เริ่มต้นที่โรงเรียนคริสเตียนข้างๆ หมู่บ้าน เขาจะจัดงานฉลองคริสมาสต์ทุกๆ ปี มีการละเล่น แจกขนม ฉายหนัง ฉายวีดีทัศน์สารคดีต่างๆ เด็กๆ ในหมู่บ้านผมจะชวนกันเดินลัดทุ่งนาไปงานทุกๆ ปี ไปรับแจกท็อฟฟี่ ขนม ของเล่น ขาเดินกลับบ้านทุกคนกระเป๋ากางตุงไปด้วยขนมที่ได้รับแจกจากบาทหลวง ปีนั้นผมมีโอกาสได้ไปดูวีดีทัศน์สารคดีว่าด้วยประเทศ "นอร์เวย์" หรือดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน! รู้สึกทึ่ง ตะลึง ฯลฯ กับภาพอันสวยสดงดงามและโดยเฉพาะพระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งผมไม่เชื่อตามประสาเด็กๆ ว่า มีที่ไหนที่พระอาทิตย์จะอยู่ยาวถึงเที่ยงคืน??
ไม่เชื่อว่า "นอร์เวย์" มีจริง คิดว่าเป็นเพียงดินแดนในจินตนาการ ดินแดนอะไรจะสวยสดงดงามปานนั้น สะอาด เป็นระเบียบ แถมพระอาทิตย์ยังโผล่ตอน "เที่ยงคืน" !! ใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะ convince ว่ามันคือดินแดนที่มีจริงใกล้ขั้วโลกเหนือ สีของน้ำทะเลที่ปนกับการละลายน้ำแข็งของขั้วโลกจึงดูสวย
การที่จะได้ไปเหยียบดินแดนแห่งนี้ มันอยู่เหนือ "ความฝัน" ของเด็กบ้านนอกที่มีวิถีชีวิตจำเจซ้ำซาก เช้ามาต้อนควายลงทุ่งเย็นก็ต้อนกลับคอก ชีวิตที่เคยได้เดินทางไกลสุดก็คือช่วงการแข่งกีฬากับโรงเรียนอื่นๆ ในละแวกตำบลเดียวกัน ซึ่งมีรัศมีไม่ถึงยี่สิบกิโลด้วยซ้ำ กระนั้น…ผมมักจะตอบคำถามใครต่อใครมาตลอดว่าประเทศที่อยากไปเที่ยวที่สุดคือนอร์เวย์
ชีวิตผมล้มลุกคลุกคลานผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร กว่าจะเดินมาถึงจุดที่พอจะมีเงินเก็บและใช้จ่ายในการท่องเที่ยวให้กับตัวเองและครอบครัว จึงใช้โอกาสนี้ไปเยือนดินแดนที่เคยประทับภาพความทรงจำอันงดงามไว้มาตั้งแต่เด็ก ซื้อทริปเรือสำราญไปเที่ยวนอร์เวย์ เป็นเรือสำราญขนาดมหึมาที่จุดลูกค้าได้ 4000 กว่าคน ถ้ารวมพนักงานทั้งหมดในเรืออีก1800 คนก็เกือบหกพันคน!! มันเป็น "เมืองที่ลอยน้ำ" ขนาดใหญ่ มีห้องอาหารกว่าสิบหกแห่ง บาร์ เล้าจน์ คาสิโน โรงหนัง (จุคนได้ 250) โรงละคร (จุดคนได้พันกว่า) โรงยิมขนาดใหญ่ ห้องสมุด สระว่ายน้ำขนาดใหญ่สามสระ และขนาดเล็กเรียงรายตามระเบียงของเรืออีกสี่สระ สปา โรงพยาบาล ฯลฯ เรือจะจอดตามท่าเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ห้าเมือง แล้วพวกเราก็ลงไปท่องเที่ยว บางเมืองเรือก็แล่นลัดเลาะตามเกาะแก่ง และฟยอร์ดที่สวยสุดอลังการ ราคาทัวร์คงจะเป็นราคาที่แพงที่สุดในชีวิตที่ผมเคยใช้เงินมา ตอนแรกคิดว่าจะเช่าห้องพักในตัวเรือในราคาที่ถูก (ซึ่งไม่มีหน้าต่าง) ไหนๆ ก็ไหนแล้ว....ยอมควักเพิ่มขึ้นมาอีกเพื่อเช่าห้องที่มีระเบียงออกไปนั่งอ่านหนังสือ ชมวิว ฉอเลาะกับภรรยาขณะเรือแล่นได้ และต้องจ่ายเพิ่มอีกเป็นสองเท่าเพราะเช่าอีกห้องให้ลูกๆ ด้วย
ผมโชคดีมากที่อากาศเป็นใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในหลายรอบสิบปี (กัปตันเรือเขาบอก) ณ ดินแดนที่หนาวเหน็บของนอร์เวย์ อากาศในอาทิตย์ที่ผมไปถึงอยู่ที่ 26-35 เหมือนอยู่เมืองไทย ร่ายมาซะยาว เชิญชมภาพครับ
….ฝันให้ไกล ไปให้ถึง...."ท่องนอร์เวย์"
ไม่เชื่อว่า "นอร์เวย์" มีจริง คิดว่าเป็นเพียงดินแดนในจินตนาการ ดินแดนอะไรจะสวยสดงดงามปานนั้น สะอาด เป็นระเบียบ แถมพระอาทิตย์ยังโผล่ตอน "เที่ยงคืน" !! ใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะ convince ว่ามันคือดินแดนที่มีจริงใกล้ขั้วโลกเหนือ สีของน้ำทะเลที่ปนกับการละลายน้ำแข็งของขั้วโลกจึงดูสวย
การที่จะได้ไปเหยียบดินแดนแห่งนี้ มันอยู่เหนือ "ความฝัน" ของเด็กบ้านนอกที่มีวิถีชีวิตจำเจซ้ำซาก เช้ามาต้อนควายลงทุ่งเย็นก็ต้อนกลับคอก ชีวิตที่เคยได้เดินทางไกลสุดก็คือช่วงการแข่งกีฬากับโรงเรียนอื่นๆ ในละแวกตำบลเดียวกัน ซึ่งมีรัศมีไม่ถึงยี่สิบกิโลด้วยซ้ำ กระนั้น…ผมมักจะตอบคำถามใครต่อใครมาตลอดว่าประเทศที่อยากไปเที่ยวที่สุดคือนอร์เวย์
ชีวิตผมล้มลุกคลุกคลานผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร กว่าจะเดินมาถึงจุดที่พอจะมีเงินเก็บและใช้จ่ายในการท่องเที่ยวให้กับตัวเองและครอบครัว จึงใช้โอกาสนี้ไปเยือนดินแดนที่เคยประทับภาพความทรงจำอันงดงามไว้มาตั้งแต่เด็ก ซื้อทริปเรือสำราญไปเที่ยวนอร์เวย์ เป็นเรือสำราญขนาดมหึมาที่จุดลูกค้าได้ 4000 กว่าคน ถ้ารวมพนักงานทั้งหมดในเรืออีก1800 คนก็เกือบหกพันคน!! มันเป็น "เมืองที่ลอยน้ำ" ขนาดใหญ่ มีห้องอาหารกว่าสิบหกแห่ง บาร์ เล้าจน์ คาสิโน โรงหนัง (จุคนได้ 250) โรงละคร (จุดคนได้พันกว่า) โรงยิมขนาดใหญ่ ห้องสมุด สระว่ายน้ำขนาดใหญ่สามสระ และขนาดเล็กเรียงรายตามระเบียงของเรืออีกสี่สระ สปา โรงพยาบาล ฯลฯ เรือจะจอดตามท่าเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ห้าเมือง แล้วพวกเราก็ลงไปท่องเที่ยว บางเมืองเรือก็แล่นลัดเลาะตามเกาะแก่ง และฟยอร์ดที่สวยสุดอลังการ ราคาทัวร์คงจะเป็นราคาที่แพงที่สุดในชีวิตที่ผมเคยใช้เงินมา ตอนแรกคิดว่าจะเช่าห้องพักในตัวเรือในราคาที่ถูก (ซึ่งไม่มีหน้าต่าง) ไหนๆ ก็ไหนแล้ว....ยอมควักเพิ่มขึ้นมาอีกเพื่อเช่าห้องที่มีระเบียงออกไปนั่งอ่านหนังสือ ชมวิว ฉอเลาะกับภรรยาขณะเรือแล่นได้ และต้องจ่ายเพิ่มอีกเป็นสองเท่าเพราะเช่าอีกห้องให้ลูกๆ ด้วย
ผมโชคดีมากที่อากาศเป็นใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในหลายรอบสิบปี (กัปตันเรือเขาบอก) ณ ดินแดนที่หนาวเหน็บของนอร์เวย์ อากาศในอาทิตย์ที่ผมไปถึงอยู่ที่ 26-35 เหมือนอยู่เมืองไทย ร่ายมาซะยาว เชิญชมภาพครับ