ผมสังเกตว่าคนที่ถูกแท็กซี่ปฏิเสธมีสิ่งที่ทำเหมือนกันคือ เปิดโอกาสให้แท็กซี่ปฏิเสธ
ยังไง
พอเรียกแท็กซี่ที่เปิดไฟว่างได้แล้ว ก็จะเดินไปเปิดประตูรถแล้วยื่นแค่หน้าเข้าไปถามว่า "พี่ไป xxxx มั้ย"
นี่แหละคือจุดผิดพลาด เพราะเท่ากับเราให้เขาเลือกว่า ไป หรือ ไม่ไป
ผมเลยใช้วิธีเรียกแท็กซี่ที่เปิดไฟว่าง แล้วอย่าเพิ่งสนทนาใด ๆ กับแท็กซี่ แม้ว่าเขาจะพยายามเปิดกระจกมาคุยด้วยก็ตาม ให้เอาตัวเองเข้าไปนั่งที่เบาะให้เรียบร้อย ถ้ามีสัมภาระด้วยก็ให้โยนเข้าไปที่เบาะแล้วก็นั่งให้เสร็จ ค่อยบอกว่าจะไปไหน
โดยเปลี่ยคำพูดเป็น "พี่ ไปที่ xxxx" แค่นั้นพอ อย่ามีคำว่า มั้ย ป่าว หรืออะไรที่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ
ผมสันนิษฐานว่าที่วิธีนี้ได้ผล เพราะการที่เราใช้คำถามว่า ไปมั้ย ไปป่าว นั่นก็คือให้ตัวเลือกแล้ว การตอบว่าไม่ไป ดูจะรู้สึกผิดน้อยหน่อย รวมทั้งตัวผู้โดยสารก็ยังไม่ได้เข้าไปในรถด้วย ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
ในทางตรงข้าม ถ้าผู้โดยสารเข้ามานั่งในรถแล้ว ยิ่งถ้ามีสัมภาระ และการบอกปลายทางยังไม่ได้เปิดโอกาสให้เลือกด้วย การปฏิเสธจะเกิดความรู้สึกผิมากกว่า ...เท่ากับกำลังไล่ผู้โดยสารลงจากรถ
ตั้งแต่ผมใช้วิธีนี้ ยังไม่เคยถูกไล่ลงจากรถแม้แต่ครั้งเดียว
*** ไม่รับรองว่าจะใช้ได้ผล 100% แต่เชื่อว่าน่าจะถูกปฏิเสธน้อยลงแน่ๆ
ส่วนการแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารอย่างเป็นระบบก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ผู้โดยสารก็ช่วยได้ โดยถ้าถูกปฏิเสธเมื่อไหร่ก็อย่าเฉยเมยหรือปล่อยผ่าน โทรร้องเรียนที่ 1584 ทุกครั้งครับ
แชร์วิธีป้องกันแท็กซี่ปฏิเสธ...ผมลองแล้วได้ผลทุกครั้ง
ยังไง
พอเรียกแท็กซี่ที่เปิดไฟว่างได้แล้ว ก็จะเดินไปเปิดประตูรถแล้วยื่นแค่หน้าเข้าไปถามว่า "พี่ไป xxxx มั้ย"
นี่แหละคือจุดผิดพลาด เพราะเท่ากับเราให้เขาเลือกว่า ไป หรือ ไม่ไป
ผมเลยใช้วิธีเรียกแท็กซี่ที่เปิดไฟว่าง แล้วอย่าเพิ่งสนทนาใด ๆ กับแท็กซี่ แม้ว่าเขาจะพยายามเปิดกระจกมาคุยด้วยก็ตาม ให้เอาตัวเองเข้าไปนั่งที่เบาะให้เรียบร้อย ถ้ามีสัมภาระด้วยก็ให้โยนเข้าไปที่เบาะแล้วก็นั่งให้เสร็จ ค่อยบอกว่าจะไปไหน
โดยเปลี่ยคำพูดเป็น "พี่ ไปที่ xxxx" แค่นั้นพอ อย่ามีคำว่า มั้ย ป่าว หรืออะไรที่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ
ผมสันนิษฐานว่าที่วิธีนี้ได้ผล เพราะการที่เราใช้คำถามว่า ไปมั้ย ไปป่าว นั่นก็คือให้ตัวเลือกแล้ว การตอบว่าไม่ไป ดูจะรู้สึกผิดน้อยหน่อย รวมทั้งตัวผู้โดยสารก็ยังไม่ได้เข้าไปในรถด้วย ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
ในทางตรงข้าม ถ้าผู้โดยสารเข้ามานั่งในรถแล้ว ยิ่งถ้ามีสัมภาระ และการบอกปลายทางยังไม่ได้เปิดโอกาสให้เลือกด้วย การปฏิเสธจะเกิดความรู้สึกผิมากกว่า ...เท่ากับกำลังไล่ผู้โดยสารลงจากรถ
ตั้งแต่ผมใช้วิธีนี้ ยังไม่เคยถูกไล่ลงจากรถแม้แต่ครั้งเดียว
*** ไม่รับรองว่าจะใช้ได้ผล 100% แต่เชื่อว่าน่าจะถูกปฏิเสธน้อยลงแน่ๆ
ส่วนการแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารอย่างเป็นระบบก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ผู้โดยสารก็ช่วยได้ โดยถ้าถูกปฏิเสธเมื่อไหร่ก็อย่าเฉยเมยหรือปล่อยผ่าน โทรร้องเรียนที่ 1584 ทุกครั้งครับ