เมื่อเดือนก่อนเจ้าสัวคีรีเพิ่งออกมาประกาศว่าจะสู้ศึกในสมรภูมิประมูลรถไฟไฮสปีด ท้าชนกับยักษ์ใหญ่อย่างซีพี ด้วยการออกตัวแรงว่าตัวเองมีประสบการณ์ในการทำรถไฟมานาน ต่างกับซีพีที่แม้จะแข็งแกร่งด้านเงินทุน แต่ก็ไร้ซึ่งประสบการณ์ด้านระบบรางหากเทียบกับบีทีเอส   [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"คีรี" ท้ารบ "ซีพี" ชิงไฮสปีด "บีทีเอส"ประกาศยึดทุกโปรเจค http://www.thansettakij.com/content/286505   


แต่จากอาการตอนตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรื่องรถไฟฟ้าขัดข้องเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คงทำเอาประชาชนรวมถึงผู้ถือหุ้นหลายๆคนถึงกับกุมขมับไปตามๆกัน กับวิสัยทัศน์และการตอบคำถามของผู้บริหารของบีทีเอสคนนี้ ที่ใช้วลีเด็ดยอดฮิต "รู้เท่าไม่ถึงการณ์" กับการบริหารงานรถไฟฟ้าบีทีเอสตลอด 20 ปีที่ผ่านมา และกล่าวถึงเรื่องผลกำไรขาดทุน แทนที่จะใช้การตั้งโต๊ะแถลงนี้ เพื่อขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการแต่เพียงอย่างเดียว  ซึ่งน้ำเสียงและคำพูดบางช่วงบางตอน แสดงอาการตัดพ้ออย่างเห็นได้ชัด แม้เจ้าตัวจะออกตัวว่าไม่ได้ใช้อารมณ์แต่แค่พูดความจริงก็ตาม !!! [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



        หรือนี่จะเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างจากตัวผู้บริหารบีทีเอส กับทิศทางการประมูลรถไฟฟ้าไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน  ที่ตอนนี้มีผู้มาร่วมซื้อซองประมูลกันอย่างคึกคักแล้วร่วม 23 รายทั้งไทยและต่างชาติ  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้23ไทย-เทศแห่ซื้อซองประมูลรถไฟความเร็วเชื่อม3สนามบิน   https://https://www.thebangkokinsight.com/22224  


เป็นไปได้หรือไม่ว่า การที่บีทีเอสออกมาประกาศชัดว่าจะอยู่ขั้วตรงข้ามกับยักษ์์ใหญ่อย่างซีพีก่อนหน้านี้นั้น ผู้บริหารตกผลึกแล้วว่าศักยภาพของพันธมิตรเดิมทีจับมือกันอยู่นั้น "กระดูกคนละเบอร์" กับคู่แข่ง  เพราะแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่มีประสบการณ์ด้านการทำระบบรางมาก่อน แต่พันธมิตรที่เจ้าสัวซีพีไปเจรจาไว้ทั้งจีน-ญี่ปุ่น-ยุโรป” ก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งเป็นทวีคูณ คำพูดที่นายคีรีหลุดออกมาว่า "รู้เท่าไม่ถึงการณ์"  นั่นอาจหมายถึง การตัดสินใจผิดพลาดที่ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยไร้ซึ่งพันธมิตรที่แข็งแกร่งก็เป็นได้ เพราะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใช้ทุนมหาศาล และกว่าจะคืนทุนใช้เวลานาน พอคิดได้ว่ากำลังจะพลาด "รู้เท่าไม่ถึงการณ์" เป็นครั้งที่ 2 จึงรีบกลับลำออกมา แย้มว่าได้มีการทาบทามเจ้าสัวซีพี เปิดช่องกรณีหากใครชนะประมูลไป ก็อาจมีการขอเข้าร่วมทุนในบางโครงการ


โดยจากคำสัมภาษณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.ค.61 ของนายคีรี ที่กล่าวว่าได้มีการทาบทามเจ้าสัวซีพี เปิดช่องกรณีหากใครชนะประมูลไป ก็อาจมีการขอเข้าร่วมทุนในบางโครงการ

“โครงการนี้เป็นโครงการระดับประเทศ ไม่มีใครทำเองได้ทั้งหมด  ไม่ว่าใครจะชนะการประมูล ก็คงไม่มีใครใจแคบที่จะไม่ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน ซึ่งทุกๆบริษัทต้องนึกถึงวันข้างหน้า เพราะการทำ Infrastructure เป็นการลงทุนระยะยาว และมีความมุ่งมั่นจริงๆ แม้ว่าในอดีตเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมาจะเป็นการลงทุนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม”นายคีรี กล่าว

เรียกได้ว่าท่าทีของนายคีรีในวันนี้ กับเดือนก่อนที่ออกมาประกาศศึกชิงประมูลกับซีพีที่ดูดุเดือดนั้น  อ่อนลงจนเห็นได้ชัด และการส่งสัญญาณเปิดกว้างกับขั้วตรงข้ามลักษณะนี้นับเป็นเรื่องที่ดี เปิดช่องให้ตัวเองได้เข้าไปมีส่วนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยที่คนไทยจับมือกัน ทำเพื่อชาติ เพราะสุดท้ายแล้วทุกอย่างที่ลงทุนไปเมื่อหมดสัญญา ก็จะตกเป็นสมบัติของชาติให้รุ่นลูกรุ่นหลานคนไทยใช้อยู่ดี