Zakir Naik สัญชาติอินเดีย เป็นนักการศาสนาแนว "วะฮะบีย์" ที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในโลก เขามีช่องทีวี เพื่อเผยแพร่ศาสนาอิสลามแนววะฮะบีย์ ในเชิงรุก
อิสลามแบบวะฮะบีย์ นั้น แม้แต่มกุฏราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอารเบีย ก็บอกว่าจำเป็นต้องมีการปฎิรูป หรือ สภาฟัตวาแห่งชาติของมาเลเซีย ก็กล่าวว่า วะฮะบีย์ ไม่มีที่ยืนในมาเลเซีย
หลายประเทศในโลกอย่าง คานาดา อินเดีย สหราชอาณาจักร บังคลาเทศ มองว่า Zakir Naik เป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้าย บางประเทศไม่ยอมให้เขาเข้าประเทศ บังคลาเทศ กล่าวหาว่า เขาเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการโจมตีก่อการร้ายที่กรุงดักกา เมื่อปี 2016 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน ส่วนองค์กรสืบสวนของอินเดียก็กำลังสืบสวนว่า "มูลนิธิ" ที่เขาตั้งขึ้นมา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
ขณะที่ Zakir Naik ก็ปฎิเสธข้อกล่าวหานี้มาตลอด โดยอ้างว่า เป็นการเข้าใจผิด ทั้งที่ก็ยากที่เป็นการเข้าใจผิดเพราะแม้แต่ผู้ที่ดูการสอนของเขาที่ปรากฎมากมายทาง YouTube ก็มีความเห็นว่า สมควรแล้ว ที่เขาจะถูกเรียกว่าเป็นพวกสุดโต่ง
ปัจจุบันแม้ Zakir Naik มีสัญชาติอินเดีย แต่ว่าได้สถานะเป็นผู้ "มีถิ่นที่อยู่ถาวร" ในมาเลเซียด้วย เขาพยายามใช้อิทธิพลของชาวมุสลิมในมาเลเซียซึ่งวาฮะบีย์ได้ปักหลัก มีอำนาจ อย่างมั่นคงแน่นหนาแล้ว(ทั้ง ๆ ที่สภาฟัตวาบอกว่าไม่มีที่ยืนนี่แหละ) ช่วยให้นักการเมืองนับตั้งแต่ นาจิบ ราซัค มาจนถึง มหาธีร์ โมฮัมเหม็ด ไม่ให้ส่งเขากลับไปดำเนินคดีที่อินเดีย
นอกจากนั้นเขาก็ยังฉลาดเฉลียวที่จะฉกฉวย เรื่องการเมืองมาเลเซีย เกี่ยวกับการแบ่งแยกทาง เชื้อชาติ ศาสนา เพื่อประโยชน์ของเขา ด้วยการทำตัวเองให้เป็นที่รักของพรรคหลายพรรค เช่น Umno (พรรครัฐบาลเก่าของมาเลเซีย) และ PAS (พรรคเคร่งศาสนาอิสลาม) ทั้งในเรื่อง ความเหนือกว่าของ ศาสนาอิสลาม และ เชื้อชาติมาเลย์ ซึ่งก็ส่งผลทำให้เขาได้รับการยกย่องที่สูงขึ้น ได้รับสิทธิพิเศษ และการคุ้มครอง ที่เขาไม่เคยได้รับจากสถานที่ใดในโลก
=====================================================================
นักการศาสนา แบบ Zakir Naik ไม่ได้มีคนเดียว แต่มีอยู่ทั่วไป ที่รับการศึกษาจากซาอุดิอารเบีย แล้วถูกส่งออกไปเผยแพร่ แทบทุกมุมโลก ในยุโรป ก็มีมากมาย แต่จากเหตุการก่อการร้าย เมื่อ 3-4 ปี ที่ผ่านมา ทำให้ประเทศในยุโรปรู้ว่า บุคคลเหล่านี้เองเป็นผู้บ่มเพาะ ปลูกฝัง แนวคิดการก่อการร้าย ให้กับคนในประเทศนั้น ๆ ทำให้หลาย ๆ ประเทศมีการกวาดล้าง จับกุม คุมขัง เนรเทศ รวมไปถึงการปิดมัสยิด โรงเรียนสอนศาสนา ที่คนเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนในประเทศไทย ก็มีเยอะ ที่นักการศาสนา มีช่อง ทีวีเป็นของตัวเองเพื่อเผยแพร่ศาสนา แล้วมีสาวก ผู้ติดตามมากกมาย
บางคน บาง มูลนิธิ มีการเคลื่อนไหว ในเชิงรุก อย่างเข้มข้น ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างบังหน้าว่า เป็น "มูลนิธิ" ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกร้องสิทธิให้แก่มุสลิมใน 3 จังหวัด ภาคใต้ เพื่อวัตถุประสงค์ให้เกิด "สันติ" แต่ว่า ในทางปฎิบัติแล้ว ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องสิทธิที่นำไปสู่การเกิดสันติ แต่เป็นการเรียกร้องของกลุ่ม "Radical" ที่ก้าวล่วงไปถึงสิทธิของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม ซึ่งถ้าอีกฝ่ายไม่อดทนก็จะนำไปสู่ความขัดแย้ง
ประธานมูลนิธิ นี้ เป็นผู้ที่ได้รับการศึกษาศาสนาอิสลามมาจากตะวันออกกลาง ทั้ง ซาอุดิอารเบีย อิหยิปต์ โมรีอคโค ถือได้ว่า เป็นมุสลิมแนว "วะฮะบีย์" ไม่ต่างอะไรกับ Zakir Naik
ถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่เป็นข้อสงสัยว่า เขา และ มูลนิธิ เหล่านี้ เข้าไปเกี่ยวไปเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือไม่ก็ตาม ....... แต่ประสบการณ์จากที่อื่น ๆ ในโลก ส่วนมากไม่พ้นไปจากนี้
มาเลเซียไม่ยอมส่งตัวนักการศาสนาซึ่งทำผิดข้อหาก่อการร้ายและฟอกเงินให้กับอินเดียดำเนินคดี
อิสลามแบบวะฮะบีย์ นั้น แม้แต่มกุฏราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอารเบีย ก็บอกว่าจำเป็นต้องมีการปฎิรูป หรือ สภาฟัตวาแห่งชาติของมาเลเซีย ก็กล่าวว่า วะฮะบีย์ ไม่มีที่ยืนในมาเลเซีย
หลายประเทศในโลกอย่าง คานาดา อินเดีย สหราชอาณาจักร บังคลาเทศ มองว่า Zakir Naik เป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้าย บางประเทศไม่ยอมให้เขาเข้าประเทศ บังคลาเทศ กล่าวหาว่า เขาเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการโจมตีก่อการร้ายที่กรุงดักกา เมื่อปี 2016 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน ส่วนองค์กรสืบสวนของอินเดียก็กำลังสืบสวนว่า "มูลนิธิ" ที่เขาตั้งขึ้นมา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
ขณะที่ Zakir Naik ก็ปฎิเสธข้อกล่าวหานี้มาตลอด โดยอ้างว่า เป็นการเข้าใจผิด ทั้งที่ก็ยากที่เป็นการเข้าใจผิดเพราะแม้แต่ผู้ที่ดูการสอนของเขาที่ปรากฎมากมายทาง YouTube ก็มีความเห็นว่า สมควรแล้ว ที่เขาจะถูกเรียกว่าเป็นพวกสุดโต่ง
ปัจจุบันแม้ Zakir Naik มีสัญชาติอินเดีย แต่ว่าได้สถานะเป็นผู้ "มีถิ่นที่อยู่ถาวร" ในมาเลเซียด้วย เขาพยายามใช้อิทธิพลของชาวมุสลิมในมาเลเซียซึ่งวาฮะบีย์ได้ปักหลัก มีอำนาจ อย่างมั่นคงแน่นหนาแล้ว(ทั้ง ๆ ที่สภาฟัตวาบอกว่าไม่มีที่ยืนนี่แหละ) ช่วยให้นักการเมืองนับตั้งแต่ นาจิบ ราซัค มาจนถึง มหาธีร์ โมฮัมเหม็ด ไม่ให้ส่งเขากลับไปดำเนินคดีที่อินเดีย
นอกจากนั้นเขาก็ยังฉลาดเฉลียวที่จะฉกฉวย เรื่องการเมืองมาเลเซีย เกี่ยวกับการแบ่งแยกทาง เชื้อชาติ ศาสนา เพื่อประโยชน์ของเขา ด้วยการทำตัวเองให้เป็นที่รักของพรรคหลายพรรค เช่น Umno (พรรครัฐบาลเก่าของมาเลเซีย) และ PAS (พรรคเคร่งศาสนาอิสลาม) ทั้งในเรื่อง ความเหนือกว่าของ ศาสนาอิสลาม และ เชื้อชาติมาเลย์ ซึ่งก็ส่งผลทำให้เขาได้รับการยกย่องที่สูงขึ้น ได้รับสิทธิพิเศษ และการคุ้มครอง ที่เขาไม่เคยได้รับจากสถานที่ใดในโลก
=====================================================================
นักการศาสนา แบบ Zakir Naik ไม่ได้มีคนเดียว แต่มีอยู่ทั่วไป ที่รับการศึกษาจากซาอุดิอารเบีย แล้วถูกส่งออกไปเผยแพร่ แทบทุกมุมโลก ในยุโรป ก็มีมากมาย แต่จากเหตุการก่อการร้าย เมื่อ 3-4 ปี ที่ผ่านมา ทำให้ประเทศในยุโรปรู้ว่า บุคคลเหล่านี้เองเป็นผู้บ่มเพาะ ปลูกฝัง แนวคิดการก่อการร้าย ให้กับคนในประเทศนั้น ๆ ทำให้หลาย ๆ ประเทศมีการกวาดล้าง จับกุม คุมขัง เนรเทศ รวมไปถึงการปิดมัสยิด โรงเรียนสอนศาสนา ที่คนเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนในประเทศไทย ก็มีเยอะ ที่นักการศาสนา มีช่อง ทีวีเป็นของตัวเองเพื่อเผยแพร่ศาสนา แล้วมีสาวก ผู้ติดตามมากกมาย
บางคน บาง มูลนิธิ มีการเคลื่อนไหว ในเชิงรุก อย่างเข้มข้น ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างบังหน้าว่า เป็น "มูลนิธิ" ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกร้องสิทธิให้แก่มุสลิมใน 3 จังหวัด ภาคใต้ เพื่อวัตถุประสงค์ให้เกิด "สันติ" แต่ว่า ในทางปฎิบัติแล้ว ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องสิทธิที่นำไปสู่การเกิดสันติ แต่เป็นการเรียกร้องของกลุ่ม "Radical" ที่ก้าวล่วงไปถึงสิทธิของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม ซึ่งถ้าอีกฝ่ายไม่อดทนก็จะนำไปสู่ความขัดแย้ง
ประธานมูลนิธิ นี้ เป็นผู้ที่ได้รับการศึกษาศาสนาอิสลามมาจากตะวันออกกลาง ทั้ง ซาอุดิอารเบีย อิหยิปต์ โมรีอคโค ถือได้ว่า เป็นมุสลิมแนว "วะฮะบีย์" ไม่ต่างอะไรกับ Zakir Naik
ถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่เป็นข้อสงสัยว่า เขา และ มูลนิธิ เหล่านี้ เข้าไปเกี่ยวไปเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือไม่ก็ตาม ....... แต่ประสบการณ์จากที่อื่น ๆ ในโลก ส่วนมากไม่พ้นไปจากนี้