เมื่อกระแสการลดความอ้วนกำลังฟีเวอร์ในที่ทำงาน สาวออฟฟิศหัวใจเปลี่ยวจึงรวมตัวกัน
เริ่มปฏิบัติการ ลดความหวาน แต่ไม่ยอมลดความสวยจึงเริ่มขึ้น ไปค่า....
_________________________________
แนะนำตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไม่รู้จักชื่อจักแซ่กัน เราชื่อปันคะ ปีนี้อายุ 27 ปีค่ะ ตอนนี้เป็นสมาชิกของกลุ่มลดน้ำหนักด้วยการนับแคลอลี่ค่ะ
จุดเปลี่ยนที่ทำให้หันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง (บ้าง) ก็คือเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่สมาชิกสาวออฟฟิศหน้าใส หุ่นเผละอย่างเรา นั่งกินชาเขียวเพิ่มวิปครีม พ่วงกับเครปเย็นใส้ชาเขียวกันอย่างตั้งหน้าตั้งตา เพื่อนคนนึง ก็เกิดบรรลุในสัจธรรมของอาหารขึ้นมา ทำเอาพวกเราอยากยกมือไหว้เลยเจ้าค่ะ มันพูดว่า “กูว่ากินหวานๆ แบบนี้ทุกวันไม่เวิร์คแน่ พวกเราลองมาลดน้ำตาลกันเล่นๆ มั้ย”
ตอนนั้นคุณเพื่อนพูดเล่น เรื่องลดน้ำตาลค่ะ แต่เราคิดจริง เลยเริ่มผันตัวมาเป็นสมาชิกของกลุ่มลดน้ำหนักกับเพื่อนๆ พี่ๆ ในออฟฟิศ คือนับแคลอย่างที่บอกค่ะ บอกตรงๆ ว่าอยากเห็นอนาคตตัวเอง สุขภาพดี แล้วก็ใส่เสื้อผ้าสวยๆด้วย เลยต้องเริ่มดูแลตัวเอง กินอาหารแบบนับแคล แต่บางครั้งก็มีนอกลู่ นอกทางบ้าง แต่พวกเราก็ยังดูแลตัวเองอยู่เรื่อยๆ
แต่ที่สำคัญที่ยังลากตัวเองออกมาไม่ได้ คือการติดกาแฟมาก ตอนเช้าถ้าไม่กินกาแฟกระป๋องนี้จะทำงานเหมือนคนไม่ได้นอนมาประมาณ 1 ชาติค่ะ หนังตาก็จะตก เบลอๆ เอ๋อๆ ไม่สดชื่นเอาซะเลย พอกินกาแฟกระป๋องตอนเช้าๆ เพื่อนในออฟฟิศแผนกข้างๆ ก็ชอบมาแซะว่า “คุมอาหารมาทั้งวัน กินกาแฟกระป๋องเหมือนกินน้ำเชื่อมเลยนะ” บ้างก็ว่า “คุมอาหารจนแทบเป็นบ้า มาตกม้าตายตรงกาแฟกระป๋องนี่แหละ”
ปันก็ว่าไม่นะ มันมีตัวเลือกตั้งเยอะ อยู่ที่เราเลือกกินมากกว่า แก๊งชาวออฟฟิศใจเหงาอย่างเรา นำโดยพี่จิ๋มโต๊ะข้างๆ โต้โผใหญ่ บอกให้ทำเป็นรีวิวเลยค่ะ จริงๆ ก็กลัวว่าจะมีพวกจับม้า มาแซะนะคะ แต่ว่าช่างเขาค้า วันนี้เลยอยากจะเอาบรรดากาแฟกระป๋องต่างๆ ที่ปันเคยตกเป็นทาสมารีวิว มาเทสให้ดูว่าตัวไหนจะเหมาะกับพวกเรา หรือเพื่อนๆ ที่กำลังควบคุมแคลอาหารอยู่ค่ะ
แต่เดี๊ยวก๊อนนนนนน จะบอกว่า บางตัวที่ไม่บอกปริมาณน้ำตาลเป็นกรัมไว้ ปันหาวิธีการหาปริมาณน้ำตาลจาก อากู๋ค่ะ อ้างอิงจากเวปนี้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.ezygodiet.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1/
สำหรับตัวแรกนะคะ ชื่อเสียงเรียงนามว่า เนสกาแฟ เอสเปรสโซ โรสต์ ราคา
15 บาท ตัวนี้แหละค่ะ ไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน เพราะนึกถึงกาแฟ ก็ต้องนึกถึงเนสกาแฟ พลิกซ้าย หงายขวา เห็นแล้วว่ามีตารางให้ข้อมูลโภชนาการ มีน้ำตาลอยู่ประมาณ
13 กรัม ให้พลังงานทั้งหมด
80 แคลอรี่ แถมด้วยไขมันทั้งหมด
1.5 กรัมด้วยนะคะ ใจดีเสียจริง แต่ว่าไม่ได้นะคะ ลองดื่มแล้ว ละมุนลิ้นเอาการ หวานหน่อยๆ มีขมกาแฟพอเป็นพิธี โดยรวมยังคงคะแนนไว้ที่
7.5 จ้า
ตัวที่
2 ยี่ห้อเดียวกัน แต่เปลี่ยนเป็นสูตรเข้มขึ้นมานิดนึง นั่นคือ เนสกาแฟเอ็กซตร้า ริช มูลค่าความเสียหายต่อกระป๋อง คือ
15 บาทค่ะ น้ำตาลที่เติมเข้าไปในร่างกายทั้งหมดหลังจากดื่มกระป๋องนี้หมดได้ไป
14 กรัมเลยทีเดียว พลังงานต่อกระป๋อง ตกอยู่ที่ประมาณ
80 แคลลลล แต่ไขมันน้อยกว่าตัวบน
0.5% คือ
1 กรัมเองค่า ปันให้
8.0 จ้า
ตัวที่
3 ตัวถัดไป คือ คาราบาว เอสเปรสโซ ตัวนี้ เป็นขวัญใจคนทำงานเลยค่ะ เพราะราคากำลังโดนใจ จ่ายไป
15 ทอนมาตั้ง
3 บาท ดีจริงค่ะ ปริมาณที่ได้ก็เหมือนกันกับเจ้าอื่นๆ พิมพ์เดียวกันเป๊ะ คือ
180 มิลลิลิตรเหมือนกันหมด จำนวนน้ำตาลทั้งหมดนี่ก็แอบรู้สึกว่าสูงเอาการเหมือนกันนะคะ ถึงแม้ว่าไม่ได้บอกเป็นตารางข้อมูลโภชนาการไว้ แต่ว่าเราก็ทำการสอบถามอากู๋ผู้รอบรู้ ได้สูตรคำนวณปริมาณน้ำตาลง่ายๆมา ซึ่งปริมาณน้ำตาลข้างกระป๋องระบุไว้คือ
8.5% จะประมาณน้ำตาลอยู่ที่
24 กรัมเลยค่ะ ส่วนพลังงานไขมันและค่าพลังงานอันนี้ประทานโทษจริงๆ ค่ะ น้องหาไม่ได้จริงๆ ส่วนสิ่งสุดท้ายที่ใช้เทสส่วนตัวตัดสินเลยคือรสชาติ ขอบอกนะคะว่าหวานไปนิด แต่ยังพอไหว (สำหรับคนไม่ห่วงเรื่องน้ำหนักตัว) ขอให้ไปที่
6 คะแนนค่ะ
ตัวต่อมา ตัวที่
4 ก็คือ คาราบาว โรบัสต้า พี่น้องของบ้านข้างบนนี่แหละค่ะ ตีคู่กันมาติดๆ ราคาเหมือนกันเป๊ะ ก็แหมมมม ตราคาราบาวติดหราอยู่หน้ากระป๋องจะขายต่างราคากันได้ยังไงละคะ แม้รัฐจัดเก็บภาษีน้ำตาล แต่พี่บาวของเรายังกดไว้ได้ ใส่มาให้
8.5% ตีคร่าวๆได้
24 กรัม จิตใจงดงามจริงแท้พ่อคุณ ทุกอย่างเหมือนกันกับพี่ชายของเขาด้านบนเลยนะคะ
แต่รสชาตินี่ยังคงเป็นพี่บาวเช่นเคยค่ะ ได้ไป
6.5 คะแนนค่ะ
ตัวที่
5 ต้องตัวนี้เลยค่ะ เบอร์ดี้ โรบัสต้า “เบอร์ดี้หนึ่งในใจคุณ” ผู้ที่ประคองชีวิตของปันมาได้จนได้มีการมีงานทำ เพราะช่วยชีวิตคราวสอบไฟนอลตอนเรียนมหาลัยมาแล้ว คงทนถาวรราวกับต้นไม้ใหญ่เลยนะคะ ราคา
15 บาท พบปะกันได้ที่เซเว่นทุกสาขาจริงๆ แต่พลิกซ้าย พลิกขวา หาข้อมูลโภชนาการก็แล้ว เคยลองโทรหาศูนย์ข้อมูลผู้บริโภคก็แล้ว ไม่ได้คำตอบอะไรเลยค่า แต่ใช้สูตรอ้างอิงเหมือน
2 เจ้าข้างบนนะคะ ซึ่งน้ำตาลข้างกระป๋องเค้าระบุมาที่
8% นั่นคือปริมาณน้ำตาลมากถึง
23 กรัมเลยทีเดียวค่ะ แต่เรื่องรสชาตินี่ยังยกให้เขานะคะ กรรมการให้ไป
8.5 คะแนนค่ะ (แอบใส่
.5 เพราะคะแนนจิตพิสัยเลยนะคะ)
ตัวที่
6 คือเบอร์ดี้ เอสเปรสโซ่ เช่นเดียวกับพี่สาวของเขาบ้างบนเลยค่ะ ราคาเท่ากันคือ
15 บาท ตารางข้อมูลโภชนาการไม่มี ปริมาณไขมันไม่มี แต่ปริมาณน้ำตาล นี่พอๆ กับพี่สาวของเค้าข้างบนติดข้างกระป๋องว่า 8% จากนั้นเดินตามสมการของอากู๋เช่นเคยค่ะ ได้น้ำตาลมาเหนาะๆ ได้
23 กรัมค่ะ ถึงแม้ว่าปันจะแพ้รสชาติที่ติดปากมาตั้งแต่ ตอนเรียน ป.ตรี แต่พอมาทำงานแล้ว จากที่ประทับใจ แล้วไปเจอกาแฟตัวอื่นๆ ก็มีนอกใจไปบ้าง รสชาตินี่ส่วนตัวให้
8 คะแนน
ต่อมาตัวที่
7 กาแฟน้องใหม่ โลโก้คล้ายๆเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็มเพรสโซ ดับเบิล ช็อต โรบัสต้า แต่ว่าหยิบตัวนี้มาเพราะอยากสวยเหมือนคุณเจนนี่ค่า 5555 รู้จักตัวนี้เพราะรถเมล์ที่โหนกลับบ้านทุกวันติดรูปพี่สาวปันเบ้อเร่อเลย ชะนีมโน) ราคา
15 บาทเองค่ะ มีน้ำตาลอยู่ประมาณ
10 กรัมค่ะ พลังงานก็ถือว่าไม่เยอะเมื่อเทียบกับทุกตัวข้างบนคือ
60 แคล เอง ไขมัน
0 เปอร์เซ็น รสชาติตัวนี้ลองจับไปสู้กับเบอร์ดี้ป๋องสีแดงเหมือนกัน ความคล้ายคลึงกันมีอยู่บ้างนะคะ แต่ตัวนี้รสชาติต่างกัน ถ้าจะให้อธิบายส่วนตัวคิดว่าความเข้มของกาแฟ และความหวานนี่แหละค่ะ ที่ต่างกัน มีโลโก้ทางเลือกสุขภาพด้วยนะ เห็นติดที่ข้างกระป๋อง ยกป้ายคะแนนให้
8.5 คะแนนค่ะ
อีกตัวนึงตัวที่
8 มาจากบ้านเดียวกันกับข้างบนเลยค่ะ กระป๋องเป็นสีเขียว เอ็มเพรสโซ ดับเบิล ช็อต เอสเปรสโซ ราคาเดียวกันค่ะคือ
15 บาทให้น้ำตาลแค่
9 กรัมเอง ที่สำคัญแคลเท่ากับพี่ชายเขาเองด้วยคือจบที่
60 แคล ไขมัน
0 % ค่า ตัวนี้มีป้ายน่าสนใจคือทางเลือกสุขภาพซะด้วยอ่ะ อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ รสชาติของกาแฟตัวนี้ถือว่าประทับใจปันมากๆ เลย จะพูดว่ายังไงดีแต่ว่าความกาแฟ กับความนม มารวมกันมันคือความละมุนคอจริงๆ ไม่หวานบาดคอ ขนาดมีนมผสมอยู่ แคลก็ยังไม่สูงเลย ขอเก็บไว้เป็นตัวเลือกในใจก่อน แต่ขอยกป้ายคะแนนไว้ที่
9 คะแนนไปเลยค้า
ตัวที่
9 เนสกาแฟ ลาเต้ ราคา
15 บาทค่ะ รสชาติละมุนนุ่มลิ้น แต่ว่าก็ยังเป็นลาเต้ที่มีน้ำตาลน้อยอยู่นะ มีแค่
13 กรัมเองค่ะ ให้พลังงาน
80 แคล ส่วนไขมันก็ฟาดไปเบาๆ
2.5 % เท่านั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน อะให้คะแนนไว้ที่
7 คะแนนค่ะ
ตัวที่
10 กาแฟเพรียว ที่เคยเข้าใจไปเองว่าคุณใบเตย แน่นอนเป็นเจ้าของ 55555 ขอโทษเจ้าของบริษัทค่ะ ขอโทษจริงๆ 55555 ตัวนี้เมื่อก่อน ดื่มบ่อยมากเลยค่ะ เพราะเห็นว่ามันไม่มีน้ำตาล ให้พลังงานน้อย น้อยจริงๆ ค่ะ น้อยกว่านี้ก็คือน้ำเปล่าแล้วค่ะ คือ
45 แคล เอ้ออ ลืมบอกราคา
15 บาทนะคะ แต่ไขมันยังเหลือที่
1.5 กรัม ส่วนตัวรู้สึกว่าต้องดื่มประมาณ
2 กระป๋องอ่ะ ถึงจะรู้สึกว่ามันเป็นกาแฟ คือดีดบ้างในเวลาทำงาน ตรงนี้เคยรัก เคยชอบกัน ขอยกคะแนนให้ไปที่
7 คะแนนนะคะ
[CR] ริวิว 10 กาแฟกระป๋อง แบรนด์ดัง เจ้าอร่อย น้ำตาลน้อย เพื่อหุ่นเป๊ะ
เริ่มปฏิบัติการ ลดความหวาน แต่ไม่ยอมลดความสวยจึงเริ่มขึ้น ไปค่า....
_________________________________
แนะนำตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไม่รู้จักชื่อจักแซ่กัน เราชื่อปันคะ ปีนี้อายุ 27 ปีค่ะ ตอนนี้เป็นสมาชิกของกลุ่มลดน้ำหนักด้วยการนับแคลอลี่ค่ะ
จุดเปลี่ยนที่ทำให้หันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง (บ้าง) ก็คือเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่สมาชิกสาวออฟฟิศหน้าใส หุ่นเผละอย่างเรา นั่งกินชาเขียวเพิ่มวิปครีม พ่วงกับเครปเย็นใส้ชาเขียวกันอย่างตั้งหน้าตั้งตา เพื่อนคนนึง ก็เกิดบรรลุในสัจธรรมของอาหารขึ้นมา ทำเอาพวกเราอยากยกมือไหว้เลยเจ้าค่ะ มันพูดว่า “กูว่ากินหวานๆ แบบนี้ทุกวันไม่เวิร์คแน่ พวกเราลองมาลดน้ำตาลกันเล่นๆ มั้ย”
ตอนนั้นคุณเพื่อนพูดเล่น เรื่องลดน้ำตาลค่ะ แต่เราคิดจริง เลยเริ่มผันตัวมาเป็นสมาชิกของกลุ่มลดน้ำหนักกับเพื่อนๆ พี่ๆ ในออฟฟิศ คือนับแคลอย่างที่บอกค่ะ บอกตรงๆ ว่าอยากเห็นอนาคตตัวเอง สุขภาพดี แล้วก็ใส่เสื้อผ้าสวยๆด้วย เลยต้องเริ่มดูแลตัวเอง กินอาหารแบบนับแคล แต่บางครั้งก็มีนอกลู่ นอกทางบ้าง แต่พวกเราก็ยังดูแลตัวเองอยู่เรื่อยๆ
แต่ที่สำคัญที่ยังลากตัวเองออกมาไม่ได้ คือการติดกาแฟมาก ตอนเช้าถ้าไม่กินกาแฟกระป๋องนี้จะทำงานเหมือนคนไม่ได้นอนมาประมาณ 1 ชาติค่ะ หนังตาก็จะตก เบลอๆ เอ๋อๆ ไม่สดชื่นเอาซะเลย พอกินกาแฟกระป๋องตอนเช้าๆ เพื่อนในออฟฟิศแผนกข้างๆ ก็ชอบมาแซะว่า “คุมอาหารมาทั้งวัน กินกาแฟกระป๋องเหมือนกินน้ำเชื่อมเลยนะ” บ้างก็ว่า “คุมอาหารจนแทบเป็นบ้า มาตกม้าตายตรงกาแฟกระป๋องนี่แหละ”
ปันก็ว่าไม่นะ มันมีตัวเลือกตั้งเยอะ อยู่ที่เราเลือกกินมากกว่า แก๊งชาวออฟฟิศใจเหงาอย่างเรา นำโดยพี่จิ๋มโต๊ะข้างๆ โต้โผใหญ่ บอกให้ทำเป็นรีวิวเลยค่ะ จริงๆ ก็กลัวว่าจะมีพวกจับม้า มาแซะนะคะ แต่ว่าช่างเขาค้า วันนี้เลยอยากจะเอาบรรดากาแฟกระป๋องต่างๆ ที่ปันเคยตกเป็นทาสมารีวิว มาเทสให้ดูว่าตัวไหนจะเหมาะกับพวกเรา หรือเพื่อนๆ ที่กำลังควบคุมแคลอาหารอยู่ค่ะ
แต่เดี๊ยวก๊อนนนนนน จะบอกว่า บางตัวที่ไม่บอกปริมาณน้ำตาลเป็นกรัมไว้ ปันหาวิธีการหาปริมาณน้ำตาลจาก อากู๋ค่ะ อ้างอิงจากเวปนี้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวที่ 3 ตัวถัดไป คือ คาราบาว เอสเปรสโซ ตัวนี้ เป็นขวัญใจคนทำงานเลยค่ะ เพราะราคากำลังโดนใจ จ่ายไป 15 ทอนมาตั้ง 3 บาท ดีจริงค่ะ ปริมาณที่ได้ก็เหมือนกันกับเจ้าอื่นๆ พิมพ์เดียวกันเป๊ะ คือ 180 มิลลิลิตรเหมือนกันหมด จำนวนน้ำตาลทั้งหมดนี่ก็แอบรู้สึกว่าสูงเอาการเหมือนกันนะคะ ถึงแม้ว่าไม่ได้บอกเป็นตารางข้อมูลโภชนาการไว้ แต่ว่าเราก็ทำการสอบถามอากู๋ผู้รอบรู้ ได้สูตรคำนวณปริมาณน้ำตาลง่ายๆมา ซึ่งปริมาณน้ำตาลข้างกระป๋องระบุไว้คือ 8.5% จะประมาณน้ำตาลอยู่ที่ 24 กรัมเลยค่ะ ส่วนพลังงานไขมันและค่าพลังงานอันนี้ประทานโทษจริงๆ ค่ะ น้องหาไม่ได้จริงๆ ส่วนสิ่งสุดท้ายที่ใช้เทสส่วนตัวตัดสินเลยคือรสชาติ ขอบอกนะคะว่าหวานไปนิด แต่ยังพอไหว (สำหรับคนไม่ห่วงเรื่องน้ำหนักตัว) ขอให้ไปที่ 6 คะแนนค่ะ
ตัวต่อมา ตัวที่ 4 ก็คือ คาราบาว โรบัสต้า พี่น้องของบ้านข้างบนนี่แหละค่ะ ตีคู่กันมาติดๆ ราคาเหมือนกันเป๊ะ ก็แหมมมม ตราคาราบาวติดหราอยู่หน้ากระป๋องจะขายต่างราคากันได้ยังไงละคะ แม้รัฐจัดเก็บภาษีน้ำตาล แต่พี่บาวของเรายังกดไว้ได้ ใส่มาให้ 8.5% ตีคร่าวๆได้ 24 กรัม จิตใจงดงามจริงแท้พ่อคุณ ทุกอย่างเหมือนกันกับพี่ชายของเขาด้านบนเลยนะคะ
แต่รสชาตินี่ยังคงเป็นพี่บาวเช่นเคยค่ะ ได้ไป 6.5 คะแนนค่ะ
ตัวที่ 5 ต้องตัวนี้เลยค่ะ เบอร์ดี้ โรบัสต้า “เบอร์ดี้หนึ่งในใจคุณ” ผู้ที่ประคองชีวิตของปันมาได้จนได้มีการมีงานทำ เพราะช่วยชีวิตคราวสอบไฟนอลตอนเรียนมหาลัยมาแล้ว คงทนถาวรราวกับต้นไม้ใหญ่เลยนะคะ ราคา 15 บาท พบปะกันได้ที่เซเว่นทุกสาขาจริงๆ แต่พลิกซ้าย พลิกขวา หาข้อมูลโภชนาการก็แล้ว เคยลองโทรหาศูนย์ข้อมูลผู้บริโภคก็แล้ว ไม่ได้คำตอบอะไรเลยค่า แต่ใช้สูตรอ้างอิงเหมือน 2 เจ้าข้างบนนะคะ ซึ่งน้ำตาลข้างกระป๋องเค้าระบุมาที่ 8% นั่นคือปริมาณน้ำตาลมากถึง 23 กรัมเลยทีเดียวค่ะ แต่เรื่องรสชาตินี่ยังยกให้เขานะคะ กรรมการให้ไป 8.5 คะแนนค่ะ (แอบใส่ .5 เพราะคะแนนจิตพิสัยเลยนะคะ)
ตัวที่ 6 คือเบอร์ดี้ เอสเปรสโซ่ เช่นเดียวกับพี่สาวของเขาบ้างบนเลยค่ะ ราคาเท่ากันคือ 15 บาท ตารางข้อมูลโภชนาการไม่มี ปริมาณไขมันไม่มี แต่ปริมาณน้ำตาล นี่พอๆ กับพี่สาวของเค้าข้างบนติดข้างกระป๋องว่า 8% จากนั้นเดินตามสมการของอากู๋เช่นเคยค่ะ ได้น้ำตาลมาเหนาะๆ ได้ 23 กรัมค่ะ ถึงแม้ว่าปันจะแพ้รสชาติที่ติดปากมาตั้งแต่ ตอนเรียน ป.ตรี แต่พอมาทำงานแล้ว จากที่ประทับใจ แล้วไปเจอกาแฟตัวอื่นๆ ก็มีนอกใจไปบ้าง รสชาตินี่ส่วนตัวให้ 8 คะแนน
ต่อมาตัวที่ 7 กาแฟน้องใหม่ โลโก้คล้ายๆเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็มเพรสโซ ดับเบิล ช็อต โรบัสต้า แต่ว่าหยิบตัวนี้มาเพราะอยากสวยเหมือนคุณเจนนี่ค่า 5555 รู้จักตัวนี้เพราะรถเมล์ที่โหนกลับบ้านทุกวันติดรูปพี่สาวปันเบ้อเร่อเลย ชะนีมโน) ราคา 15 บาทเองค่ะ มีน้ำตาลอยู่ประมาณ 10 กรัมค่ะ พลังงานก็ถือว่าไม่เยอะเมื่อเทียบกับทุกตัวข้างบนคือ 60 แคล เอง ไขมัน 0 เปอร์เซ็น รสชาติตัวนี้ลองจับไปสู้กับเบอร์ดี้ป๋องสีแดงเหมือนกัน ความคล้ายคลึงกันมีอยู่บ้างนะคะ แต่ตัวนี้รสชาติต่างกัน ถ้าจะให้อธิบายส่วนตัวคิดว่าความเข้มของกาแฟ และความหวานนี่แหละค่ะ ที่ต่างกัน มีโลโก้ทางเลือกสุขภาพด้วยนะ เห็นติดที่ข้างกระป๋อง ยกป้ายคะแนนให้ 8.5 คะแนนค่ะ
ตัวที่ 9 เนสกาแฟ ลาเต้ ราคา 15 บาทค่ะ รสชาติละมุนนุ่มลิ้น แต่ว่าก็ยังเป็นลาเต้ที่มีน้ำตาลน้อยอยู่นะ มีแค่ 13 กรัมเองค่ะ ให้พลังงาน 80 แคล ส่วนไขมันก็ฟาดไปเบาๆ 2.5 % เท่านั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน อะให้คะแนนไว้ที่ 7 คะแนนค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้