ต๊ะ (อมตะ) ภาค1 : นิรันดร์ 9-10-11/

เมื่อต๊ะเข้าเรียนชั้นประถม


การเรียนของต๊ะก็เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ วีรกรรมของเด็กทุกคนก็คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นต๊ะก็คงไม่ใช่ถ้าไม่แตกต่าง
และวันเวลาก็ผ่านไปราวมีปีก ต๊ะเป็นเด็กที่เรียนดีจนเหลือเชื่อมาก ป1 ป2 สอบได้ที่1 จนครูถามว่ามีเรียนพิเศษที่ไหนหรือป่าวและแล้วต๊ะเรียนจบป 2กำลังจะขึ้น ป3 และ อะตอมกำลังเข้า ป1 ในปีนี้


ที่สถาบันพลังงานปรมาณู


ดร. นิยมกำลังใส่สูท และออกจากห้องเพื่อออกไปศาล วันนี้จะเป็นวันชี้ชะตา ดร.นิยมว่าเขาจะได้กลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมต่อหรือจะต้องเข้าไปอยู่ในคุกและแล้ว อ.สำเร็จก็เดินเข้ามา

ดร. นิยม : พี่เสร็จเอกสารพร้อมไหม

อ.สำเร็จ : เอานี่คำอธิบายสำหรับผลงานอากาศยานพลังงานพลูโตเนียม.  เอาไปซ้อมที่จะอธิบายในศาลคล่องยัง

ดร.นิยม : ไหลไปเรื่อยๆ ผู้พิพากษาไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์.  พวกยิ้มไม่รู้เรื่องหรอก

อ.สำเร็จ : นิยม อย่าประมาทนะ

ดร.นิยม : พี่.. ตลอดหลายปีมานี้ต้องขอบคุณพี่มากที่ช่วยผมมาตลอดไม่งั้นผมตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

อ.สำเร็จ : เรามันพี่น้องกัน.. เรามันกล้าเกินไปลดความกล้าลงหน่อย.. มีอะไรให้พี่ช่วยได้พี่ไม่เดือดร้อนพี่เต็มที่ก็แล้วกัน

ดร.นิยม : การออกจากศาลในวันนี้ ถ้าไม่มีการอุทธรณ์.  วันนี้คือวันที่ผมจะเป็นไทเสียที

อ.สำเร็จ : แล้วถ้าอุทธรณ์หละ

ดร.นิยมยิ้มๆอย่างมั่นใจ : ไม่มีทางพี่.. ผมไปหละ เย็นนี้เราไปกินข้าวกันนะผมขอเลี้ยงเอง เออพี่ชวนฟ้ามาด้วยซิ

อ.สำเร็จ : พี่ไปได้แต่ฟ้าพี่จะลองชวนดู  ขานี้เขาไม่ค่อยชอบออกนอกบ้านด้วยซิ

ดร.นิยม : ไม่ชอบออกนอกบ้านหรือไม่ชอบขี้หน้าผมกันแน่ 5555


ที่ห้องนั่งดูทีวี



ค่ำวันหนึ่งพ่อแม่ลูกทั้ง 4 นั่งดูทีวี กันอยู่ก็มีข่าวเด็กอัฉริยะชาวจีน อายุ 11 ปี สามารถจดจำตัวเลขที่เขียนบนหน้ากระดาษ A4 ความยาวของตัวเลขนั้นประมาณ 2 หน้ากระดาษในเนื้อข่าวยังบอกอีกว่า เด็กสาวชาวจีนผู้นี้นอกจากจะจดจำได้แล้ว เมื่อเวลาผ่านไป 2 วันให้กลับมาเขียนใหม่เธอผิดไปเพียง 2 ตัวเท่านั้น เธอยังชอบวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นอย่างมาก รัฐบาลจีนไม่ยอมพูดอะไรเกี่ยวกับเด็กคนนี้ มีรายงานข่าว ต่อไปว่า เด็กคนนี้จะต้องถูกเก็บตัวเพื่อเข้าโครงการเด็กอัจฉริยะของจีนอีกต่อไป

อ. สำเร็จ : เด็กวิเศษอย่างนี้ทำไมไม่มีในเมืองไทยบ้าง อยากให้มาทำงานกับพ่อบ้างจัง

ฟ้า : ถ้ามาทำงานด้วย พี่ก็คงเป็นลูกน้องเขาหละ แค่ไอ้นิยมพี่ยังเอามันไม่อยู่เลย

อ. สำเร็จ : ฟ้า.. เอาอีกหละ เหน็บพี่อีกหละ

ฟ้า อ.สำเร็จ : 555555

ต๊ะ : ป๊า แล้วรัฐบาล เขาพาเด็กคนนั้นไปทำอะไร

อ.สำเร็จ : ก็เอาไปสอนหนังสือให้เด็กคนนั้นเก่ง มากกว่านี้

ต๊ะ : เอาไปเก็บตัว.. แล้วเขาได้กลับบ้านไหม และ พ่อแม่จะคิดถึงเขาหรือป่าว

อ.สำเร็จ : พ่อแม่คิดถึงลูกทุกคนนั้นแหละ พ่อแม่ก็ไม่อยากให้เขาไปหรอก และ เขาก็ไม่ให้กลับด้วย เขาเอาเงินให้พ่อแม่เขาใช้ แล้วก็พาเด็กคนนั้นไปเก็บไว้เลย เป็นสมบัติของชาติลูก

ต๊ะ : ไม่ได้อยู่บ้าน ไม่ได้เจอพ่อแม่ แล้วจะเป็นอัจฉริยะไปทำไม

อ.สำเร็จ : ต๊ะพูดดีมากลูก บ้านเรากับเขาระบบการปกครองไม่เหมือนกัน โตแล้วต๊ะจะเข้าใจเอง

ค่ำคืนนั้นในห้องนอนของต๊ะ ต๊ะหยิบหนังสือสวดมนต์ของคุณย่ามาที่ห้องนอน พร้อมสมุดเปล่าเล่มนึงและดินสอ ต๊ะเปิดหนังสือสวดมนต์ “ท่อง” ตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายเพียงรอบเดียว จากนั้นเขาเริ่มเขียนหนังสือลงในสมุดที่เตรียมมา “พระเจ้า” ที่เขาเขียนมานั้นไม่ผิดแม้แต่คำเดียวการแบ่งวรรคแบ่งตอน การย่อหน้า ขึ้นหน้าใหม่ เหมือนกันอย่างกับถ่ายสำเนา อ.สำเร็จ หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ อ.สำเร็จพูดวันนี่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับต๊ะมาก ต๊ะไม่ได้รู้สึกดีใจสักนิดและ สีหน้าของต๊ะเปลี่ยนไปทันที

ต๊ะเรียนถึง ป3 ตั้งแต่เรียนมาต๊ะจะเรียนดีแทบทุกวิชาโดยเฉพาะคณิตศาสาตร์ และ วิทยาศาสตร์ คุณครูก็อยากให้ต๊ะเป็นตัวแทนไปแข่งขันระดับโรงเรียนใน 2 วิชานี้ ต๊ะบอกว่าต๊ะไม่ชอบแข่งขัน หลังจากนั้นมา คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ของต๊ะก็อยู่ในเกณฑ์ที่เกือบตกอยู่ทุกเทอม
น้องอะตอมก็เข้าก็เข้าเรียน ป1 โรงเรียนเดียวกัน อะตอมเป็นเด็กที่ร่าเริง เป็นที่รักใคร่ของคุณครูและเพื่อนๆทุกคน จัดว่าเป็นเด็กที่ซนเรียนดีมาก ชอบเล่นกีฬา โดยปกติเด็กที่เป็นนักกีฬาเก่งนั้นผลการเรียนจะอยู่เกณฑ์ปานกลางถึงตกต่ำ แต่ใช้ไม่ได้กับน้องอะตอม เขาเป็นนักกีฬา ว่ายน้ำของโรงเรียน โดยปกติจะซ้อมเช้าซ้อมเย็น ปิดเทอมก็จะมาซ้อมเป็นประจำเพราะอยู่บ้านไม่มีอะไรทำ ที่สระมีเพื่อนเยอะ

“เคล็ดลับของอะตอมในการเรียนที่ทำให้อะตอม ได้คะแนนไม่น้อยหน้าเพื่อนๆที่เรียนดีในห้องเดียวกันคือ "ต๊ะ"


2 ปีต่อมา เร็วนะต๊ะอยู่ ป5 แล้ว



ตอน ป5 นักเรียนต้องท่องศัพท์อังกฤษ ไอ้หยกเพื่อนจอมกวนของต๊ะ เรียนกันมาตั้งแต่ อนุบาลและก็ตามมาด้วยกันเข้าเรียนที่เดียวกันห้องเดียวกัน และเป็นคนที่ชอบแกล้งต๊ะตลอดเพราะน่าจะเป็นคนเดียวที่ไม่ตอบโต้มัน กลุ่มของต๊ะมีอยู่7 คน แต่คนที่หยกสนิทด้วยคือต๊ะ และหยกมั่นใจมากๆว่า ต๊ะเป็นคนที่ฉลาดมากๆแต่ไม่แสดงออก แต่บางอย่างที่มันสงสัยและไม่มีคำตอบคือ ทำไมคะแนนสอบออกมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงกลางต่ำไม่เหมือนที่มันคิดไว้ วันหนึ่งต๊ะหยุดเรียนเพราะไม่สบาย แผนของไอ้หยกก็ได้เริ่มดำเนินการ ในวันถัดมา เวลาพักกลางวัน

หยก : เมื่อวานมีการบ้านท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ 20 คำไปท่องที่ห้องพักครู ศัพท์อยู่นี่ รีบท่องและไปสอบซะ

ต๊ะ : (ต๊ะมองหน้าไอ้หยก) มาบอกกูตอนเที่ยงไม่บอกกูเย็นนี้เลยหละ ไอ้สด

ไอ้หยก : เออ กูลืม รีบไปท่องไป

ในโรงเรียน มีกฏว่าถ้าใครพูดคำหยาบแล้วครูได้ยินจะต้องโดนไม้เรียวตี ดังนั้น ต๊ะจึงบัญญัติศัพท์ใหม่ให้เพื่อนๆ เช่น “ไอ้สัส” ก็เปลี่ยนเป็น “ไอ้สด” ดังนั้นจะได้ยินศัพท์แปลกๆจากกลุ่มเพื่อนต๊ะกันเป็นประจำเพื่อเลี่ยงไม้เรียว

ระหว่างนั้นกลุ่มของต๊ะก็ไปต่อแถวเตรียมท่องศัพท์ ต๊ะได้เป็นคนที่ 3 เพราะที่เหลือมันท่องมาแล้วยังไม่มั่นใจตัวเองต้องทบทวนระหว่างต่อแถวต๊ะก็เอาสมุดการบ้านไอ้หยกมาท่องศัพท์ และเมื่อ 2 คนท่องเสร็จ ก็คิวของต๊ะ สิ่งที่ต้องทำให้ไอ้หยกและเพื่อนที่ต่อท้ายตะลึงคือ ต๊ะมันใช้เวลาแค่คน 2 คนท่องศัพท์ต่อหน้าครูเสร็จ มันสามารถท่องศัพท์ได้ทุกตัว ไม่ติด ไม่สะดุด คล่องเหมือนกางหนังสืออ่าน

หยก : ไอ้ต๊ะ จำโคตรแม่นเลย แม่ทำอะไรให้-วะ จำยิ้มยิ้ม

ต๊ะยิ้ม : กูเคยท่องมาก่อนแล้ว

หยก : ไอ้สด ต่อให้เคยท่องมาก็ต้องสะดุดบ้างหละวะ ไปกวดวิชาที่ไหนวะ

ต๊ะยิ้มแล้วเดินจากไป

หยก : ไอ้ต๊ะ อย่าเงียบซิวะ บอกกูด้วย เด้วกูขอตังค์แม่ไปเรียนกับด้วย.....


ห้องประชุมเฉพาะกิจสำหรับ นักเรียน ป5 ขึ้น ป6



เมื่อตอนที่ ป5 ขึ้น ป6 ต๊ะถูกเชิญผู้ปกครอง ในห้องประชุมนั้นจะมีพ่อแม่ของเด็กที่แทบจะไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียนต่อระดับ ม 1 มานั้งฟังจำนวนมากครูบอกว่าถ้า ป6 คะแนนไม่ดีขึ้น เด็กกลุ่มนี้ จะต้องมาสอบใหม่พร้อมกับเด็กที่ย้ายมาจากโรงเรียนอื่น ถ้าไม่อยากสอบใหม่ขอให้ตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้
พ่อแม่ทุกคน มีสีหน้าเป็นกังวลมาก ไม่อยากลำบากในการหาที่เรียนเข้า ม1 มันเหนือยนะหนักไปกว่านั้นคือ มันอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ทำไมฉันต้องมาถูกเชิญเพราะลูกเรียนอ่อนด้วยนะ และ ฟ้าก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน


ที่ห้องเรียนวิชาภาษาไทย



ความสงสัยก็ยังติดอยู่ในใจ “ไอ้หยก” ที่ต้องการค้นหาความจริงและนี่ วิชาภาษาไทย ป6 ครูให้นักเรียนไปท่องกลอน ตอน “พระลักษณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์” ใครพร้อมก็ไปท่องกับครูที่ห้องพักครูตอนเที่ยง และต้องไปท่องก่อนที่จะสอบปิดเทอม ใครไปท่องจะได้ 10 คะแนน เป็นคะแนนช่วยวิชาภาษาไทย และแล้วแผนชั่วไอ้หยก เริ่มอีก

หยก : ต๊ะ พรุ่งนี้ ไปท่องศัพท์กับครูไหม ใครได้คะแนนมากกว่าชนะ คนแพ้เลี้ยงข้าวกลางวัน

ต๊ะ : ไม่เอา.. กูไม่ชอบพนัน

หยก :  ยิ้ม..ก็จริงจังไปได้ เล่นหนุกๆ นะๆเอานะ

ต๊ะ : งั้นพรุ่งนี้เตรียมตังค์มาเลี้ยงข้าวกูได้เลย หมดตูดแน่

หยก : โธ่ไอ้สด .. มั่นใจนะ

หยกเสริมต่อแล้วพวกมีใครจะเล่นบ้างไหมวะ จับเป็นคู่ๆเลย แผนชั่วไอ้หยกก็ได้เริ่มขึ้นทันที คือก่อนเลิกเรียน หยกหลอกล่อต๊ะออกไปข้างนอกแล้วให้เพื่อนเอาหนังสือภาษาไทยต๊ะไปซ่อน พอต๊ะกลับบ้าน หยกก็เอาหนังสือมาไว้ที่ลิ้นชักต๊ะ มันมั่นใจมากเลยว่า พรุ่งนี้มันได้กินข้าวกลางวันฟรีแน่ๆ
วันรุ่งขึ้น หยกก็ตีเนียนทำเหมือนไม่รู้ว่าต๊ะไม่มีหนังสือกลับบ้าน เมื่อต๊ะมาถึงโรงเรียน ต๊ะดูในลิ้นชักก็เจอหนังสือภาษาไทย

ต๊ะ : “หยก” พร้อมยัง

หยก : เมื่อเช้ากูยังไม่ได้-อะไรมาเลยวะ เตรียมมากินฟรีโดยเฉพาะ

(เพื่อนๆในกลุ่ม หัวเราะ )
สอง :  ยิ้มหยก เลี้ยงข้าวก็จานเดียว กะเอาตายเลยหรือไง

ต๊ะ : หยก มาเปลี่ยนกติกาดีกว่า

หยกทำหน้ามึนๆ จะมาไม้ไหนวะ : ว่ามา

ต๊ะ : ใครแพ้เลี้ยงข้าวกลางวัน วันนี้และอาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์ กูกะว่าจะ-ให้หมดตูดเลย

หยกหน้าเปลี่ยน และเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ : โฮ้ๆๆๆ โคตรมั่นใจนะ

เพื่อน ... เฮๆๆ หยกกลัวไรวะ รับไปเลย...-ฟรีทั้งอาทิตย์นะ ไอ้หยกตะโกนอย่างมั่นใจ “กูรับ” ทุกคนมั่นใจมากว่าได้กินข้าวไอ้ต๊ะแน่เพราะไอ้ต๊ะคงท้าเพราะความแค้นมากกว่า ทุกคนอยากเห็นต๊ะ ที่กำลังซ่าและหมดซ่าตอนแพ้


ณ หน้าห้องพักครู ภาษาไทย



กลางวัน มาถึงต๊ะก็บอกไอ้หยกว่า “ไปเริ่มก่อนเลย” หยกก็เข้าไปหาครูและเริ่มท่องสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือ ต๊ะ หยิบหนังสือภาษาไทยขึ้นมาแล้วเปิดอ่าน เมื่อไอ้หยกท่องเสร็จ ได้คะแนน 7 คะแนน ครูบอกว่า “ทรงพลถ้าอยากได้คะแนนมากกว่านี้ไปท่องมาใหม่เอาให้คล่องๆ เอาคนต่อไป” หยกเดินออกมา ด้วยสีหน้าระรื่น เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเต็ม 100 กูได้ 7 คะแนน พึ่งมาท่องตะกี้  ได้ 5 คะแนนก็โคตรเก่งหละวะ  ต๊ะวางหนังสือลงและเดินเข้าไปท่องต่อหน้าครู “พระเจ้า” ไอ้ต๊ะบ้าไปแล้ว ท่องหรืออ่านหนังสือวะ ได้ทั้งวรรคได้ทั้งตอน คล่องกว่ากางหนังสืออ่านซะอีก สิ้นสุดการท่อง “นิรันดร์ ครูบอกว่าท่องแค่หน้าเดียว ไม่ต้องแถมมาตั้งเยอะ” ต๊ะก็ไม่พูดอะไรนิ่งๆ  “เต็ม 10 คะแนน คนต่อไปเข้ามา” ต๊ะ ยกมือไหว้ครูแล้วออกจากห้อง พร้อมสีหน้าที่ตกตะลึงของเพื่อนทั้ง 6 คนที่นึกไม่ถึงแล้วว่าทำได้ยังไง

ต๊ะ : ไปกินข้าวเถอะ เมื่อเช้ากูยังไม่ได้กินอะไรมาเลยวะ ..ระหว่างทางเดินไปโรงอาหารไอ้หยกก็หลุดปากมาว่า

หยก :  ยิ้มต๊ะ ทำได้ไงวะ

ต๊ะ : กูก็ซ้อมท่องที่บ้านซิวะ มาทวนหน้าห้องพักครูนิดเดียว ตั้งใจว่าจะ-ให้หมดตูด

หยก : แล้วซ้อม ยิ้มไร หนังสืออยู่ที่โรงเรียน

ต๊ะนิ่งๆ เนิบๆ ตามสไตล์แล้วหันมาต่อหน้าไอ้หยก : แล้วรู้ได้ไงว่า หนังสือกูอยู่ไหน

หยกชักสีหน้าแทบไม่ทัน : เด้วอย่าเปลี่ยนเรื่อง ทำได้ไงวะ เฮ้ยเพื่อนกันสอนกันบ้างซิวะ

ต๊ะ : นั้นแหละอย่าเปลี่ยนเรื่อง รู้ได้ไงว่าหนังสือกูอยู่ไหน

สีหน้าไอ้หยกเริ่มขอความเห็นใจจากผู้เป็นเพื่อน : กูขอโทษ กูแกล้งเล่นๆไม่คิดว่าเอาจริง กูกะว่าเอามาล้อเล่นหนุกๆวะ เร็วรีบบอกมาเลย (นี่ถ้าเป็นคนอื่น ไอ้หยกโดนตืบไปแล้ว เพราะมันรู้ว่าเป็นต๊ะมันถึงกล้า)

ต๊ะ : บทที่ท่อง ย่ากูอ่านให้กูฟังตั้งแต่เด็กๆ พอกูอ่านหนังสือได้ กูก็อ่านให้ย่ากูฟังแทน หนังสือเล่มนี้บ้านกูมี กูแค่มาเปิดดูว่าต้องท่องท่อนไหนเอง  ที่เหลือกูจำได้หมดแล้ว

หยก :  ยิ้ม ท่องได้ก็ไม่บอก เสียรู้จริงๆ (หยกพูดแก้เกี้ยว จริงๆคือมันก็ไม่เชื่ออยู่ดี)

ต๊ะ : ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องกูหิวแล้ว อาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์นะอย่าลืม

ไอ้หยก ไม่เชื่อแน่ๆทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ต๊ะต้องเป็นสัตว์ประหลาดหรือมนุษย์ต่างดาวแน่ๆ ใช้เวลาแป๊ปเดียว ก็สามารถจำอะไรๆได้มากมายขนาดที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ขอปฏิญานว่า กูจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเก่งแค่ไหน จำไว้

อ่านตอนที่ 6-7-8 / https://ppantip.com/topic/37839335/comment2
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่