http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3125
“หลังจากที่ดัชนี SET ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,838.96 จุด ในไตรมาสแรกของปี 2561 ตลาดก็ต้องเผชิญกับความผันผวนและปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเดือนมิถุนายนมาแตะที่จุดต่ำสุดของปีที่ 1,595.58 จุด”
โดยตัวแปรหลักมาจากความกังวลจากปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน หลังจากที่สหรัฐฯ เริ่มประกาศการใช้ภาษีนำเข้ากับสินค้าจากจีนเมื่อปลายเดือนมกราคม
...ตามมาด้วยการประกาศขึ้นดอกเบี้ยของ FED เมื่อเดือนมีนาคม และเดือนมิถุนายน
บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาพรวมกองทุนรวมครึ่งแรกปี 2561 อุตสาหกรรมกองทุนรวมค่อนข้างผันผวนอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก โดยปรับตัวลดลง -1.67% จากสิ้นปี 2560 ทำให้ยอดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ปิดที่ 4.93 ล้านล้านบาท
แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ...ในครึ่งแรกของปีนี้ มีเงินไหลเข้ากองทุนรวมประมาณ 111,970 ล้านบาท
เป็นการลงทุนในกลุ่ม “กองทุนหุ้น” ในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก
โดยมีเงินไหลเข้าสูงสุดในกลุ่มกองทุนรวมหุ้นไทยขนาดใหญ่ Equity Large cap สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 59,076 ล้านบาท โดยเป็นเงินไหลเข้าสุทธิในไตรมาสที่ 2 ถึง 40,621 ล้านบาท
“เกิดจากการที่นักลงทุนอาศัยจังหวะเข้าลงทุนขณะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงในช่วงเวลาดังกล่าว”
ตามมาด้วย กองทุนรวมกลุ่ม Short Term Bond มีเงินไหลเข้าสุทธิ 44,762 ล้านบาท, กลุ่ม Aggressive Allocation ที่ 29,895 ล้านบาท, Conservation Allocation และ Property Indirect ที่ 22,883 และ 22,542 ล้านบาท ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า 5 อันดับแรกที่มีเงินไหลเข้าสูงสุดนั้นเป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในไทยทั้งสิ้น
ส่วนกองทุนรวมที่มีเงินไหลออกสูงสุดช่วงครึ่งปีแรกนั้น คงยังเป็นกลุ่ม Global Bond ที่มีเงินไหลออกสุทธิสูงถึง -57,315 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากดูเป็นรายไตรมาส จะเห็นได้ว่าเป็นการไหลสุทธิออกต่อเนื่องจากไตรมาสแรก (1Q2561 ที่ -28,841 ล้านบาท และ 2Q2561 ที่ -28,473 ล้านบาท) ตามด้วยกลุ่ม Foreign Investment Bond Fixed Term และ Money Market ที่มีเงินไหลออกสุทธิ -33,892 ล้านบาท, และ -18,534 ล้านบาท ตามลำดับ
//////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com
เงินไหลเข้ากองทุน 1.1 แสนลบ.ช้อปบิ๊กแคป (โดย Smart Invest เว็บ Share2Trade)
“หลังจากที่ดัชนี SET ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,838.96 จุด ในไตรมาสแรกของปี 2561 ตลาดก็ต้องเผชิญกับความผันผวนและปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเดือนมิถุนายนมาแตะที่จุดต่ำสุดของปีที่ 1,595.58 จุด”
โดยตัวแปรหลักมาจากความกังวลจากปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน หลังจากที่สหรัฐฯ เริ่มประกาศการใช้ภาษีนำเข้ากับสินค้าจากจีนเมื่อปลายเดือนมกราคม
...ตามมาด้วยการประกาศขึ้นดอกเบี้ยของ FED เมื่อเดือนมีนาคม และเดือนมิถุนายน
บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาพรวมกองทุนรวมครึ่งแรกปี 2561 อุตสาหกรรมกองทุนรวมค่อนข้างผันผวนอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก โดยปรับตัวลดลง -1.67% จากสิ้นปี 2560 ทำให้ยอดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ปิดที่ 4.93 ล้านล้านบาท
แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ...ในครึ่งแรกของปีนี้ มีเงินไหลเข้ากองทุนรวมประมาณ 111,970 ล้านบาท
เป็นการลงทุนในกลุ่ม “กองทุนหุ้น” ในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก
โดยมีเงินไหลเข้าสูงสุดในกลุ่มกองทุนรวมหุ้นไทยขนาดใหญ่ Equity Large cap สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 59,076 ล้านบาท โดยเป็นเงินไหลเข้าสุทธิในไตรมาสที่ 2 ถึง 40,621 ล้านบาท
ตามมาด้วย กองทุนรวมกลุ่ม Short Term Bond มีเงินไหลเข้าสุทธิ 44,762 ล้านบาท, กลุ่ม Aggressive Allocation ที่ 29,895 ล้านบาท, Conservation Allocation และ Property Indirect ที่ 22,883 และ 22,542 ล้านบาท ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า 5 อันดับแรกที่มีเงินไหลเข้าสูงสุดนั้นเป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในไทยทั้งสิ้น
ส่วนกองทุนรวมที่มีเงินไหลออกสูงสุดช่วงครึ่งปีแรกนั้น คงยังเป็นกลุ่ม Global Bond ที่มีเงินไหลออกสุทธิสูงถึง -57,315 ล้านบาท
//////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com