เรื่องของการสตาร์ทพ่วงรถที่ไฟหมด มีประเด็นที่น่าสนใจมากๆ อยู่
2 ประเด็น ดังนี้
1. โดยทั่วไปมักกล่าวกันว่า การสตาร์ทพ่วงอย่าเอาคันเล็กที่มีไฟไปพ่วงคันใหญ่ที่ไฟหมด คันเล็กจะเสีย
แต่มีบางท่านเห็นว่าต้องดูที่ค่า CCA ไม่ใช่ค่าแอมป์
" รถเก๋งพ่วงรถกะบะได้ครับเขาใช้ค่า CCA ระกะบะ เครื่องยนต์ 3000 CC ใช้ค่า CCA 400-480 กว่าๆเอง
ก็สตาร์ติด ไม่ใช่ค่าแอมป์ผมลองเอาแบตรถเก๋ง45แอมป์มาสตาร์ตรถเครื่อ 3200 ยังติดเลยครับ โปรดให้
ข้อมูลที่ถูกด้วยครับเขาจำกันผิดๆมาเยอะแล้ว ช่างบ้างคนยังไม่รู้เลย คู่มือก็ยังบอกผิดอีก ไม่รู้จริงอย่ามา
พูดแบบถูกบ้างผิดบ้างนะครับ #งดโลกสวย ดราม่า อาจจะมาช้าหน่อย "
2. อันนี้เป็นคำแนะนำว่าเมื่อสตาร์ทรถคันที่ไฟหมดติดแล้วก่อนปลดสายพ่วงควรเปิดไฟหน้ารถ และแอร์
ดังนี้
" ด้วยความเคารพขออนุญาตเพิ่มเติมครับ เมื่อสตาร์ทรถคันที่ไฟหมดติดแล้วก่อนปลดสายพ่วงควรเปิดไฟ
หน้ารถ และแอร์เพื่อไม่ให้เกิดการกระชากของกระแสไฟฟ้า ที่จะส่งผลไปยังกล่องประมวลผลของคอมพิวเตอร์
ซึ่งจะมีในรถส่วนใหญ่ ด้วยความขอบคูณ "
ทั้งสองประเด็นมันจริงไหมครับ ท่านผู้รู้จริง
สตาร์ตพ่วง : ประเด็นที่น่าสนใจ
2 ประเด็น ดังนี้
1. โดยทั่วไปมักกล่าวกันว่า การสตาร์ทพ่วงอย่าเอาคันเล็กที่มีไฟไปพ่วงคันใหญ่ที่ไฟหมด คันเล็กจะเสีย
แต่มีบางท่านเห็นว่าต้องดูที่ค่า CCA ไม่ใช่ค่าแอมป์
" รถเก๋งพ่วงรถกะบะได้ครับเขาใช้ค่า CCA ระกะบะ เครื่องยนต์ 3000 CC ใช้ค่า CCA 400-480 กว่าๆเอง
ก็สตาร์ติด ไม่ใช่ค่าแอมป์ผมลองเอาแบตรถเก๋ง45แอมป์มาสตาร์ตรถเครื่อ 3200 ยังติดเลยครับ โปรดให้
ข้อมูลที่ถูกด้วยครับเขาจำกันผิดๆมาเยอะแล้ว ช่างบ้างคนยังไม่รู้เลย คู่มือก็ยังบอกผิดอีก ไม่รู้จริงอย่ามา
พูดแบบถูกบ้างผิดบ้างนะครับ #งดโลกสวย ดราม่า อาจจะมาช้าหน่อย "
2. อันนี้เป็นคำแนะนำว่าเมื่อสตาร์ทรถคันที่ไฟหมดติดแล้วก่อนปลดสายพ่วงควรเปิดไฟหน้ารถ และแอร์
ดังนี้
" ด้วยความเคารพขออนุญาตเพิ่มเติมครับ เมื่อสตาร์ทรถคันที่ไฟหมดติดแล้วก่อนปลดสายพ่วงควรเปิดไฟ
หน้ารถ และแอร์เพื่อไม่ให้เกิดการกระชากของกระแสไฟฟ้า ที่จะส่งผลไปยังกล่องประมวลผลของคอมพิวเตอร์
ซึ่งจะมีในรถส่วนใหญ่ ด้วยความขอบคูณ "
ทั้งสองประเด็นมันจริงไหมครับ ท่านผู้รู้จริง