รัสเซีย วีซ่า (Visa) Registration Form มั่นใจ รู้ไว้ก่อนไป เอาเวลากังวล ไปวางแผนเที่ยวให้สบายใจ Part II

ต่อจากกระทู้แรกนะครับ https://ppantip.com/topic/37889869

มาต่อกัน หลังจากออกจากสนามบิน เข้าสู่ Town Centre กันครับ

มีสิ่งที่ต้องพูดถึงก่อนครับ เพราะคิดว่าทุกท่านที่มาเที่ยวรัสเซีย ยังไงซะ ก็ไม่พ้น
Moscow กับ St Petersburg แน่ๆ ละ จะเดินทางด้วยเครื่องบิน รถโค้ช หรือ รถไฟตู้นอน หรือ รถไฟด่วนพิเศษ Sapsan ครับ

ส่วนเรื่องที่จะนำมาแชร์ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับขั้นตอนการจองหรืออะไรเลย
แต่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับเรื่อง ชื่อๆ ของสถานีรถไฟ และชื่อเมือง ในแบบฉบับของรัสเซีย

รัสเซียเป็นประเทศที่เปลี่ยนการปกครองครั้งสำคัญๆ หลายครั้งในรอบ 100 ปีมานี้ครับ และ ประเด็นคือ ชื่อสถานที่ ชื่อเมือง ก็ดันเปลี่ยนไปซะด้วย
ตามการปกครอง ส่วนใครจะเรียกชื่อสถานที่นั้นๆ ว่าอะไร ก็ขึ้นกะว่า ไปเกิดและโตในช่วงไหน ก็เรียกแบบนั้น
เช่น ช่วงปี 1924 เมือง St Petersburg ใช้ชื่อว่า Leningrad ตามผู้นำที่เหล่ากลุ่มโซเวียตนับถือ แต่พอมาปี 1991 เปลี่ยนการปกครองก็กลับไปใช้ชื่อ
St Petersburg มาจนทุกวันนี้ คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ปู่ย่า เรียก  Leningrad แต่รุ่นลูก อายุ 30-40 ปีมานี้ เรียก St Petersburg อะไรประมาณนี้
พอเห็นภาพนะครับ

ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ ไอ้เรานักท่องเที่ยว จะไปรู้ได้ไงตกลง จะใช้ชื่อไหน

มันลามมาถึงการจองตั๋วรถไฟครับ เพราะชื่อสถานีที่ปรากฏในเว็บไซต์เวลาเราจอง ชื่อสถานีที่ปรากฏบนตั๋ว และชื่อสถานีที่อยู่ใน Confirmation Email
นั้น มันเป็นคนละชื่อกันครับ แต่ทั้งหมดคือหมายถึงสถานีเดียวกัน...... งงสิครับ รออะไร ไปดูตัวอย่างกันครับ

ที่จะเอามาเล่าสู่กันฟังวันนี้คือ รถไฟแบบด่วนพิเศษ Sapsan ครับ ที่ผมจองผ่านเว็บไซต์

ตั๋วที่ได้มาก็แบบนี้ครับ

ตอนจองก็เลือกแค่เดินทางจาก Moscow แต่ทางเว็บเลือกให้ว่าให้ไปขึ้นที่นี่ ยังดีครับ เขียนเป็นอังกฤษให้ด้วย Moskva Kurskaia
ซึ่งมันเป็นอังกฤษแบบพี่รัสเซียพอใจจะแปลให้แบบนี้ครับ เราต้องเอาชื่อนี้ ไป google หาอีกทีครับว่า อังกฤษแท้ๆ มันคือที่ไหน
ไม่งั้นหาในแผนที่ไม่เจอครับ สรุปก็ได้ชื่ออังกฤษเป็น Moscow Kurskaya

ส่วนปลายทางเป็น ST Petersburg Glavny อันนี้พอเดาได้ครับ

อันนี้เป็นตั๋วกลับมา Moscow ครับ

ขึ้นที่สถานีเดิมจาก St Petersburg แต่กลับมาถึง Moscow เป็นสถานีใหม่ครับ  Moskva Oktiabrskaia ก็ต้องเอาชื่ออังกฤษที่อ่านได้ ไปหาครับว่า
สถานี้นั้น สะกดอังกฤษ มันคือที่ไหนใน Google

ยังงง ไม่ทันหายเท่าไหร่ มี Confirmation Email มาครับ

จากภาพครับ สถานีต้นทาง Kurskiy ใน Moscow สะกดไม่เหมือนกันซะทีเดียวแต่พอเดาได้ เพราะเพิ่งไป Google มา
พอดูปลายทางเที่ยวแรกสถานีที่ไปลง ชื่อ Moskovskiy ซึ่งไม่ตรงกะบนตั๋ว ที่เป็น ST Petersburg Glavny
เลยเอาไป Search ครับ..... เฮ้ยยย แปลออกมาได้คือ

Moscow Station !!! งงสิครับ ผมจะไป St Petersburg .... ไหงออกจาก Moscow ไปลง Moscow แล้วมันจะถึงไหมเนี่ยะ
เลยทำใจเย็นก่อนครับ ไปดูรายละเอียดขากลับมา Moscow

ขากลับนั้น นั่งจาก Moskovskiy หรือ Moscow Station ไปลงที่ Leningradskiy ชื่อไม่ตรงกันกะบนตั๋วอีก และยิ่งไปกว่านั้น
ชื่อ Leningrad เนี่ยะ มันคือชื่อเดิม ของเมือง St Petersburg !!! เฮ้ยย ผมจะกลับ Moscow แง๊วววววส์


เอ๊าาาา ตั๋วขาไปจาก Moscow ให้ไปลง Moscow ตั๋วขากลับ ออกจาก Moscow ไปลง St Petersburg ..... นี่มันเข้าไปหลงในเมืองลับเแล หาทางออก
ไม่เจอแล้ว ( คิดแบบนี้จริงๆ ครับ )

พอมาลองนั่งอ่านที่อยู่ใน Confirmation Email ก็จับความได้ว่า ถึงแม้ชื่อสถานี้จะแปลกๆ แต่ที่อยู่ที่ตั้งที่ส่งมา มันก็คือ Moscow - St Petersburg
และ ขากลับคือ St Petersburg - Moscow ตามที่ได้จองไป

เอาไงดีละครับ ชื่อสถานีหลายชื่อ ตอนจอง บนตั๋ว และใน Email ไม่ตรงกันซักซื่อ....

สรุปครับ วัฒนธรรมการเรียกชื่อสถานีรถไฟของรัสเซียนั้น นอกจากชื่อจะเปลี่ยนไปตามการปกครองแล้ว การเรียกชื่อสถานี จะใช้เรียกเป็นชื่อของ
"สถานีปลายทาง" ที่รถไฟที่ออกจากสถานีนั้น จะมุ่งตรงไปครับ

แต่ก่อนนั้นรถไฟสายนี้ เป็นสายที่ลิ้งค์กันระหว่าง Moscow และ St Petersburg ดังนั้น ชื่อสถานีใน Moscow จึงใช้ว่า Leningrad
หมายถึง ใครจะไป Leningrad ให้มาขึ้นที่นี่ ซึ่งเป็นชื่อเก่าของ St Petersburg
ส่วนสถานีใน St Petersburg จึงใช้ชื่อว่า Moscow ซึ่งหมายถึง ใครจะไป Moscow ให้มาขึ้นที่นี่

ด้วยประการฉะนี้ ครับ ... รับทราบโดยพร้อมเพรียงกันนะครับ

ดังนั้น ใครจะเดินทางก็เช็คสถานีกันดีๆ ด้วยครับ

เอาละ  รถไฟ Aeroexpress ที่ขึ้นมาจาก สนามบิน น่าจะมาถึงตัวเมืองกันแล้วนะครับ จากนี้ไปก็ต่อ Metro เข้า Town Centre สู่ที่พักของแต่ละท่าน
ได้ละ ส่วนจะเป็นสถานีไหน ก็ขึ้นกับว่า เรานั่งรถไฟมาจากสนามบินอะไรนะครับ

ตอนนี้เราจะมาแนะนำตั๋วระบบขนส่งมวลชล กันครับ สถานี Metro ต่างๆ นั้นเป็นจุดเด่นที่พลาดไม่ได้ทั้งของ Moscow และ St Petersburg


สองใบนี้เป็นของ Moscow นะครับ เป็นตั๋วกระดาษแต่ทน ไม่ต้องมีมัดจำครับ ใช้เสร็จก็เก็บกลับเป็นที่ระลึกได้เลย
มีแบบ 1 วัน 2 วัน ยาวไป 7 วันก็มี ส่วนราคา ถ้าต้องการตรวจสอบ แนะนำให้ลองหาใน Google ดู Keyword: Moscow Metro Days Travel Prices
ราคาใน google บางทีก็ไม่อัพเดทนะครับ แต่ก็คือ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ศึกษาไปก่อนก็จะพอกะประมาณค่าใช้จ่ายได้ครับ

ส่วนของผม อยู่ Moscow 5 วัน ตั๋วแบบ 5 วันไม่มี ก็เลยซื้อ 7 วันไปเลย 830 รูเบิล คิดแล้วยังไงก็ถูกกว่ามาซื้อเพิ่มรายวัน

บางท่านอาจจะได้ยินตั๋ว Troika card มา จะเป็นแบบตั๋วค่อยๆ หักเงินไปทุกครั้งที่ใช้ ซึ่งถูกกว่าจ่ายสดทีละครั้ง
มีค่ามัดจำครับ ถ้าใครคิดว่า จะใช้บริการขนส่งไม่บ่อยมาก ตัวนี้เป็นทางเลือกที่ดีครับ แต่ถ้าจะตะบี้ตะบันขึ้นๆ ลงๆ กระโดษขึ้นรถเมลล์ ลงรถราง แบบนี้ Days Travel จะคุ้มกว่า

ในสถานีจะมีช่องให้ซื้อ มองไปจะมีป้าๆ นั่งกันอยู่ หน้าตาประมาณ อย่ามายุ่งกะกู 55 อะไรแบบนั้น จริงๆ ไม่มีอะไรครับ มองๆ ไป เจอป้าย We Speak English แต่นั่น ขึ้นกับว่า ตอนที่เราเข้าไป คนที่พูดได้ เข้ากะ หรือเปล่า นะครับ

แนะนำครับ เวลาซื้อตั๋ว ถ้าไปเจอป้ารัสเซียแท้ๆ ไม่พูดอังกฤษ ให้พูดตรงๆ ไปเลยคือ Day Travel Card จะกี่ Day ก็ว่าไปครับ
ชูนิ้วบอกจำนวนด้วย ไม่ต้อง Can I have หรือ Could I get นำหน้าครับ จะยิ่งสื่อสารกันงง จัดกันไปเป็นคำๆ นี่แหละครับ
จากนั้น ป้าๆ จะบอกราคากลับมาด้วยเครื่องคิดเลขครับ

แล้วคุณดูสถานีรถไฟใต้ดิน
ของรัสเซียครับ

อันนี้ Moscow ครับ Keyword: Moscow Metro Stations
*ภาพจาก google นะครับ

ใครที่ชอบสถาปัตยกรรม แค่เที่ยวชมสถานีก็อิ่มใจแล้วครับ ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากเข้าสถานีแล้ว เก็บตั๋วไปได้เลย ขาออก เดินตัวปลิวออกไปครับ เค้าไม่
มาสนใจ นั่นหมายถึง จะอยู่นั่งเล่น ชมวิว นั่งรถไฟวนรอบระบบใต้ดิน ที่ลึก อลังการ ได้เสรี สัญญานโทรศัทพ์ครอบคลุมทุกพื้นที่ด้วย และแถมมี
wi-fi ให้ใช้ฟรีด้วยนะครับ ตั๋วผม 7 วัน 830 รูเบิล คิดเป็นไทย 415 บาท (กค. 2561,2018) คุ้มสุดๆ ราคานี้ เอามาใช้ที่ London ยังขึ้นได้ไม่ถึง 1 วันเลย

ยิ่งไปกว่านั้น ผมใช้คำว่า ตั๋วระบบขนส่งมวลชล ก็เพราะว่า มันใช้ขึ้นได้ทุกอย่าง ในอาณาเขต Moscow ครับ ทั้ง Metro รถเมลล์ และ รถราง
ทุกอย่างมี wi-fi ให้ใช้ครบหมดครับ สุดๆ จริงๆ เสียดายไม่ได้ลองเอาไปใช้ขอขึ้นเรือดำน้ำ กับ กระสวยอวกาศ ไม่แน่ใจ รวมไปด้วยมั้ย 55

ถือเป็นการได้บรรยากาศที่เรียกว่า รัฐจัดการให้ประชาชน คือรู้สึกได้เลยครับว่าไอ้การที่ประชาชนได้ประโยชน์จากการจัดการของรัฐ มันรู้สึกอย่างไร

ส่วนนี่เป็นภาพของสถานี Metro ใน St Petersburg ครับ
*ภาพจาก google นะครับ

ส่วนราคาตั๋วที่นี่นั้น ผมซื้อแบบ 5 วัน 510 รูเบิล เป็น Days Travel Card เหมือนกัน แต่ต้องมีมัดจำ 60 รูเบิลครับ
ใช้เสร็จ ก็เอาไปคืนเค้า เค้าก็จะคืนเงินมัดจำมาให้ ไม่คืนก็เก็บเป็นที่ระลึกครับ ส่วนตอนไปคืน เหมือนเดิมครับ หากไปเจอคุณป้าไม่พูดอังกฤษ อย่าไปฝืนพูด Refund Return หรืออะไรพวกนั้น เพราะเค้าจะงง ไม่รู้ว่า เราจะเอามาคืน หรือเอามาเติมตัง

หากเจอเหตุการณ์นี้ เวลาคืน ให้ยืนตั๋วไป และ เอาแขนมาไขว้กัน เป็นกากบาทครับ อันนี้หมายถึง ไม่ใช่ ไม่เอา อย่า เฮ้ย พอแล้ว ทุกอย่างที่เป็น
Negative ครับ เป็นอันเข้าใจ ส่วนการเอานิ้วชี้ สองข้างมาไขว้กัน ทำกากบาท แล้วถูแบบเฉือนๆ หมายถึง ครึ่งหนึ่ง แบ่งครึ่ง ใช้เวลาซื้อผลไม้
ที่ต้องชั่งน้ำหนัก หรือสั่งอาหารตามข้างทางครับ


เอาละครับ คิดว่า คงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ก่อนการเริ่มเที่ยวอย่างจริงจัง

จากตรงนี้ไป แนะนำเพิ่มเติมนิดๆ หน่อยๆ นะครับ จะอ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ผ่านไปครับ

ระหว่างเที่ยวไป ลองอาหารข้างทาง อาหารโลคอล จนเบื่อแล้ว
ใครเริ่มคิดถึงอาหารเอเชีย ผมแนะนำร้าน Yakitoriya นะครับ มีทั้งใน Moscow และ St Petersburg
https://yakitoriya.ru/en/

เข้าไปดูเมนูได้ มีภาษาอังกฤษครับ เป็นอาหารนานา ชาติ อเมริกัน ญี่ปุ่น จีน ไทยนิดๆ อิตาเลี่ยน เหมารวมกันอยู่ในที่เดียว
เวลาวางเมนูให้ วางที 3 เมนูครับ เลือกกันตามอัธยาศัย

รสชาติเข้มข้นครับ ไม่เลี่ยน ถูกปากคนไทย อร่อยครับ ราคาพอๆ กับบ้านเราครับ แพงต่างกันไม่มาก


อันนี้ Rolls แบบ 8 ชิ้น ราคา ประมาณ 345 รูเบิล ก็ 175 บาทได้ ก็ถือว่าเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ราคาโอเคนะครับ ในต่างแดน อร่อยด้วยครับ
ข้าวนุ่ม ไม่เหมือนในยุโรปประเทศอื่นๆ ที่ข้าวมักจะแข็งครับ หากไม่ใช่ร้านที่คนญี่ปุ่นทำเอง


ส่วนอันนี้เป็นตรายี่ห้อร้านครับ จำเอาไว้ จะได้หาได้ง่ายๆ

ใครมีเซนต์ด้านภาษาศาสตร์ มีแนะนำครับ ไม่สนใจ ผ่านไปได้ แต่ถ้าทำได้ จะเที่ยวสนุกขึ้นเยอะเลยครับ
การอ่านภาษารัสเซียแบบง่ายๆ ครับ

โลโกของร้าน เขียนว่า "Якитория"
R กลับหลัง ออกเสียงว่า ya
k เทียบได้กับ k ในภาษาอังกฤษครับ
N กลับด้านคือ ตัว i
T ก็ T ครับ
O ก็ O
p คือ ตัว R

Якитория จึงอ่านตรงๆ ว่า Yakitoriya นะครับ

*
C คือ ตัว S
п หรือ ท.ทหาร ไม่มีหัว คือ ตัว P

ป้ายจราจร ตัวนี้ ก็คือ Stop นั่นเองครับ

ใครสนใจเพิ่มเติม จะลองจำไปก็ได้ครับ
*
แล้วคุณจะสนุกกับการอ่านชื่อสถานีรถไฟใต้ดิน หรือป้ายตามข้างทางต่างๆ เพิ่มอรรถรสในการท่องเที่ยวได้เยอะเลยครับ

*
ไปเจอแบบนี้ туалет  พอเดาได้ว่าคือ Toilet ส่วนตัว K หันหลังชนกันนั้น หมายถึง สาวๆ ครับ ส่วนผู้ชายก็ M ปกติ

*
ไม่ใช่ที่ซื้อตั๋วเครื่องบินนะครับ
банк ก็คือ Bank หรือธนาคารนั่นเอง
*ภาพประกอบจาก google

สุดท้ายแล้วครับ แนะนำ ตลาด Izmaylovsky Market  สถานี Metro คือ Partizanskaya ครับ
เปิด พุธ เสาร์ อาทิตย์ 9am-6pm ครับ




เรียกว่าจตุจักรบ้านเราก็ได้ครับ ใครจะซื้อ Russian Dolls ให้มาซื้อที่นี่ครับ
ผมซื้อตัวแบบเดียวกันที่ ST Peters 940 ลงมามอสโคว เจอ 700 เดินไปเรื่อยๆ เจอร้านแปะป้าย 50% ราคา 600 ก่อนกลับมาเจอที่ตลาดนี้
300 ครับ

สวัสดีครับ ตัวอักษรครบ 10000
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่