พอเอ่ยขึ้นขึ้นมาว่าจะไปเที่ยว “สวนผึ้ง”
หลายคนก็ทำหน้ายี้แหละ “ไปเช้าเย็นกลับหรอ” “ไปป้อนอาหารแกะเอง” “ไม่เห็นมีอะไรเลย” “คนเที่ยวเยอะแล้ว out ไปแหละ”
ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะ ว่าตัวเองก็แอบคิดแบบนี้เหมือนกัน
แต่พอดูข้อดีแล้ว เราไปวันอาทิตย์กลับวันจันทร์ ที่พักก็ถูก ขับรถไปไม่ไกล ค่าน้ำมันก็ไม่แพง ขับรถก็ไม่เหนื่อย เอาเงินค่าเดินทางไปหาซื้อของอร่อยๆกินดีกว่า ที่สำคัญไม่เคยไปสวนผึ้งเลย เพราะเราคิดว่ามันเห่ย ใครก็ไป เที่ยวตามกระแส ไม่คูลเลย
กลายเป็นว่าทริปสวนผึ้งเป็นทริปที่เปลี่ยนความคิดเราไปเลยค่ะ
ออกเดินทางจากกรุงเทพสบายๆตอน8โมงเช้า ที่แรกที่เราจะไปคือ“อุทยานเขาหินงู” ค่ะ
แต่ก่อนที่ตรงนี้เป็นเหมืองมาก่อนค่ะ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองราชบุรี วิวน้ำที่อยู่ท่ามกลางหุบเขานี่มันสวยชะมัดเลยค่ะ นึกว่าอยู่ที่จีน เหมือนหนังกำลังภายในเลยที่มาฝึกวิชา แถมยังเข้าฟรีอีกต่างหาก ที่จอดรถก็มีพร้อม ตอนเราไปที่จอดรถว่างเว่อ แต่พอออกมาเท่านั้นแหละ เต็มค่า ใครจะไปแนะนำมาแต่เช้านะคะ
กิจกรรมที่มาแล้วอยากให้ลองทำดูคือให้อาหารปลาค่ะ ปลาเยอะมากๆ ตัวโตๆทั้งนั้น เพลินมากเลยค่ะ อาหารถุงละ 10 บาท มีปลาคราฟแล้วก็ปลาอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด
โชคดีที่เราเลือกมาเที่ยวหน้าฝน ครึ้มๆไม่ร้อนมาก ฝนปรอยๆ ชุ่มฉ่ำมากๆ ถ้ามาหน้าร้อนก็ให้ความรู้สึกอีกแบบ หน้าหนาวก็อีกแบบนึง เป็นเสน่ห์ของธรรมชาติจริงๆค่ะ
หลังจากเที่ยวเที่ยวหุบเขาแล้ว เราจะเพิ่มระดับความเหนื่อยขึ้นด้วย“ถ้ำเขาบิน”ค่ะ
ระหว่างทางไปลิงค่อนข้างเยอะ มีตั้งแต่ตัวใหญ่ถึงขนาดลิงเด็กตัวเท่าลูกหมาเลยค่ะ ขับรถระวังๆเค้าหน่อยนะคะ ช่วงนี้กระแสถ้ำกำลังมา บอกเลยว่า อย่างเสียว! เพราะตอนที่ไปฝนพรำไม่หยุดเลยจ้า แต่เห็นรูปในเน็ตแล้วมันสวยมากจิง
“ถ้ำเขาบิน” เป็นถ้ำขนาด 5 ไร่ มีการจัดแสงอลังการดาวล้านดวง ข้างในถ้ำมี 8 ห้อง แต่ละห้องก็มีกิมมิคของความเชื่อเรื่องโชคต่างๆ ว่าผ่านห้องนี้ไปจะหมดเรื่องทุกข์โศกต่างๆ ที่สำคัญ ข้างในมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วย น่านน! เป็นไงล่ะ แพะแกะอะไรกัน นี่มันจังหวัดแห่งความ Advenger จะตายไป แถมค่าเข้าก็แสนถูก 20 บาท!! ตอนแรกก็ร่าเริงกันมาอยู่ดีๆหรอก พอถึงทางเข้าหน้าซีดจ้า
มันเป็นความรู้สึกเกรงๆลึกลับๆจริงๆนะ
ประตูทางเข้าคือต้องลงอีก
พอลงไปแล้ว อากาศจะร้อนชื้น อาจจะนึกภาพไม่ออกว่าเป็นแบบไหน เอาเป็นว่าชื้นจนเหงื่อชุ่มเสื้อเหมือนคุณไปออกกำลังกายหนักๆมาเป็นชั่วโมง แล้วรู้สึกอึดอัดอากาศน้อยๆ ข้างในมีพัดลมติดช่วยเป็นระยะๆ เพราะถ้าไม่ช่วยมีโอกาสเป็นลมได้เลยล่ะ
บางช่วงก็เป็นที่โล่งกว้างๆ บางทางเดินก็เป็นซอกแคบต้องมุดต้องลอด แต่รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวของธรรมชาติเลยค่ะ มีหินงอกหินย้อยสวยงาม แต่ห้ามจับนะคะ บางหินมีน้ำหยดด้วย
จนมาถึงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีความพญานาคอยู่ ตอนที่เราไปไม่มีคนเลยค่ะ เหมือนกับทั้งถ้ำมีกันอยู่ 2 คน ต้องจับมือกันใจแข็งเดินเข้าไป เพราะบ่อน้ำนี้อยู่นอกทางเดินเล็กๆต้องลอดรูกันเข้าไป
พอเจอบ่อหลอนใหญ่ ไม่กล้าตักน้ำจ้า ไม่รู้เค้าอนุญาตมั้ย มีน้ำอยู่ในขันวางอยู่แล้ว เราก็จุ่มๆน้ำในขันพรมหัวตัวเอง จอบอ ออกอย่างไว ถ้าวิ่งได้ก็วิ่งแล้วค้า ในถ้ำมีการ decorate ฤาษีตั่งต่าง คนอ่านอาจจะคิดว่าพวกแกกลัวอะไรกันเยอะแยะ ลองมาเองดูค่ะ 55555 ตอนนี้มันตลก ตอนนั้นมันกลัวจริงๆนะ T^T พอออกจากถ้ำมาได้ โอโห อากาศข้างนอกเหมือนติดแอร์ค่ะ ความต่างของอากาศนี่วูบเลย สบายจริงๆ น้ำตาจะไหล รอดตายแล้วโว้ยยย
รอดออกมาจากถ้ำแล้วหิวโซค่ะ เราไปกินกันที่ฟาร์มเมล่อน Coro Field เงินเหลือค่ะ เลยใช้เงินเติมเต็มความลำบากที่ผ่านมา เค้าว่ากันว่าเป็นฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกในไทย (อ่านมาค่ะอ่านมา)
ถามว่าสนใจสวนมั้ย ก็ไม่ แต่ก็ถ่ายพอเป็นพิธีจะได้มาเขียนกระทู้ สนใจอาหารมากกว่า ไปค่ะไปคาเฟ่กัน
มาถึงฟาร์มเมล่อน ไม่กินเมล่อนปั่นได้งัยยยย เอาแก้วเล็กมาเลย 85.- กันเหนียวๆ กลัวไม่อร่อยหรอ เปล่า กลัวไม่มีตังค์จ่าย
ดูดไปจ๊วบบบ
แกร๊เข้าใจชิป่ะ 5555 อ่านสายตา เกี่ยงกันกินอีกล่ะ 5555
เอาอาหารออกมาเลยดีกว่า ทะแด่นนน “เมล่อนปลาแห้งคัตสึโอะ” สนนราคา 165.- สวยๆ
จานนี้ ก็ได้อยู่นะ ก็เหมือนกินเมล่อนกะปลาแห้งอ่ะ แล้วก็มีน้ำเค็มๆราดมา กินได้ๆไม่กินก็ได้ๆ5555
จานที่ 2 “สุกี้บุกทะเล”
ตอนมาเสริฟ์ไม่หวังอะไรแล้วอ่ะ เหมือนสุกี้อืด 5555 แต่รสชาติเซอร์ไพรส์มาก อร่อยเว่อๆๆ ขนาดอีกวันนึงถึงกับละเมอเพ้อหา อยากกินอีกแบบโนสนโนแคร์ราคาสุกี้ที่ราคาเท่าบุฟเฟ่ต์ 200กว่าบาท ถ้ามีตังค์ก็กินอ่ะ กุ้งแก้วที่ตัวเบ่อเร้อเลย อร่อยสุดๆ ปลาหมึกมีการหั่นริ้วๆเหมือนปลาหมึกขนลุกให้บ้านcoro field 10คะแนนกับความตั้งใจบั้ง น้ำจิ้มก็อร่อย บุกยังอร่อย โอ๊ยย ต้องสั่งๆๆๆ ชั้นจะขับไปราชรีอีกเพื่อจานนี้ (อวยขนาดนี้ ถ้าใช้น้ำจิ้มพันท้ายนี่เหวอเลยนะ555)
จานที่ 3 “สเต๊กหมูอะไรสักอย่าง”
เหมือนหมูผัดเปรี้ยวหวานเลย ขอโทษร้านค่ะ แต่เหมือนจริง หมูมีกลิ่นแช่แข็งนะ ยังไม่สุดสำหรับเรา น่านน!! ดูมีสกิลการชิมไปอี๊กก เชฟหม่อมป้อมมาเอง
พอกินเสร็จ เราก็เข้าไปชมสวนค่ะ เพื่อนเราเคยมาแล้วครั้งนึง บอกว่าตอนนี้ดูโทรมไปจากตอนที่มาเยอะอยู่ เงียบๆแหะในสวน แต่คาเฟ่คนพรึ่บ
ท่านผู้อ่านน่าจะมีคำถามว่าจะเข้าที่พักได้ยัง ... ยังค่ะยัง...ตะวันยังไม่ลับ เรายังไม่เข้าที่พักนะ ไปต่อค่ะ
“ธารน้ำร้อนบ่อคลึง อึง อึง”
ค่าเข้า 30 บาทค่ะ ก็อยากจะแช่ตัวโชว์เหมือนกัน แต่ไม่สะดวก กลัวคนอ่านอ้วก เอาเป็นว่าตัวไม่ได้โชว์ แต่โชว์โง่แทน 5555 ปกติแช่เท้าไม่เสียเงิน เราไปจ่าย30บาท 30บาทเป็นค่าแช่ตัวในบ่อดินจ้า ถ้าแช่บ่อกระเบื้องอ่ะ 50 บาท หลังจากโชว์โง่แล้วจะโชว์บ่อแช่เท้าต่อ แต่ไม่มีรูปบ่อชัด เอารูปนี้ไปก่อนนะคะ
เป็นบ่อกระเบื้องเหมือนบ่อปลา มีหลายๆบ่อ แช่รวมกับคนอื่นเนอะ มองหน้ามองตาแล้วเราเลือกบ่อที่มีสามี-ภรรยาที่พาสุนัชมาด้วยค่ะ ดูเงียบๆน่าคุยด้วยดี บ่อแช่เท้าตอนเราไปน้ำไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ อุ่นๆ แช่ประมาณ20-30นาที ปรากฏว่าบ่อนี้ไม่เงียบอย่างที่คิดค้า เม้าท์กันเรื่องหมากันอย่างเอ็นจอย พี่ภรรยาบอกว่า เนี่ยย ข้างบนร้อนกว่านี้อีกนะ ข้างบนเขาเดินขึ้นไปเป็นต้นลำธาร ร้อนเลย เอ้า เอาแล้วไง วิญญาณโคลัมบัสสิง ขอตัวไปค้นพบดินแดนใหม่ก่อน เดินตามป้ายไปสักระยะ ป้ายหายว่ะ 555
มองหน้ากันจะขึ้นต่อหรือจะเดินกลับดี ไม่มีคนด้วย มาถูกทางรึป่าวก็ไม่รู้
สุดท้ายก็เจอวิวนี้ค่ะ
หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เหมือนหลุดเข้าไปในการ์ตูนดิสนี่ย์ น้ำใสมากๆ มีตะไคร่เขียวๆปูเป็นพรมไปตามลำธาร หินก็ดูขาวๆ มีไอน้ำลอยเหนือก้อนหิน วิวสวยจนน้ำตาจะไหล น้ำร้อนกว่าข้างล่าง แตะได้นะคะ แต่เอาเท้าแช่ไม่ได้ เพราะเป็นต้นธารที่ชาวบ้านยังใช้กันอยู่ ไปเที่ยวชมธรรมชาติได้ แต่ก็ต้องเคารพกฎกันด้วยนะคะ เค้าจะได้อนุญาตให้เราเข้าไปชมนานๆ
หลังจากนี้เราตั้งใจจะขึ้นไปน้ำตกเก้าโจนค่ะ แต่ฝนเริ่มตกหนัก ตอนนั้นเวลาบ่าย3-บ่าย4 น้ำตกเก้าโจนเค้าปิดตอน6โมง เรากลัวว่าถ้าดันทุรังขึ้นไปนอกจากจะไปไม่ถึงชั้น9 แล้วจะอันตรายด้วย เลยมุ่งหน้าไปที่พักเลยดีกว่า ค่อยมาพิชิตน้ำตกกันพรุ่งนี้
เราเลือกพักที่ Swiss Vallay Resort ค่ะ จะบอกว่าการหาที่พักในสวนผึ้งเลือกยากสำหรับเรามาก แต่เราว่าเราเลือกไม่ผิดนะที่เลือกที่นี่ เด่วจะบอกต่อไปว่าทำไม เราเลือกห้อง Deluxe Suite Villa จาก Agoda 2,498.36.- ละเอียดม่ะ 555 บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ เพราะไปอ่านรีวิวสมัยสวนผึ้งบูมๆ คืนละ 6,000 นาจา
ที่นี่มีความเป็นส่วนตัวมาก เข้าได้เฉพาะคนที่เข้าพักเท่านั้น เป็นรีสอร์ตที่ใหญ่และเป็นส่วนตัว พอมาจอดรถหน้าป้อม รปภ.ตะเบ๊ะพร้อมกล่าวสโลแกนสวนผึ้งได้ฮามากๆ ไม่ได้ฮาสโลแกนนะ ฮาน้ายามเนี่ยแหละ ท่องมาแบบตั้งใจมาก พอขับรถไปแล้ว เช็คอินพร้อม Welcome Drink เป็นน้ำองุ่นเย็นๆอร่อยมาก
ที่นั่งรอล็อบบี้เช็คอิน บรรยากาศอบอุ่น โค-ตรสวิสเลยแกร๊
จากนั้นเค้าก็จะวอบอกกันว่าให้พาเราไปส่งห้องพักมีพนง.ไปเปิดห้องไปก่อนแล้ว ตั้งแต่ย่างกรายมาจากรถ ที่นี่ปฏิบัติเหมือนเรามีเงินพันล้านค่ะ เรียกเราว่าคุณผู้หญิง ถือสัมภาระให้ อยู่ที่นี่ไม่ต้องเดินนะคะ เท้าไม่แตะพื้นก็ได้ เพราะจะไปไหน กดโทรศัพท์ที่รีสอร์ตให้ไว้แล้วรถกอฟล์จะมาเกยถึงหน้าประตูบ้านค่ะ ถ้าอยู่เกิน1วันเป็นง่อยค่ะ ดูแลดีมากก อ่านรีวิวบางท่านสมัยก่อนพนง.เจอลูกค้าเดินๆอยู่ยกมือไหว้ด้วยนะคะ อือหืออ บริการทุกระดับประทับจายย
ทางไปบ้านพักเรา เราพักห้อง S15 ชื่อห้อง Dolcetto บอกละเอียดได้ อิอิ กลับมาแล้ว
หน้าต่างห้องเราตรงกับบ่อหงส์ดำพอดีเลยค่ะ
[CR] ใครว่า"สวนผึ้ง"มีดีแค่แกะ ตามมาจะพาไป Unseen รอบสวนผึ้ง (2 วัน 1 คืน)
หลายคนก็ทำหน้ายี้แหละ “ไปเช้าเย็นกลับหรอ” “ไปป้อนอาหารแกะเอง” “ไม่เห็นมีอะไรเลย” “คนเที่ยวเยอะแล้ว out ไปแหละ”
ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะ ว่าตัวเองก็แอบคิดแบบนี้เหมือนกัน
แต่พอดูข้อดีแล้ว เราไปวันอาทิตย์กลับวันจันทร์ ที่พักก็ถูก ขับรถไปไม่ไกล ค่าน้ำมันก็ไม่แพง ขับรถก็ไม่เหนื่อย เอาเงินค่าเดินทางไปหาซื้อของอร่อยๆกินดีกว่า ที่สำคัญไม่เคยไปสวนผึ้งเลย เพราะเราคิดว่ามันเห่ย ใครก็ไป เที่ยวตามกระแส ไม่คูลเลย
กลายเป็นว่าทริปสวนผึ้งเป็นทริปที่เปลี่ยนความคิดเราไปเลยค่ะ
ระหว่างทางไปลิงค่อนข้างเยอะ มีตั้งแต่ตัวใหญ่ถึงขนาดลิงเด็กตัวเท่าลูกหมาเลยค่ะ ขับรถระวังๆเค้าหน่อยนะคะ ช่วงนี้กระแสถ้ำกำลังมา บอกเลยว่า อย่างเสียว! เพราะตอนที่ไปฝนพรำไม่หยุดเลยจ้า แต่เห็นรูปในเน็ตแล้วมันสวยมากจิง
บางช่วงก็เป็นที่โล่งกว้างๆ บางทางเดินก็เป็นซอกแคบต้องมุดต้องลอด แต่รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวของธรรมชาติเลยค่ะ มีหินงอกหินย้อยสวยงาม แต่ห้ามจับนะคะ บางหินมีน้ำหยดด้วย
ถามว่าสนใจสวนมั้ย ก็ไม่ แต่ก็ถ่ายพอเป็นพิธีจะได้มาเขียนกระทู้ สนใจอาหารมากกว่า ไปค่ะไปคาเฟ่กัน
มาถึงฟาร์มเมล่อน ไม่กินเมล่อนปั่นได้งัยยยย เอาแก้วเล็กมาเลย 85.- กันเหนียวๆ กลัวไม่อร่อยหรอ เปล่า กลัวไม่มีตังค์จ่าย
เอาอาหารออกมาเลยดีกว่า ทะแด่นนน “เมล่อนปลาแห้งคัตสึโอะ” สนนราคา 165.- สวยๆ
สุดท้ายก็เจอวิวนี้ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น