ติดตามรีวิวใหม่ๆ ก่อนใครได้ที่ :
https://www.Facebook.com/23SCENES
feature film, animation
เรื่อง: Isle of Dogs (Wes Anderson, 2018)
คะแนน: 9/10
เรื่องราวสุดระทึกปนดราม่าในเมืองเมงาซากิ เมื่อนายกใจแคบ โคบายาชิ ผู้ปกครองเมืองออกกฎหมายห้ามเลี้ยงสัตว์และขับไล่สุนัขทุกตัวไปอาศัยอยู่ในเกาะรวมรวบขยะหลังจากเกิดการป่วนเมืองครั้งใหญ่ด้วยฝีมือของเหล่าสัตว์สี่ขา ร้อนถึง อาตาริ โคบายาชิ หนุ่มน้อยวัย 12 ปี ที่ต้องเสียสัตว์เลี้ยงสุดรักไปเตรียมก่อกบฏย่อมๆ โดยใช้เครื่องบินคู่ใจ จูเนียร์-เทอร์โบ พร็อบ บินข้ามแม่น้ำไปตามหาสุนัขแสนรักด้วยตัวเอง
เล่าเรื่องสนุก มีชั้นเชิง ชอบมุกตลกในแบบของปู่เวสมากๆ มีอะไรให้ surprise อยู่ตลอดเวลา บทหนังเรื่องนี้คือมันเหมาะสมแล้วจริงๆ ที่จะเอามาทำ stop motion คือถ้าเป็นหนัง เราว่าคงไม่สนุกเท่านี้อ่ะ
ในส่วนของงานภาพ เป็นหนัง stop motion ที่ทำออกมาได้ดี จังหวะการใส่เพลงเร้าอารมณ์ การตัดสลับมุมภาพและเหตุการณ์ต่างๆ ทำออกมาได้ประทับใจมากๆ
ชอบประเด็นการเมืองที่พูดถึงเรื่องของชนชั้น การแก้ไขปัญหา และการวางอำนาจทางการเมืองต่างๆ เอาจริงๆ เป็นหนังที่เนื้อเรื่องแอบหนังเบาๆ เหมือนกันนะ แต่พอมันถูกเล่าออกมาใน mood and tone แบบนี้ เลยทำให้มันค่อนข้าง soft และดูได้เพลินๆ สบายๆ
ชอบประเด็นหมาคือเพื่อนรักของมนุษย์ และเป็นหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะทั้ง บอดี้การ์ด ครอบครัว หรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายสำคัญอีกหนึ่งอย่างของหนังเรื่องนี้
สัญลักษณ์ของแมวคือความเจ้าเลห์ ซึ่งใช้แทนตัวละครฝ่ายร้าย ส่วนหมาคือผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดี ใช้แทนตัวละครฝ่ายดี ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันแอบดูเป็นการอวยไปนิด แต่ก็ยอมรับได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว พอมันเป็นหนัง เราย่อมต้องให้มีฝ่ายหนึ่งเป็นขาว และฝ่ายหนึ่งเป็นดำเสมอ ซึ่งถึงจะบอกว่างั้น ท้ายที่สุดแล้ว ตัวลุงโคบายาชิ หรือลุงของตัวเอกก็เป็นเทาอยู่เหมือนกัน
โดยรวมเป็นหนัง stop motion ที่เนื้อเรื่องสนุก เป็นหนังการเมืองที่ดูได้เพลินๆ เพราะท้ายที่สุดเราก็จะไปโฟกัสเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนและหมาอยู่ดี
[CR] Movie Review : Isle of Dogs - เกาะเซ็ตซีโร่หมา [9/10]
feature film, animation
เรื่อง: Isle of Dogs (Wes Anderson, 2018)
คะแนน: 9/10
เรื่องราวสุดระทึกปนดราม่าในเมืองเมงาซากิ เมื่อนายกใจแคบ โคบายาชิ ผู้ปกครองเมืองออกกฎหมายห้ามเลี้ยงสัตว์และขับไล่สุนัขทุกตัวไปอาศัยอยู่ในเกาะรวมรวบขยะหลังจากเกิดการป่วนเมืองครั้งใหญ่ด้วยฝีมือของเหล่าสัตว์สี่ขา ร้อนถึง อาตาริ โคบายาชิ หนุ่มน้อยวัย 12 ปี ที่ต้องเสียสัตว์เลี้ยงสุดรักไปเตรียมก่อกบฏย่อมๆ โดยใช้เครื่องบินคู่ใจ จูเนียร์-เทอร์โบ พร็อบ บินข้ามแม่น้ำไปตามหาสุนัขแสนรักด้วยตัวเอง
เล่าเรื่องสนุก มีชั้นเชิง ชอบมุกตลกในแบบของปู่เวสมากๆ มีอะไรให้ surprise อยู่ตลอดเวลา บทหนังเรื่องนี้คือมันเหมาะสมแล้วจริงๆ ที่จะเอามาทำ stop motion คือถ้าเป็นหนัง เราว่าคงไม่สนุกเท่านี้อ่ะ
ในส่วนของงานภาพ เป็นหนัง stop motion ที่ทำออกมาได้ดี จังหวะการใส่เพลงเร้าอารมณ์ การตัดสลับมุมภาพและเหตุการณ์ต่างๆ ทำออกมาได้ประทับใจมากๆ
ชอบประเด็นการเมืองที่พูดถึงเรื่องของชนชั้น การแก้ไขปัญหา และการวางอำนาจทางการเมืองต่างๆ เอาจริงๆ เป็นหนังที่เนื้อเรื่องแอบหนังเบาๆ เหมือนกันนะ แต่พอมันถูกเล่าออกมาใน mood and tone แบบนี้ เลยทำให้มันค่อนข้าง soft และดูได้เพลินๆ สบายๆ
ชอบประเด็นหมาคือเพื่อนรักของมนุษย์ และเป็นหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะทั้ง บอดี้การ์ด ครอบครัว หรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายสำคัญอีกหนึ่งอย่างของหนังเรื่องนี้
สัญลักษณ์ของแมวคือความเจ้าเลห์ ซึ่งใช้แทนตัวละครฝ่ายร้าย ส่วนหมาคือผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดี ใช้แทนตัวละครฝ่ายดี ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันแอบดูเป็นการอวยไปนิด แต่ก็ยอมรับได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว พอมันเป็นหนัง เราย่อมต้องให้มีฝ่ายหนึ่งเป็นขาว และฝ่ายหนึ่งเป็นดำเสมอ ซึ่งถึงจะบอกว่างั้น ท้ายที่สุดแล้ว ตัวลุงโคบายาชิ หรือลุงของตัวเอกก็เป็นเทาอยู่เหมือนกัน
โดยรวมเป็นหนัง stop motion ที่เนื้อเรื่องสนุก เป็นหนังการเมืองที่ดูได้เพลินๆ เพราะท้ายที่สุดเราก็จะไปโฟกัสเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนและหมาอยู่ดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้