เมื่อไหร่ความมโนในเรื่องนี้จะหมดไปสักที

ถ้าคุณ จขกท.ไปเชื่อเรื่องที่คนโง่ๆในอดีตเล่าต่อๆกันมา แชร์ต่อๆกันมา
โดยที่ไอ้คนพวกนั้นมันมั่ว มันไม่มีความรู้  แล้วคุณไปเชื่ข้อมูลพวกนั้น
เอามาเล่าเป็นตุเป็นตะ  ก็ไม่แปลกหรอกครับที่จะมีแต่คนหัวเราะเยาะ
เป็นตัวตลกให้คนเขาขำกัน

ผมจะอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ให้ฟัง

อาการที่คุณเจอ มีการทดลองมีการพิสูจน์อธิบายได้ทางการแพทย์มานานแล้ว
ต้นเหตุคือ ก๊าซจำพวก คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ และ คาร์บอนมอนน๊อกไซด์
ที่ปะปนอยู่ในอากาศตามท้องถนนนี่แหละครับ  ก๊าซพวกนี้เกิดจากไอเสียรถยนต์
ซึ่งอาจจะแทรกซึมมาจากข้างนอกเข้าสู่ห้องโดยสารได้ หรือ ซึมมาจากไอเสียรถคันนั้นเอง

ซึ่งก๊าซพวกนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแท๊กซี่ก็ซึมเข้ามาได้ เคยนั่งรถเมล์แอร์รึเปล่าครับ
ถ้าเคย คงเคยมีอาการมึนหัวแล้วอยากหลับ หรือนั่งๆอยู่หลับไม่รู้ตัวใช่มั้ย
นั่นแหละสาเหตุเดียวกันเลยครับ  แต่ทำไมไม่เคยมีใครบอกเลยล่ะว่าคนขับรถเมล์
วางยาผู้โดยสารบนรถ  

แม้แต่รถส่วนตัวก็เช่นกัน  เคยมั้ยนั่งรถเพื่อนหรือญาติพี่น้องอยู่ดีๆก็ง่วงอยากนอน
อยากหลับ ถ้าไปฝืนจะรู้สึกตัวชาๆมึนๆหัว  นั่นก็ต้นเหตุเดียวกัน
แต่ไม่มีใครเคยคิดว่าเพื่นหรือญาติวางยา ถูกมั้ย

เพราะบรรยากาศทั้งรถส่วนตัวหรือบนรถเมล์  มันน่าไว้วางใจกว่าในรถแท๊กซี่ไงครับ
บนแท๊กซี่อยู่กับคนขับ 2ต่อ2 มันก็ไม่แปลกหรอกครับที่จะเกิดความหลอน
มโนคิดไปไกลว่าคนขับจะทำอะไรเรารึเปล่าถ้าเผลอหลับ

โอเคครับ แบบที่ผมบอกด้านบนว่าคุณมีสิทธิ์จะขอลงถ้ารู้สึกไม่สบายใจ
แต่คุณไม่มีสิทธิ์ไปกล่าวหาใครลอยๆว่าเขาวางยาคุณ
โดยที่คุณเองยังขาดความรู้ความเข้าใจในจุดนี้

ไอ้เรื่องคนขับวางยา ตำรวจเขาเรียกคนขับแท๊กซี่ไปสอบปากคำมาไม่รู้กี่ร้อยคนแล้ว
ผลที่ได้ก็เหมือนๆกันคือมันไม่ใช่  จนแพทย์ต้องลงมาร่วมตรวจสอบ
จึงได้ข้อสรุปเหมือนที่ผมอธิบายให้ฟังนั่นแหละครับ


ไหนๆก็ไหนๆ  พูดเรื่องยานิดนึง ถามว่ายาที่ทำให้หลับหรือหมดสติหรือกล่อมประสาทมีมั้ย  
คำตอบคือมีครับ  พวกยากลุ่มเคตามีนหรือโดมิคุ่ม ซึ่งถ้าจะวางยาใส่เหยื่อให้หลับลึก
หรือกึ่งหลับกึ่งอยู่ในภวังค์  ต้องให้ด้วยวิธีกินหรือฉีดเท่านั้น ไม่สามารถปล่อยระเหย
ในห้องโดยสารรถได้  ส่วนยาเคตามีน(ยาเค) แม้จะสูดดมได้แต่ต้องสูดใกล้ๆเหมือนยาดม
ไม่ใช่ปล่อยฟุ้งในห้องโดยสารรถ ไม่งั้นไอ้คนที่จะสลบก่อนคือคนขับนั่นแหละ
เพราะพวกนี้ไม่มียาแก้แบบที่แชร์ต่อกันมามั่วๆ
ส่วนก๊าซยาสลบที่ใช้ในโรงพยาบาลก็เช่นกัน นั่นก็ต้องควบคุมโดยวิสัญญีแพทย์
ต้องสอดท่อครอบจมูก มอนิเตอร์จับอาการคนไข้ตลอดทุกวินาที  
ไม่ใช่รมยาในรถส่งเดช ไม่งั้นก็ตายหมู่

ผมคิดว่าผมน่าจะอธิบายชัดเจนแล้วนะครับ  อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าจะเลือกเชื่อฝั่งไหน
ระหว่างเชื่อพวกมโน โง่ แชร์ แถ ไลค์ ไปวันๆ  หรือเลือกเชื่อฝั่งคนที่เขาใช้ความรู้ที่เรียนมา
พิสูจน์มา มีข้อมูล มีงานวิจัยรองรับ ผ่านการทดลองยืนยันมาแล้ว

ไปเจอแท๊กซี่ที่ไอเสียซึมเข้าห้องโดยสารล่ะสิ
ถ้าวางยาจริง คนร่วงคนแรกคือคนขับนั่นแหละ

ยาสลบ ยานอนหลับ ที่อัดใส่พื้นที่เดียวกันโดยเลือกให้หลับได้คนเดียว ไม่มีในโลก
ยาแก้ก็ไม่มีในโลก  เอามือปิดไม่ช่วยอะไรได้หรอก

ขึ้นปุ๊บ ล๊อคปั๊บ รถสมัยนี้เซ็นทรัลล๊อคมันออโต้ทุกคัน แต่แท๊กซี่บางคันไม่เอาออก
ถ้าฉุกเฉินจริงๆ ปลดล๊อคเองก็ได้    เอาจริงๆมีประตูล๊อคไว้ปลอดภัยกว่าถ้ามีอุบัติเหตุ

เปิดแอร์แรง  ปกติคนขับแท๊กซี่หลายคนถ้าไม่มีผู้โดยสารจะเปิดแอร์แค่พอให้ตัวเองเย็น
บางคนมีความเชื่อว่าเปิดแอร์แรงจะเปลืองแก๊สเปลืองน้ำมัน
แต่พอมีผู้โดยสารขึ้นมาก็จะเร่งแอร์  เพราะเอาใจผู้โดยสาร กลัวโดนบ่นว่าแอร์ไม่เย็น

เปิดเพลงดังอันนี้รสนิยมคนขับ จะลูกทุ่ง สตริง ร๊อค ฮิปฮอป เพลงสากล เสียงพระเทศน์
ผมเจอมาหมดแล้ว