญ่ๆ
แล้วเอาไปให้คนที่มีเวลา และความรู้ ลงทุนให้ได้ผลตอบแทน แบบเนื้อๆเน้นๆ
ได้กำไรมาเท่าไหร่ ก็แบ่งกันไปตามสัดส่วน

กองทุนรวมก็ถือกำเนิดมาเช่นนี้แล

ในปัจจุบันกองทุนรวมในบ้านเรา
ดำเนินการโดยมีกฏหมายรองรับ และบังคับ
โดยจะต้องถูกจัดตั้งและบริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ตัวย่อคือ บลจ.
เราก็จะเห็นบริษัทเหล่านี้มีตัวย่อ บลจ. นำหน้าชื่อ
ธนาคารใหญ่ๆทุกธนาคารมักจะมี บลจ. เป็นบริษัทในเครือของตัวเอง
เช่น
บลจ.กสิกรไทย (ของธนาคารกสิกรไทย)
บลจ.บัวหลวง (ของธนาคารกรุงเทพ)
บลจ.กรุงไทย (ของธนาคารกรุงไทย)

แต่ก็มี บลจ.อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเครือของธนาคารใหญ่ๆด้วยนะ
เช่น บลจ.วรรณ บลจ.ภัทร

ก่อนอื่นขอบอกว่า คุณสามารถซื้อกองทุนจาก บลจ.ไหนก็ได้ครับ
ไม่มีผลกับ ผลตอบแทน และความสามารถในการทำกำไรของกองทุน

เพียงแต่กองทุนที่อยู่ในเครือธนาคารใหญ่ๆ สาขาเยอะๆนั้น
คุณจะสะดวกมากกว่า เวลาจะเปิดบัญชี ปรับสมุด แค่นั้นครับ
หลังจากเปิดกองทุนแล้ว ถ้า บลจ.นั้นๆ สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้
ก็สะดวกสบายไม่ต่างกัน

ถ้ายังไม่แน่ใจ ลองเอาชื่อ บลจ.ไป google ดูก่อนก็ได้ครับ ว่าน่าเชื่อถือหรือไม่
แบบง่ายๆ ดูว่า บลจ.นั้นๆอยู่มาก่อน วิกฤตต้มยำกุ้ง (พศ.2540) ก็โอเคแล้วครับ
คือว่าผ่านมาได้ตั้ง 2 วิกฤต ทั้งต้มยำกุ้ง (พศ.2540) และ แฮมเบอเกอร์ (พศ.2550)
ถ้าเป็นคนก็เรียกว่าเป็นคนมีของครับ