อยากรู้จริง ๆ ว่าในช่วงที่ผ่านมา มีแต่คนบ่น แย่ แย่ แย่ แต่คนอีกจำพวกบอกเศรษฐกิจดีดู GDP ดิโตเอา โตเอา ผลักดันเศรษฐกิจเจริญเติมโต เลยไปดูข้อมูลย้อนหลังมาโดยมีข้อสมมติฐานว่า (ข้อมูลจาก DBD และ BOT) หากเศรษฐกิจดีหมายถึงมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น การที่เงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น ก็ต้องมีกำไรเพิ่มขึ้น จ่ายภาษีนิติบุคคลเพิ่มขึ้นด้วย
ข้อมูลเป็นดังนี้
ปี GDP ภาษีนิติบุคคล (ล้าน) จำนวนนิติบุคคล ทุนจดทะเบียน (ล้าน)
2560 3.90% 622,303 680,269 16.28 ล้าน
2559 3.30% 578,736 644,759 15.86 ล้าน
2558 3.00% 568,287 617,504 15.46 ล้าน
2557 1.00% 563,958 593,958 14.60 ล้าน
2556 2.70% 598,025 559,713 10.75 ล้าน
2555 7.20% 566,792 528,757 10.69 ล้าน
2554 0.80% 572,183 507,375 9.89 ล้าน
จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ในปี 2554 ซึ่ง GDP ขยายตัวเพียง 0.80% แต่เฉลี่ยแล้วแต่ละนิติบุคคลจ่ายภาษีถึง 1.127 ล้าน และใช้ทุนเพียง 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้ได้ภาษี 57,854 ล้าน
ลองมาดูปี 2556 ซึ่ง GDP ขยายตัวเพียง 1.00% แต่เฉลี่ยแล้วแต่ละนิติบุคคลจ่ายภาษีถึง 1.068 ล้าน และใช้ทุนเพียง 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้ได้ภาษี 55,630 ล้าน
ทีนี้ลองมาดูปี 2560 ที่ GDP ขยายตัว 3.90% และบริหารโดยรัฐบาลปัจจุบัน เฉลี่ยแล้วแต่ละนิติบุคคลจ่ายภาษีเพียง 0.914 ล้าน และใช้ทุนเพียง 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้ได้ภาษี 38,225 ล้าน
หากนำข้อมูลดังกล่าวแยกย่อยลงไปอีก จำแนกตามขนาดของนิติบคคล ความสามารถในการทำกำไรของรายเล็ก และ รายใหญ่ จะเป็นอย่างไรหละหนอ หากกำไรไปตกอยู่ในมือกลุมทุนใหญ่เข้าไปอีก มีหวังว่า พวกนิติบุคคุลรายเล็ก ๆ คงจะจอดกว่านี้แน่ ๆ GDP โตแต่กำไรไม่โตและสอดคล้องกับทุนที่ลงไปเลย
ทำไม GDP ไทยขยายตัวแล้วคนจึงไม่รู้สึกดี หรือมีแต่ตัวเลข
ข้อมูลเป็นดังนี้
ปี GDP ภาษีนิติบุคคล (ล้าน) จำนวนนิติบุคคล ทุนจดทะเบียน (ล้าน)
2560 3.90% 622,303 680,269 16.28 ล้าน
2559 3.30% 578,736 644,759 15.86 ล้าน
2558 3.00% 568,287 617,504 15.46 ล้าน
2557 1.00% 563,958 593,958 14.60 ล้าน
2556 2.70% 598,025 559,713 10.75 ล้าน
2555 7.20% 566,792 528,757 10.69 ล้าน
2554 0.80% 572,183 507,375 9.89 ล้าน
จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ในปี 2554 ซึ่ง GDP ขยายตัวเพียง 0.80% แต่เฉลี่ยแล้วแต่ละนิติบุคคลจ่ายภาษีถึง 1.127 ล้าน และใช้ทุนเพียง 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้ได้ภาษี 57,854 ล้าน
ลองมาดูปี 2556 ซึ่ง GDP ขยายตัวเพียง 1.00% แต่เฉลี่ยแล้วแต่ละนิติบุคคลจ่ายภาษีถึง 1.068 ล้าน และใช้ทุนเพียง 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้ได้ภาษี 55,630 ล้าน
ทีนี้ลองมาดูปี 2560 ที่ GDP ขยายตัว 3.90% และบริหารโดยรัฐบาลปัจจุบัน เฉลี่ยแล้วแต่ละนิติบุคคลจ่ายภาษีเพียง 0.914 ล้าน และใช้ทุนเพียง 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้ได้ภาษี 38,225 ล้าน
หากนำข้อมูลดังกล่าวแยกย่อยลงไปอีก จำแนกตามขนาดของนิติบคคล ความสามารถในการทำกำไรของรายเล็ก และ รายใหญ่ จะเป็นอย่างไรหละหนอ หากกำไรไปตกอยู่ในมือกลุมทุนใหญ่เข้าไปอีก มีหวังว่า พวกนิติบุคคุลรายเล็ก ๆ คงจะจอดกว่านี้แน่ ๆ GDP โตแต่กำไรไม่โตและสอดคล้องกับทุนที่ลงไปเลย