(ศัพท์ทางเทคนิคบางคำ ไม่ได้เปิดเชคกับพจจนานุกรม)
1) InfraRed scan/เครื่องสแกนอินฟราเรด และ เครื่องสแกนพื้นผิว 3มิติด้วยเลเซอร์ (LiDAR)
• เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ เครื่องวัดระยะโดย อินฟราเรด หรือ เลเซอร์ (ส่วนใหญ่ติดกับโดรนของหน่วยงานต่างๆ), สำรวจจากดาวเทียม (ในข่าวคือ อเมริกา) และ Leica ScanStation P20
•
ความเข้าใจผิด ใช้ รังสีความร้อน ตรวจพื้นที่ภูมิประเทศ ทำให้คนเข้าใจผิดว่าจับรังสีความร้อนจากตัวคนแล้วจะเห็นเป็นคน
• หลักการ ใช้อินฟราเรด/เลเซอร์ ยิงวัดระยะต่างๆ
โดยที่
Leica ScanStation P20 ใช้ย่านความถี่อินฟราเรดที่ 808nm หรือ visible light ที่ 658nm (ตามคอมเม้นต์คุณ TierraMan)
สำหรับ เครื่องสแกนพื้นผิวด้วยเลเซอร์นั้น ไม่มีข้อมูลระบุถึงสเปค จึงไม่ทราบลักษณะหรือความยาวคลื่นครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สามารถสืบค้นต่อ ด้วย keyword Laser scanning or Light Detection And Ranging (LiDAR) หรือ Terrestrial Laser Scanning (TLS) หรือ Airborne Laser Scanning (ALS)
• การสำรวจในถ้ำ มีประโยชน์ที่ สามารถเห็นคนในความมืดได้ เพราะในถ้ำมืดและเย็น ตัวคนยังมีความร้อนออกมา แต่ไม่ได้ทะลุผ่านผนังหินหนาๆ
ตัวส่งสัญญานด้านล่างคือ ตัวระบุพิกัด (DGPS) ให้เครื่องมือ ส่วนเครื่องมือสแกนสามารถติดบนโดรน เครื่องบิน หรือ ติดกับดาวเทียม ก็ได้ Crรูป:
https://www.yellowscan.fr
ผลที่ได้เป็นลักษณะภูมิประเทศ รูปร่าง เป็นต้น (ในรูปเป็น LIDAR และผ่านการ Process ข้อมูลแล้ว)
Cr รูป:
https://www.geoconnexion.com/news/bluesky-launches-online-lidar-map-of-britain
สแกนถ้ำ กดลิงค์ครับ
2) การสำรวจธรณีฟิสิกส์ด้วย ค่าความต้านทานไฟฟ้า
• เครื่องมือที่ใช้ เครื่องวัดค่าความต้านทานไฟฟ้า Electrical Resistivity Image
• หลักการ หินแต่ละชนิดมีความนำ/ต้านทานไฟฟ้าต่างกัน จึงปล่อยกระแสไฟ เพื่อวัดค่าดังกล่าว
• เพื่อกำหนดตำแหน่งถ้ำที่แน่นอน และคำนวนหาความหนาของชั้นหิน หรือ ตำแหน่งเพดานถ้ำ
หลักการ (เป็นภาษาอังกฤษไปก่อนละกันครับ)
Cr:รูป
https://wiki.seg.org/wiki/Electric_resistivity_surveys
การวัดที่ถ้ำหลวงเป็นแบบ 2 มิติ โดยระยะทางแปรผันตรงเป็นสัดส่วนกับความลึก ผลที่ได้หลัง Process แล้วเป็นดังภาพ
สีโทนเย็น (น้ำเงิน-เขียว) คือค่าความต้านทานต่ำ อาจเป็น น้ำ ดิน หรือหินที่ความต้านทานต่ำ
สีโทนร้อน (เหลือง-แดง) คือค่าความต้านทานสูง อาจเป็น หินชนิดต่างๆ
Crรูป:
http://www.earthdyn.com/geophysical/resistivity/resistivity.html
3) TV borehole กล้องส่องในที่แคบ
• เป็นกล้องวิดิโอ หย่อนไปตามโพรงต่างๆ เพื่อดูว่า โพรงลึกแต่ไหน สภาพเป็นเช่นไร โดยไม่ต้องเอาคนลงไปเสี่ยง
• ผลที่ได้จากการสอ่งจะเป็น video realtime หรือภาพ ณ จุดนั้นๆ
ตัวอย่างภาพจากการส่องบ่อบาดาล (ไม่ใช่โพรงธรรมชาติ)
https://www.facebook.com/WaterResourceEngineering.WRE/videos/1400745403295117/
4) การเจาะด้วยเครื่องเจาะ แบบใช้ลม
• เครื่องที่ใช้หน้างาน มี 2 แบบ
i. หัวกระแทก Percussion Drilling
ii. ลมกระแทก Air Blast
• ขอพูดถึงแบบบกระแทก อย่างเดียว
i. ลักษณะคล้ายค้อนตอกไปที่หินให้หินแตกเป็นชิ้นๆ หรือ แจ็คเจาะถนน หรือ สว่านแบบกระแทกที่เจาะปูน
ii. หัวเจาะใช้หัวเจาะเพชร
iii. ใช้ลมในการพาเศษหินขึ้นมา
iv. หลุมมีขนาดตามหัวเจาะ ส่วนมาก 4-8 นิ้ว และสามารถเปลี่ยนขนาดได้
v. ข้อดี เจาะได้เร็ว อุปกรณ์ต่อพ่วงน้อย
vi. ข้อเสีย แรงกระแทกสูง เสียงดัง หากมีโพรงเปล่าด้านล่างจะควบคุมทิศทางไม่ได้เพราะไม่สามารถควบคุมลมได้ (หินปูนมีโอกาสมีโพรงมาก)
• หน้าที่หน้างานคือ เจาะเพื่อระบายน้ำออก และ เจาะไปหาถ้ำเพื่อช่วยในการค้นหา หรือ ส่งเสบียง
ตัวอย่าง การเจาะระบายน้ำในถ้ำ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าถ้ำ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10210326949084059&set=a.1688204458915.75103.1651827673&type=3&theater
เหตุผลที่เจาะหน้าถ้ำ
https://ppantip.com/topic/37817597/comment13
เดี๋ยวมาต่อเครื่องมืออื่นๆ หรือ สงสัยถามได้ครับ จะได้เข้าใจอย่างตรงกัน
ทำความรู้จัก เทคโนโลยี การสำรวจ ที่ใช้ในการค้นหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง
1) InfraRed scan/เครื่องสแกนอินฟราเรด และ เครื่องสแกนพื้นผิว 3มิติด้วยเลเซอร์ (LiDAR)
• เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ เครื่องวัดระยะโดย อินฟราเรด หรือ เลเซอร์ (ส่วนใหญ่ติดกับโดรนของหน่วยงานต่างๆ), สำรวจจากดาวเทียม (ในข่าวคือ อเมริกา) และ Leica ScanStation P20
• ความเข้าใจผิด ใช้ รังสีความร้อน ตรวจพื้นที่ภูมิประเทศ ทำให้คนเข้าใจผิดว่าจับรังสีความร้อนจากตัวคนแล้วจะเห็นเป็นคน
• หลักการ ใช้อินฟราเรด/เลเซอร์ ยิงวัดระยะต่างๆ
โดยที่ Leica ScanStation P20 ใช้ย่านความถี่อินฟราเรดที่ 808nm หรือ visible light ที่ 658nm (ตามคอมเม้นต์คุณ TierraMan)
สำหรับ เครื่องสแกนพื้นผิวด้วยเลเซอร์นั้น ไม่มีข้อมูลระบุถึงสเปค จึงไม่ทราบลักษณะหรือความยาวคลื่นครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
• การสำรวจในถ้ำ มีประโยชน์ที่ สามารถเห็นคนในความมืดได้ เพราะในถ้ำมืดและเย็น ตัวคนยังมีความร้อนออกมา แต่ไม่ได้ทะลุผ่านผนังหินหนาๆ
ตัวส่งสัญญานด้านล่างคือ ตัวระบุพิกัด (DGPS) ให้เครื่องมือ ส่วนเครื่องมือสแกนสามารถติดบนโดรน เครื่องบิน หรือ ติดกับดาวเทียม ก็ได้ Crรูป:https://www.yellowscan.fr
ผลที่ได้เป็นลักษณะภูมิประเทศ รูปร่าง เป็นต้น (ในรูปเป็น LIDAR และผ่านการ Process ข้อมูลแล้ว)
Cr รูป:https://www.geoconnexion.com/news/bluesky-launches-online-lidar-map-of-britain
สแกนถ้ำ กดลิงค์ครับ
2) การสำรวจธรณีฟิสิกส์ด้วย ค่าความต้านทานไฟฟ้า
• เครื่องมือที่ใช้ เครื่องวัดค่าความต้านทานไฟฟ้า Electrical Resistivity Image
• หลักการ หินแต่ละชนิดมีความนำ/ต้านทานไฟฟ้าต่างกัน จึงปล่อยกระแสไฟ เพื่อวัดค่าดังกล่าว
• เพื่อกำหนดตำแหน่งถ้ำที่แน่นอน และคำนวนหาความหนาของชั้นหิน หรือ ตำแหน่งเพดานถ้ำ
หลักการ (เป็นภาษาอังกฤษไปก่อนละกันครับ)
Cr:รูป https://wiki.seg.org/wiki/Electric_resistivity_surveys
การวัดที่ถ้ำหลวงเป็นแบบ 2 มิติ โดยระยะทางแปรผันตรงเป็นสัดส่วนกับความลึก ผลที่ได้หลัง Process แล้วเป็นดังภาพ
สีโทนเย็น (น้ำเงิน-เขียว) คือค่าความต้านทานต่ำ อาจเป็น น้ำ ดิน หรือหินที่ความต้านทานต่ำ
สีโทนร้อน (เหลือง-แดง) คือค่าความต้านทานสูง อาจเป็น หินชนิดต่างๆ
Crรูป: http://www.earthdyn.com/geophysical/resistivity/resistivity.html
3) TV borehole กล้องส่องในที่แคบ
• เป็นกล้องวิดิโอ หย่อนไปตามโพรงต่างๆ เพื่อดูว่า โพรงลึกแต่ไหน สภาพเป็นเช่นไร โดยไม่ต้องเอาคนลงไปเสี่ยง
• ผลที่ได้จากการสอ่งจะเป็น video realtime หรือภาพ ณ จุดนั้นๆ
ตัวอย่างภาพจากการส่องบ่อบาดาล (ไม่ใช่โพรงธรรมชาติ)
https://www.facebook.com/WaterResourceEngineering.WRE/videos/1400745403295117/
4) การเจาะด้วยเครื่องเจาะ แบบใช้ลม
• เครื่องที่ใช้หน้างาน มี 2 แบบ
i. หัวกระแทก Percussion Drilling
ii. ลมกระแทก Air Blast
• ขอพูดถึงแบบบกระแทก อย่างเดียว
i. ลักษณะคล้ายค้อนตอกไปที่หินให้หินแตกเป็นชิ้นๆ หรือ แจ็คเจาะถนน หรือ สว่านแบบกระแทกที่เจาะปูน
ii. หัวเจาะใช้หัวเจาะเพชร
iii. ใช้ลมในการพาเศษหินขึ้นมา
iv. หลุมมีขนาดตามหัวเจาะ ส่วนมาก 4-8 นิ้ว และสามารถเปลี่ยนขนาดได้
v. ข้อดี เจาะได้เร็ว อุปกรณ์ต่อพ่วงน้อย
vi. ข้อเสีย แรงกระแทกสูง เสียงดัง หากมีโพรงเปล่าด้านล่างจะควบคุมทิศทางไม่ได้เพราะไม่สามารถควบคุมลมได้ (หินปูนมีโอกาสมีโพรงมาก)
• หน้าที่หน้างานคือ เจาะเพื่อระบายน้ำออก และ เจาะไปหาถ้ำเพื่อช่วยในการค้นหา หรือ ส่งเสบียง
ตัวอย่าง การเจาะระบายน้ำในถ้ำ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าถ้ำ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10210326949084059&set=a.1688204458915.75103.1651827673&type=3&theater
เหตุผลที่เจาะหน้าถ้ำ https://ppantip.com/topic/37817597/comment13
เดี๋ยวมาต่อเครื่องมืออื่นๆ หรือ สงสัยถามได้ครับ จะได้เข้าใจอย่างตรงกัน