ข่าวดีกลุ่มโรงไฟฟ้า ?? คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานใหม่ => นโยบายใหม่

กระทู้สนทนา
กกพ.ชี้ถูกตั้งมาโดยคำสั่งคสช.แต่ก็พร้อมทบทวนบทบาท หลังถูกบีบให้ลาออก

http://www.energynewscenter.com/index.php/news/detail/1412

การเมืองส่งสัญญาณบีบให้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ลาออก ประธานกกพ.เปิดแถลงข่าวพร้อมพิจารณาตามประเด็นข้อกฎหมาย เผยคณะกรรมการทุกคนรู้ดีว่าได้รับตำแหน่งมาจากคำสั่งหัวหน้าคสช. เมื่อ4ปีที่แล้ว  และที่ผ่านมาดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงพลังงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์  ระบุการถูกบริษัทกัลฟ์ฯ ฟ้องร้อง คดี เป็นเรื่องของการปฎิบัติตามบทบาทหน้าที่ อย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริตต่อหน้าที่

นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยถึงกรณีที่รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม เรียกเข้าพบ และมีกระแสข่าวลือว่า รัฐบาลต้องการให้ กกพ.ลาออก ว่า คณะกรรมการ กกพ. ชุดปัจจุบันที่เหลืออยู่ 6 คน ถือเป็นคณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งขึ้นจากคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2557  ซึ่งถือได้ว่าเป็นกฎหมายที่ต้องถือปฏิบัติ โดยในคำสั่งไม่ได้กำหนดว่า ต้องอยู่ในวาระกี่ปี   โดยไม่ได้มาจากกระบวนการสรรหาตามกฎหมายพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงานปี 2550 เหมือนคณะกรรมการ กกพ.ทั้งสองชุดก่อนหน้านี้  ที่ในมาตรา 17 ระบุว่ากรรมการ กกพ.มีวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี นับตั้งแต่วันดำรงตำแหน่ง และเมื่อครบ 3 ปี ต้องจับฉลากออก 3 คน

ทั้งนี้ปัจจุบัน กกพ.ทั้ง6คนได้ดำรงตำแหน่งมาครบ 4 ปี 3 วัน แล้ว ซึ่งในช่วงก่อนจะครบกำหนดการดำรงตำแหน่ง 3 ปี ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวการดำรงตำแหน่งของ กกพ. แล้วว่าจะยึดแนวปฎิบัติตาม พ.ร.บ. ประกอบกิจการพลังงานปี 2550  หรือจะยึดตามคำสั่ง คสช. ที่ยกเว้น มาตราที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาเอาไว้  ซึ่งได้คำตอบว่า คณะกรรมการ กกพ. ชุดแรกซึ่งมีนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ เป็นประธาน กกพ. ได้มีดำเนินการจับฉลากออกไปแล้ว3คนตามกฎหมายแล้ว ดังนั้นคณะกรรมการ กกพ.ชุดปัจจุบันซึ่งถือเป็นชุดที่ 3 จึงไม่จำเป็นต้องจับฉลากออกตามกฎหมายอีก  จึงได้นำ มติของคณะกรรมการกฤษฎีกา รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในสมัยนั้น คือพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรับทราบ และมีการปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งมาจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้การส่งสัญญาณจากรัฐบาล ว่า กกพ.ชุดปัจจุบันได้ปฏิบัติภาระกิจลุล่วงแล้วและควรพิจารณาตัวเองเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งนั้น ทาง กกพ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะเร่งหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพื่อให้คำตอบกับรัฐบาลโดยเร็วที่สุด

“กรรมการทุกคนรู้ตัวดีว่าได้รับการแต่งตั้งมาอย่างไร  และไม่ได้คิดว่าจะต้องอยุ่ไปเรื่อยๆจนครบวาระ โดยหากนโยบายรัฐบาลมีความเห็นออกมาเป็นอย่างไร เราก็พร้อมที่จะปฎิบัติตาม  ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานของกกพ.ก็สนองตามนโยบายของรัฐบาลด้วยดีมาโดยตลอด เช่นการเร่งแก้ไขปัญหาการออกใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้า ที่สมัยนั้นติดปัญหาใบ รง.4 จำนวนมาก ซึ่งเราได้แก้ไขจนลุลวงแล้ว ใครจะบอกว่าเราเก่งหรือไม่เก่ง เราไม่ทราบ แต่เราตั้งปณิธานว่า ต้องทำงานกันเป็นทีม อย่างซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับการคอรัปชั่น โดย ที่ผ่านมา การที่ กกพ.ถูกฟ้องร้องตามกฎหมายจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องของกระบวนการดำเนินงานที่ต้องยึดหลักกฎหมาย และ เรายินดีให้เอกชนฟ้องเพราะจะได้พิสูจน์ว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ” นายพรเทพ กล่าว

นายพรเทพ กล่าวว่า หากท้ายที่สุดต้องมีการจับฉลากออก 3 คน ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการปฏิบัติงานของ กกพ. เนื่องจากยังมี กกพ.ที่เหลือดำเนินการได้ แต่หากต้องออกจากตำแหน่งทั้งหมด ก็ย่อมมีผลกระทบต่องานต่างๆ ที่ยังต้องทำอยู่ในปัจจุบันแน่นอน

ด้านนายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า  คดีที่กกพ.ถูกบริษัทกัลฟ์ ฟ้องนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามหน้าที่ ที่กกพ.มีการกำหนดหลักเกณฑ์ขึ้นมาเกี่ยวกับการให้ใบอนุญาต ให้เป็นผู้จัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG Shipper) ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริต คอรัปชั่น โดยที่กกพ.พิจารณาไม่ให้กลุ่มกัลฟ์ได้ใบอนุญาตดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า บริษัทไม่ได้มีกลุ่มลูกค้าใหม่ที่จะใช้LNG แต่มีเฉพาะแหล่งที่สามารถซัพพลายLNG ให้ได้เท่านั้น จึงไม่เข้าหลักกณฑ์คุณสมบัติ  ซึ่งหากบริษัทเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณา ก็สามารถที่จะยื่นฟ้องร้องได้ ถือเป็นเรื่องปกติ โดยที่ผ่านมา กกพ. ก็ถูกกลุ่มกัลฟ์ ฟ้องมาแล้ว 2คดี แต่ภายหลังได้มีการถอนฟ้องเป็นแล้วทั้งสองคดี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่