กระผมเป็นคนหนึ่งที่ถูกบริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดังแห่งหนึ่งฟ้องค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริง ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย เนื่องจากค้างชำระค่าบริการ 2 เดือน เนื่องจากส่วนตัวจ่าย 2 เดือน/ครั้ง แต่คราวนี้ค้าง 3 เดือน ด้วยความเข้าใจว่ายังไม่เกิน 2 เดือน จึงถูกระงับสัญญาณ โดยใช้งานไม่ครบปีหรืออายุสัญญาด้วย
ต่อมามีเจ้าหน้าที่บริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดังโทรศัพท์เข้ามาทวงถามหนี้แจ้งให้เราชำระรวมๆ 8พันกว่าบาท เราคิดว่าคงมีอะไรเข้าใจผิดจึงถามกลับไปว่าผมค้างแค่ 3 เดือน ไม่เกิน 2 พันกว่าบาทเอง แต่เจ้าหน้าที่บริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดัง แจ้งว่าเราผิดสัญญาต้องรับผิดค่าใช้จ่ายตามสัญญา ได้แก่ ค่าบริการอินเตอร์เน็ตค้าง ค่าบริการในอนาคตในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริงคิดต่อไปจนครบ 1 ปี จะครบปีประมาณ 3 เดือน ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย รวมๆเกือบหมื่น เราเจรจาขอจ่ายตามจริงที่ค้างแต่ไม่เป็นผล บอกว่างั้นคุยกับทนายความก็แล้วกัน....(คิดว่าขู่ฟ้องอะไรประมาณนั้น)
หลังจากนั้นเค้าจัดเต็มครับ กระผมได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องคดีผู้บริโภคของศาล ซึ่งมีบริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดังนั่นแหละเป็นโจทก์
(งงใช่มั้ยล่ะครับแค่นี้ถึงกับฟ้องกันเลย ใครเคยโดนฟ้องแบบผมคงเข้าใจดี อารมงงๆ เซ็งๆ โกรธ มาเต็ม) คนที่เป็นจำเลยไม่ใช่ใครอื่นถูกต้องครับผมนั่นเอง แต่ในความโชคร้ายก็ยังโชคดีอยู่บ้างกระผมได้รับการช่วยเหลือทางคดีจากเพื่อนทนายความของผม เมื่อพิจารณาเนื้อหาคำฟ้อง เค้าฟ้องเรียก ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริง ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย พร้อมดอกเบี้ยและค่าทนายความ อีกอะไรต่อมิอะไร...(วันนั้นทั้งวันกินข้าวไม่ลง)
พอถึงวันนัดศาล ผมขอเจรจาไกล่เกลี่ยขอจ่ายเฉพาะยอดค้างค่าบริการอินเตอร์เน็ตที่ใช้จริง คือประมาณไม่เกิน 3พันบาท แต่พยายามคุยเท่าไรก็ไม่เป็นผล ซึ่งทางทนายความของบริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดัง ยืนยันเอายอดเต็มตามฟ้อง 8 พันกว่าบาท นั่นทำให้ผมเหมือนหมาจนตรอกไม่มีทางเลือกคิดว่าเป็นไงเป็นกันจะขอต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด เพื่อนทนายความของผมจึงดำเนินการสู้คดีโดยยึดเอาประกาศของ กสทช.ครับ ตามลิ้งแนบด่านล่างครับ..
หลังจากนั้นกระผมจึงไปร้องขอความเป็นธรรมผ่าน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคบ้าง กสทช.บ้าง ซึ่งผมได้รับความร่วมมือทางข้อมูล พยานศาลเป็นอย่างดี ที่สุดแล้ว จากพยานหลักฐาน ด้วยความเคารพศาลท่านได้โปรดตัดสินให้ผมไม่ต้องรับผิด
ค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริง ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย แต่คงรับผิดเพียงค่าบริการที่ใช้จริง 2 พันกว่าบาท....
เมื่อมาพิจารณาแล้วซึ่งผมเองไม่เข้าใจว่าในเมื่อ กสทช.ประกาศและแถลงข่าวว่าไม่เคยอนุมัติให้บริษัทไหนเลยเขียนข้อสัญญาให้สามารถปรับได้หากใช้บริการไม่ครบปี ดังนั้น บริษัทไหนปรับจึงผิดกฏหมาย และยังบอกอีกว่าผู้บริโภคสามารถบอกเลิกสัญญาอินเตอร์เน็ตเมื่อไรก็ได้ ซึ่งการเขียนกฏขึ้นมาจากผู้ให้บริการว่า ถ้ายกเลิกสัญญาก่อนหนึ่งปี และโดนค่าปรับจำนวนต่างๆ ทำไม่ได้เพราะ กสทช. เองยังไม่เคยอนุมัติ ดังนั้นบริษัทที่เรียกปรับจึงผิดกฏหมาย
คำถามคือ เมื่อผิดกฎหมาย ทำไม...ถึงยังเอาค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้ ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย มาฟ้องอยู่อีก และปัจจุบันคิดว่ายังคงมีจำนวนไม่น้อยที่ยังคงถูกฟ้อง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้สู้คดียอมจ่ายในจำนวนตามฟ้อง ผ่อนชำระบ้าง จ่ายงวดเดียวบ้าง คำถามยังมีอีกต่อไปว่า แล้วเงินที่ได้จากค่าปรับโดยผิดกฎหมายล่ะ อันได้แก่ ค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริง ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสายที่ผิดกฎหมาย หากคิดกันเล่นๆว่า หากทั่วประเทศหลายคนถูกฟ้องแต่ละคนจ่ายให้ผู้ให้บริการไป คงเป็นเงินมากมายมหาศาล...
ดังนั้น หากท่านใดเจอปัญหาเดียวกับผมขอเป็นกำลังใจน่ะครับลองเจรจาของจ่ายตามที่ค้างจริง.. สุดท้ายนี้ขอขอบคุณและขออภัยที่กล่าวถึง ทางองค์กรมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และกสทช. น่ะครับ (ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มิได้มีเจตนาให้ร้ายแก่ผู้ใด แต่เพื่อประโยชน์ผู้บริโภคโดยรวมเป็นที่ตั้ง)
ฟ้องค่าอินเตอร์เน็ต ศาลตัดสินไม่ต้องรับผิด ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าติดตั้งเดินสาย ค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริง
ต่อมามีเจ้าหน้าที่บริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดังโทรศัพท์เข้ามาทวงถามหนี้แจ้งให้เราชำระรวมๆ 8พันกว่าบาท เราคิดว่าคงมีอะไรเข้าใจผิดจึงถามกลับไปว่าผมค้างแค่ 3 เดือน ไม่เกิน 2 พันกว่าบาทเอง แต่เจ้าหน้าที่บริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดัง แจ้งว่าเราผิดสัญญาต้องรับผิดค่าใช้จ่ายตามสัญญา ได้แก่ ค่าบริการอินเตอร์เน็ตค้าง ค่าบริการในอนาคตในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริงคิดต่อไปจนครบ 1 ปี จะครบปีประมาณ 3 เดือน ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย รวมๆเกือบหมื่น เราเจรจาขอจ่ายตามจริงที่ค้างแต่ไม่เป็นผล บอกว่างั้นคุยกับทนายความก็แล้วกัน....(คิดว่าขู่ฟ้องอะไรประมาณนั้น)
หลังจากนั้นเค้าจัดเต็มครับ กระผมได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องคดีผู้บริโภคของศาล ซึ่งมีบริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดังนั่นแหละเป็นโจทก์
(งงใช่มั้ยล่ะครับแค่นี้ถึงกับฟ้องกันเลย ใครเคยโดนฟ้องแบบผมคงเข้าใจดี อารมงงๆ เซ็งๆ โกรธ มาเต็ม) คนที่เป็นจำเลยไม่ใช่ใครอื่นถูกต้องครับผมนั่นเอง แต่ในความโชคร้ายก็ยังโชคดีอยู่บ้างกระผมได้รับการช่วยเหลือทางคดีจากเพื่อนทนายความของผม เมื่อพิจารณาเนื้อหาคำฟ้อง เค้าฟ้องเรียก ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริง ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย พร้อมดอกเบี้ยและค่าทนายความ อีกอะไรต่อมิอะไร...(วันนั้นทั้งวันกินข้าวไม่ลง)
พอถึงวันนัดศาล ผมขอเจรจาไกล่เกลี่ยขอจ่ายเฉพาะยอดค้างค่าบริการอินเตอร์เน็ตที่ใช้จริง คือประมาณไม่เกิน 3พันบาท แต่พยายามคุยเท่าไรก็ไม่เป็นผล ซึ่งทางทนายความของบริษัทค่ายอินเตอร์เน็ตชื่อดัง ยืนยันเอายอดเต็มตามฟ้อง 8 พันกว่าบาท นั่นทำให้ผมเหมือนหมาจนตรอกไม่มีทางเลือกคิดว่าเป็นไงเป็นกันจะขอต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด เพื่อนทนายความของผมจึงดำเนินการสู้คดีโดยยึดเอาประกาศของ กสทช.ครับ ตามลิ้งแนบด่านล่างครับ..
หลังจากนั้นกระผมจึงไปร้องขอความเป็นธรรมผ่าน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคบ้าง กสทช.บ้าง ซึ่งผมได้รับความร่วมมือทางข้อมูล พยานศาลเป็นอย่างดี ที่สุดแล้ว จากพยานหลักฐาน ด้วยความเคารพศาลท่านได้โปรดตัดสินให้ผมไม่ต้องรับผิด ค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริง ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย แต่คงรับผิดเพียงค่าบริการที่ใช้จริง 2 พันกว่าบาท....
เมื่อมาพิจารณาแล้วซึ่งผมเองไม่เข้าใจว่าในเมื่อ กสทช.ประกาศและแถลงข่าวว่าไม่เคยอนุมัติให้บริษัทไหนเลยเขียนข้อสัญญาให้สามารถปรับได้หากใช้บริการไม่ครบปี ดังนั้น บริษัทไหนปรับจึงผิดกฏหมาย และยังบอกอีกว่าผู้บริโภคสามารถบอกเลิกสัญญาอินเตอร์เน็ตเมื่อไรก็ได้ ซึ่งการเขียนกฏขึ้นมาจากผู้ให้บริการว่า ถ้ายกเลิกสัญญาก่อนหนึ่งปี และโดนค่าปรับจำนวนต่างๆ ทำไม่ได้เพราะ กสทช. เองยังไม่เคยอนุมัติ ดังนั้นบริษัทที่เรียกปรับจึงผิดกฏหมาย
คำถามคือ เมื่อผิดกฎหมาย ทำไม...ถึงยังเอาค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้ ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสาย มาฟ้องอยู่อีก และปัจจุบันคิดว่ายังคงมีจำนวนไม่น้อยที่ยังคงถูกฟ้อง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้สู้คดียอมจ่ายในจำนวนตามฟ้อง ผ่อนชำระบ้าง จ่ายงวดเดียวบ้าง คำถามยังมีอีกต่อไปว่า แล้วเงินที่ได้จากค่าปรับโดยผิดกฎหมายล่ะ อันได้แก่ ค่าบริการในเดือนที่ไม่ได้ใช้จริง ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าติดตั้งเดินสายที่ผิดกฎหมาย หากคิดกันเล่นๆว่า หากทั่วประเทศหลายคนถูกฟ้องแต่ละคนจ่ายให้ผู้ให้บริการไป คงเป็นเงินมากมายมหาศาล...
ดังนั้น หากท่านใดเจอปัญหาเดียวกับผมขอเป็นกำลังใจน่ะครับลองเจรจาของจ่ายตามที่ค้างจริง.. สุดท้ายนี้ขอขอบคุณและขออภัยที่กล่าวถึง ทางองค์กรมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และกสทช. น่ะครับ (ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มิได้มีเจตนาให้ร้ายแก่ผู้ใด แต่เพื่อประโยชน์ผู้บริโภคโดยรวมเป็นที่ตั้ง)