“ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย
ที่เมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว พระสัทธรรมจะไม่ตั้งอยู่นาน ?
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่เมื่อ
พระตถาคตปรินิพพานแล้ว พระสัทธรรมจะตั้งอยู่นาน พระเจ้าข้า !”.
พราหมณ์ ! เพราะไม่มีการทำให้เจริญ เพราะ
ไม่มีการกระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐานทั้งสี่ ในเมื่อตถาคต
ปรินิพพานแล้ว สัทธรรมย่อมไม่ตั้งอยู่นาน.
แต่พราหมณ์เอ๋ย ! เพราะมีการกระทำให้เจริญ
มีการกระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐานทั้งสี่ ในเมื่อตถาคต
ปรินิพพานแล้ว สัทธรรมย่อมตั้งอยู่นาน. สติปัฏฐานสี่
อย่างไรเล่า ?
พราหมณ์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีปกติเห็นกาย
ในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ
มีสติ นำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้;
เป็นผู้เห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำอภิชฌาและ
โทมนัสในโลกออกเสียได้;
เป็นผู้เห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเผา
กิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออก
เสียได้;
เป็นผู้เห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำอภิชฌาและ
โทมนัสในโลกออกเสียได้.
พราหมณ์ ! เพราะไม่มีการทำให้เจริญ เพราะไม่มี
การกระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐานทั้งสี่เหล่านี้แล ในเมื่อ
ตถาคตปรินิพพานแล้ว สัทธรรมย่อมไม่ตั้งอยู่นาน.
แต่เพราะมีการกระทำให้เจริญ มีการกระทำให้มาก ซึ่ง
สติปัฏฐานทั้งสี่เหล่านี้แล ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว
สัทธรรมย่อมตั้งอยู่นาน, ดังนี้.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๓๒/๗๗๘-๗๗๙.
★★★พระสัทธรรมจะตั้งอยู่ได้นานก็ด้วย "สติปัฎฐาน๔"เท่านั้น (โอๆๆ! ไม่ได้ตรัสถึงเรื่อง"ฌาน"เลยครับ)★★★
ที่เมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว พระสัทธรรมจะไม่ตั้งอยู่นาน ?
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่เมื่อ
พระตถาคตปรินิพพานแล้ว พระสัทธรรมจะตั้งอยู่นาน พระเจ้าข้า !”.
พราหมณ์ ! เพราะไม่มีการทำให้เจริญ เพราะ
ไม่มีการกระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐานทั้งสี่ ในเมื่อตถาคต
ปรินิพพานแล้ว สัทธรรมย่อมไม่ตั้งอยู่นาน.
แต่พราหมณ์เอ๋ย ! เพราะมีการกระทำให้เจริญ
มีการกระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐานทั้งสี่ ในเมื่อตถาคต
ปรินิพพานแล้ว สัทธรรมย่อมตั้งอยู่นาน. สติปัฏฐานสี่
อย่างไรเล่า ?
พราหมณ์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีปกติเห็นกาย
ในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ
มีสติ นำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้;
เป็นผู้เห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำอภิชฌาและ
โทมนัสในโลกออกเสียได้;
เป็นผู้เห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเผา
กิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำอภิชฌาและโทมนัสในโลกออก
เสียได้;
เป็นผู้เห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำอภิชฌาและ
โทมนัสในโลกออกเสียได้.
พราหมณ์ ! เพราะไม่มีการทำให้เจริญ เพราะไม่มี
การกระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐานทั้งสี่เหล่านี้แล ในเมื่อ
ตถาคตปรินิพพานแล้ว สัทธรรมย่อมไม่ตั้งอยู่นาน.
แต่เพราะมีการกระทำให้เจริญ มีการกระทำให้มาก ซึ่ง
สติปัฏฐานทั้งสี่เหล่านี้แล ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว
สัทธรรมย่อมตั้งอยู่นาน, ดังนี้.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๓๒/๗๗๘-๗๗๙.