นายกฯ สปป.ลาว ขอบคุณ ‘ประยุทธ์’ ช่วยผู้ประสบภัยเขื่อนแตก



วันนี้(25 ก.ค.) เฟซบุ๊กเพจ “Support Prime Minister Thongloun Sisoulith” ของนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว โพสต์ข้อความแสดงความขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ที่ได้สั่งให้กองทัพและหน่วยงานต่างๆของไทยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากเหตุการณ์เขื่อนในแขวงอัตตะปือ สปป.ลาว แตก จนเกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง



นอกจากนี้ ยังระบุว่า จังหวัดมุกดาหารเป็นศูนย์ประสานงานช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ และเชิญชวนภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน บริจาคเงิน, เสื้อผ้า, อาหารและสิ่งจำเป็นที่จะมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ที่ สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตและที่จังหวัดแข่นแก่น โดยเริ่มบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้

https://news.mthai.com/world-news/660064.html


นายกฯมอบเงิน5ล้านผ่านทูตลาว ช่วยเหลือเหตุการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยชำรุด ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกด้านเพื่อบรรเทาอุทกภัย





25 ก.ค.61 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 5 ล้านบาท หรือประมาณ 1,300 ล้านกีบ แก่ นายแสง สุขะทิวง เอกอัครราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย โดยนายกฯ แสดงความห่วงใยและน้ำใจของประชาชนชาวไทย ในฐานะมิตรประเทศที่ใกล้ชิด สำหรับใช้ช่วยบรรเทาผลกระทบจากเหตุกรณีเขื่อนเซเปียน - เซน้ำน้อย ที่ชำรุดเสียหายสืบเนื่องจากการที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากจนเกิดเหตุอุทกภัย ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ที่แขวงจำปาสัก และแขวงอัตตะปือ ทางภาคใต้ของ สปป.ลาว

ทั้งนี้ นายกฯ ระบุว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านอาหาร น้ำสะอาด ยา และเต็นท์พลาสติก ในการบรรเทาอุทกภัยในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร พลเรือน และอาสาบรรเทาสาธารณภัย ได้มีการประชุมเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือต่อไป

ด้าน นายแสง กล่าวแสดงความซาบซึ้งในไมตรีของรัฐบาลและประชาชนไทย ความช่วยเหลือของรัฐบาลและประชาชนไทยครั้งนี้ ยืนยันให้เห็นถึงมิตรภาพและน้ำจิตน้ำใจคนไทยที่มีต่อเพื่อน ทั้งในยามปกติและเมื่อเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ เป็นมิตรภาพที่แท้จริง ขอขอบคุณอีกครั้ง ขณะนี้ทราบว่าหน่วยงานของลาวได้เร่งแก้ไขและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้มีสารแสดงความเสียใจส่งไปถึง นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นของประชาชนชาวลาว พี่น้องชาวลาว จะสามารถก้าวผ่านภัยพิบัติในครั้งนี้ และสถานการณ์จะผ่านพ้นไปด้วยดีในเร็ววัน

http://www.naewna.com/politic/353741



ลาวประกาศเขตภัยพิบัติหลัง ‘เขื่อนแตก’ คาดสูญหายหลายร้อยคน





สำนักข่าวเอบีซี ลาว นิวส์ (ABC Laos news) รายงานว่า เมื่อเวลา 20 นาฬิกา 30 นาที ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ เกิดเหตุเขื่อนปิดช่องเขา ของโครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแตก ส่งผลให้มวลน้ำปริมาณ 5 พันล้านตัน ไหลทะลักลงแม่น้ำเซเปียน เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในแขวงอัตตะปือ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศลาว ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลันในหมู่บ้าน 6 แห่งในเมืองสะหนามไซ เช่น บ้านหินลาด บ้านใหม่ ท่าแสงจันทร์ และท่าหิน เบื้องต้นคาดว่ามีผู้สูญหายหลายร้อยคน


ภาพถ่ายทางอากาศที่โพสต์ไว้ในหน้าเฟซบุ๊กของสำนักข่าวเอบีซี ลาว นิวส์ แสดงให้เห็นบ้านเรือนประชาชนจมอยู่ใต้น้ำเกือบมิดหลังคา และมีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนั้น ยังมีภาพวิดีโอที่หลายครอบครัวรอคอยความช่วยเหลืออยู่บนหลังคาบ้าน และวัดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงถูกน้ำท่วม หลังจากเกิดเหตุเขื่อนแตกไปแล้วกว่า 24 ชั่วโมง

มีรายงานว่ารัฐบาลลาวได้ประกาศให้พื้นที่เขตน้ำท่วมเมืองสะหนามไซให้เป็นเขตภัยพิบัติสูญเสียระดับชาติ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ลาวเผยว่า ยังคงประเมินความเสียหายอยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย นอกจากนั้น ยังไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปเพื่อให้ความช่วยเหลือและจัดหาสิ่งของจำเป็นขั้นพื้นฐานไปให้ในเบื้องต้นแล้ว




แม้จะมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพขึ้นที่สูงโดยด่วน หลังเกิดเหตุสันเขื่อนแตก แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากติดค้างอยู่บนหลังคาบ้านเรือนในหลายหมู่บ้านของเมืองสะหนามไซ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวายโกลาหล รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น และมูลนิธิการกุศลได้รณรงค์รับบริจาคสิ่งของจำเป็นเพื่อผู้ประสบภัย เช่น เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค

ด้านนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีออกไป และเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือ


https://news.mthai.com/world-news/660074.html



ลาวเขื่อนแตก น้ำทะลัก 5,000 ล้านตัน สั่งอพยพโกลาหล มีทุนไทยร่วมสร้าง เพิ่งเริ่มกักเก็บน้ำปี 60





ABC Laos news รายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 23 กรกฎาคม เกิดเหตุเขื่อนปิดช่องเขา (Saddle Dam) ของโครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแตก ส่งผลให้มวลน้ำปริมาณ 5,000 ล้านตันไหลทะลักลงแม่น้ำเซเปียน เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในแขวงอัตตะปือ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศลาว

แม้จะมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพขึ้นที่สูงโดยด่วน หลังเกิดเหตุสันเขื่อนแตก แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากติดค้างอยู่บนหลังคาบ้านเรือนในหลายหมู่บ้านของเมืองสนามไซ แขวงอัตตะปือ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวายโกลาหล ขณะที่มูลนิธิของเอกชนในลาวต้องประกาศขอรับความช่วยเหลือ

สำหรับโครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย มีบริษัทไทยคือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทุนโดยถือหุ้นร้อยละ 25 ร่วมกับบริษัทข้ามชาติอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท เอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 26

บริษัท Korea Western Power จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 25 บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 25 และ Lao Holding State Enterprise ถือหุ้นร้อยละ 24 ดำเนินโครงการภายใต้ชื่อ บริษัท ไฟฟ้า เซเปียน-เซน้ำน้อย จำกัด ทุนจดทะเบียน 306 ล้านเหรียญสหรัฐ


ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2560 ของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนเซเปียนและเขื่อนเซน้ำน้อย แล้วเสร็จ เร่ิมกักเก็บน้ำเมื่อปลายเดือนเมษายน 2560 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์กังหันน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าระหว่างสถานีไฟฟ้าแรงสูงปากเซ สปป.ลาว และสถานีไฟฟ้าแรงสูงอุบลราชธานี 3 ประเทศไทย ความก้าวหน้าโดยรวมมากกว่าร้อยละ 82 คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2562


ขณะที่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ แจ้งถึงประชาชนชาวบึงกาฬ ไม่ต้องตื่นตระหนกกรณีเขื่อนแตก และทำให้น้ำไหลลงพื้นที่ตอนล่างท่วมบ้านเรือนประชาชนราวกว่า 4,000 หลังคาเรือน โดยเขื่อนเซเปียนห่างจากเมืองปากเซ ราว 250 กิโลเมตร และปริมาณน้ำดังกล่าวที่ไหลออกจากเขื่อน ยังไม่มีผลกระทบกับชาวบ้านในจังหวัดบึงกาฬ ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง


แต่ทางจังหวัดได้ประสานกับ สปป.ลาว ตลอดเวลา เพื่อติดตามสถานการณ์ 


โดยผู้ว่าฯ บึงกาฬ บอกว่าช่วงนี้ฝนตกเยอะในพื้นที่ จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ส่วนน้ำที่ไหลออกจากเขื่อนเซเปียนในครั้งนี้ ก็จะไหลไปตามลำน้ำสาขา และลงแม่น้ำโขงบางส่วน แต่เชื่อว่าปริมาณน้ำทั้งหมดจะยังไม่ส่งผลใดๆ ในขณะนี้

https://thestandard.co/laos-saddle-dam/


ຂ້ອຍຮັກມັນ.