“เสธ.แมว” ซัดคสช.ไม่เข้าใจยุทธศาสตร์ชาติ เชื่อ รบ.เลือกตั้งรื้อแน่ เย้ยแผน 5 ปี วปอ. ยังแตกคอ

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง ร่างยุทธศาสตร์ชาติ ที่สนช.จะพิจารณาในวันที่ 6 ก.ค.นี้ ว่า รัฐบาลคสช.ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนว่าคืออะไร ตามนิยามยุทธคือ การรบหรือการปฏิบัติที่เป็นแบบแผน ศาสตร์คือ องค์ความรู้ เมื่อรวมกันก็หมายถึง การปฏิบัติตามแบบแผนโดยใช้องค์ความรู้ ตามองค์ประกอบ 3 ประการคือ
1.เป้าหมาย (ends)
2. แนวทาง (ways)
และ 3.กลไกขับเคลื่อน (means)
ทั้งหมดนี้หมายความว่า ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับมียุทธศาสตร์ชาติกว้างๆไว้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องออกแผนอะไรมาตีกรอบไว้อีก โดยเป้าหมายคือ เอกราชอธิปไตย ความผาสุกของประชาชน แนวทางคือ ระบอบประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพเสมอภาค การมีส่วนร่วม

พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ส่วนกลไกขับเคลื่อนก็ทำผ่านฝ่ายบริหารกำหนดแผนตอบสนองประชาชน เช่น โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค เพื่อตอบเป้าหมายในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน มีฝ่ายนิติบัญญัติออกกฎหมาย และมีตุลาการคอยตรวจสอบถ่วงดุล การกำหนดให้ยุทธศาสตร์ชาติมีโทษทางอาญาและถอดถอนทางการเมือง จึงสะท้อนถึงความไม่เข้าใจยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาลเอง การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ โดยกำหนดกรอบไว้ยาวถึง 20 ปี จะกลายเป็นเงื่อนไขและข้อจำกัดในที่สุด เพราะไม่ได้คำนึงถึงสถานการณ์ และสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคดิจิทัล 4.0 ที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

“คนที่ร่วมกันทำยุทธศาสตร์ชาติก็ผ่านหลักสูตรวปอ.กันมาทั้งนั้น ซึ่งก็น่าจะทราบว่า นักศึกษาในหลักสูตรวปอ.ที่ต้องเสนอแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ยังร่างแผนออกมาไม่เหมือนกันเลยสักรุ่น ก็เพราะโจทย์ของสถานการณ์และสภาวะแวดล้อมมันเปลี่ยน ยิ่งโลกไร้พรหมแดนแบบนี้ ก็ยิ่งไม่ควรตีกรอบไว้ยาวถึง 20 ปี จริงอยู่บางทีรัฐบาลชุดต่ออาจอยากสานต่อบางด้าน แต่ถามว่า หากล้วงกระเป๋าไปแล้วไม่เจอเงิน เนื่องจากรัฐบาลชุดก่อนใช้หมดแล้วจะทำอย่างไร ก็ต้องปรับแผนระยะสั้นเพื่อหาเงินก่อน จึงไม่แปลกที่หลายพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย จะเสนอแก้ไขทั้งรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติหลังการเลือกตั้ง” อดีตเลขาฯ สมช.กล่าว