7 วัน 6 คืนแล้ว ที่นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าและโค้ช รวม 13 ชีวิต ติดอยู่ในถ้ำหลวง- ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย หลังจากพากันเข้าไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา
สารพัดหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างระดมสรรพกำลังทั้งเครื่องมือและมันสมองเพื่อไปช่วยกันคิดหาทางช่วยเหลือเด็กๆและโค้ช
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (29 มิ.ย.) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อธิบายถึงแผนในการค้นหาทั้ง 13 คน ว่า มีทั้งหมด 5 แผน คือ
1.สูบน้ำออกจากถ้ำเพื่อให้หน่วยซีลทำงานได้
แผนนี้เป็นแผนแรกในการช่วยเหลือ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันแรกๆแต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝนตกหนักต่อเนื่องจึงทำให้ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้น และเป็นขุ่นโคลน ทำให้หน่วยซีลไม่สามารถทำงานได้
จนกระทั่งเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) แผนนี้เริ่มมีความหวัง เมื่อได้เครื่องสูบน้ำแรงดันสูงจาก กทม.ไปช่วย ช่วงค่ำผู้ว่าฯได้มาแจ้งข่าวดีว่าเริ่มสูบน้ำออกได้แล้ว แต่แค่ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไปฝนก็ตกลงมาอย่างหนักอีกครั้ง และครั้งนี้ดูเหมือนจะทำให้วิกฤตกว่าเดิม เพราะระดับน้ำในถ้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายน้ำท่วมห้องโถงทุกห้องที่เจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานและทะลักออกมาจนถึงปากถ้ำ
แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็พยายามเข้าไปทำงานและมีการระดมสูบน้ำออก ล่าสุดวันนี้ (29 มิ.ย.) มีการส่งเครื่องสูบน้ำจาก กทม.อีก 40 เครื่องมาช่วย ซึ่งผู้ว่าฯเชียงราย บอกว่า หากไม่มีอุปสรรคใดๆจะช่วยได้เยอะพอสมควร
2.ค้นหาโพรง-ปล่อง เพื่อหาทางเข้าถ้ำ
หลังจากปฏิบัติการโดยหน่วยซีลภายในถ้ำยังไม่ประสบความสำเร็จ ทางชุดปฏิบัติการเริ่มมองหาแผนสอง นั่นคือการหาปล่องโพรงด้านบนถ้ำหลวงที่อาจจะเป็นทางที่จะเข้าไปยังถ้ำได้
ผู้ว่าฯเชียงราย บอกด้วยว่า ตอนนี้กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ว่าควรจะต้องให้น้ำหนักกับแผนสองให้มากขึ้นเท่ากับแผนแรก และล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้ว่าฯเชียงราย ได้แจ้งความคืบหน้าว่า มีการเจอโพรงที่มีความลึกประมาณ 80 เมตร และเจ้าหน้าที่กำลังไปตรวจสอบเพิ่มเพื่อขยายผลต่อไป
ส่วนที่บอกกันว่าน้องๆอาจอยู่ด้านขวาของถ้ำนั้น ผู้ว่าฯบอกว่าก็มีทีมปฏิบัติการเข้าไปสแกนสำรวจพื้นที่ด้วยเช่นกัน
3.หาช่องตรงจุดอื่น ๆ ที่เป็นไปได้
เช่น ตรงปลายถ้ำ หรือด้านข้างปลายถ้ำ มีการระเบิดน้ำตรงปลายถ้ำและด้านข้างปลายถ้ำเพื่อช่วยลดระดับน้ำในถ้ำอีกทาง นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย บอกให้หาช่องทางว่าจะทะลวงจากด้านล่างขึ้นไป ซึ่งผู้ว่าฯบอกว่านี่เป็นอีกช่องทางที่กำลังคิดกันอยู่
4.เจาะผนังถ้ำในจุดที่เชื่อว่า 13 ชีวิตอยู่ โดยมีการสแกนเพื่อหาจุด
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ว่าฯ บอกว่า ในทางทฤษฎีเป็นไปได้หมด แต่ในทางปฏิบัติต้องคิดกันเยอะ เพราะเครื่องจักรหนักไม่น้อยกว่า 2 ตัน ต้องหาจุดที่วางแล้วมีความมั่นคง ขณะที่สภาพที่มีต้นไม้จะวางได้อย่างไร และ ฮ.ที่จะนำมายก เมื่อยกแล้วจะไปวางให้ได้จุด ถ้าไม่ได้ก็ไม่สามารถทำงานได้เลย
5.เจาะน้ำบาดาลเพื่อลดระดับน้ำในถ้ำ
แผนนี้เป็นแผนที่เสริมเข้ามาโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มมีการเจาะตั้งแต่หัวค่ำวันพฤหัสจนถึงตี 2 โดยเจาะไปได้ 2 หลุม แต่โชคไม่ดีเจาะแล้วยังไม่เจอน้ำ อย่างไรก็ตามผู้ว่าฯบอกว่าจะยังเดินหน้าแผนนี้ต่อไปด้วย
ผู้ว่าฯเชียงราย "ณรงค์ศักดิ์" โอสถธนากร ย้ำว่า ตอนนี้ทางชุดปฏิบัติการทำงานกันทุกนาที
"มีคนถามว่าทำไมผมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ตลอด... มันเหมือนแม่ทัพ รบแล้วเรากำลังจะพ่ายแพ้ เราจะเสียพื้นที่ ถ้าแม่ทัพไม่ยืนอยู่ข้างหน้า ใครจะไปช่วยแม่ทัพรบ นั่นคือเหตุผลที่เราต้องสู้กันตลอด เราจะเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้ายังไง เราก็จะสู้กันตลอด"
ตราบใดที่ปฏิบัติการยังไม่หยุด ทุกฝ่ายยังช่วยเหลือและให้กำลังใจกัน ความหวังที่จะได้พบ "ทีมหมูป่า" ทั้ง 13 ชีวิต ก็ยังไม่สิ้น
กลับมานะเจ้าหมูป่าน้อย...คนทั้งประเทศเราอยู่ !!
เครดิต nation TV
"เปิด 5 แผนปฏิบัติการ" ค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง
สารพัดหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างระดมสรรพกำลังทั้งเครื่องมือและมันสมองเพื่อไปช่วยกันคิดหาทางช่วยเหลือเด็กๆและโค้ช
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (29 มิ.ย.) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อธิบายถึงแผนในการค้นหาทั้ง 13 คน ว่า มีทั้งหมด 5 แผน คือ
1.สูบน้ำออกจากถ้ำเพื่อให้หน่วยซีลทำงานได้
แผนนี้เป็นแผนแรกในการช่วยเหลือ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันแรกๆแต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝนตกหนักต่อเนื่องจึงทำให้ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้น และเป็นขุ่นโคลน ทำให้หน่วยซีลไม่สามารถทำงานได้
จนกระทั่งเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) แผนนี้เริ่มมีความหวัง เมื่อได้เครื่องสูบน้ำแรงดันสูงจาก กทม.ไปช่วย ช่วงค่ำผู้ว่าฯได้มาแจ้งข่าวดีว่าเริ่มสูบน้ำออกได้แล้ว แต่แค่ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไปฝนก็ตกลงมาอย่างหนักอีกครั้ง และครั้งนี้ดูเหมือนจะทำให้วิกฤตกว่าเดิม เพราะระดับน้ำในถ้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายน้ำท่วมห้องโถงทุกห้องที่เจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานและทะลักออกมาจนถึงปากถ้ำ
แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็พยายามเข้าไปทำงานและมีการระดมสูบน้ำออก ล่าสุดวันนี้ (29 มิ.ย.) มีการส่งเครื่องสูบน้ำจาก กทม.อีก 40 เครื่องมาช่วย ซึ่งผู้ว่าฯเชียงราย บอกว่า หากไม่มีอุปสรรคใดๆจะช่วยได้เยอะพอสมควร
2.ค้นหาโพรง-ปล่อง เพื่อหาทางเข้าถ้ำ
หลังจากปฏิบัติการโดยหน่วยซีลภายในถ้ำยังไม่ประสบความสำเร็จ ทางชุดปฏิบัติการเริ่มมองหาแผนสอง นั่นคือการหาปล่องโพรงด้านบนถ้ำหลวงที่อาจจะเป็นทางที่จะเข้าไปยังถ้ำได้
ผู้ว่าฯเชียงราย บอกด้วยว่า ตอนนี้กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ว่าควรจะต้องให้น้ำหนักกับแผนสองให้มากขึ้นเท่ากับแผนแรก และล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้ว่าฯเชียงราย ได้แจ้งความคืบหน้าว่า มีการเจอโพรงที่มีความลึกประมาณ 80 เมตร และเจ้าหน้าที่กำลังไปตรวจสอบเพิ่มเพื่อขยายผลต่อไป
ส่วนที่บอกกันว่าน้องๆอาจอยู่ด้านขวาของถ้ำนั้น ผู้ว่าฯบอกว่าก็มีทีมปฏิบัติการเข้าไปสแกนสำรวจพื้นที่ด้วยเช่นกัน
3.หาช่องตรงจุดอื่น ๆ ที่เป็นไปได้
เช่น ตรงปลายถ้ำ หรือด้านข้างปลายถ้ำ มีการระเบิดน้ำตรงปลายถ้ำและด้านข้างปลายถ้ำเพื่อช่วยลดระดับน้ำในถ้ำอีกทาง นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย บอกให้หาช่องทางว่าจะทะลวงจากด้านล่างขึ้นไป ซึ่งผู้ว่าฯบอกว่านี่เป็นอีกช่องทางที่กำลังคิดกันอยู่
4.เจาะผนังถ้ำในจุดที่เชื่อว่า 13 ชีวิตอยู่ โดยมีการสแกนเพื่อหาจุด
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ว่าฯ บอกว่า ในทางทฤษฎีเป็นไปได้หมด แต่ในทางปฏิบัติต้องคิดกันเยอะ เพราะเครื่องจักรหนักไม่น้อยกว่า 2 ตัน ต้องหาจุดที่วางแล้วมีความมั่นคง ขณะที่สภาพที่มีต้นไม้จะวางได้อย่างไร และ ฮ.ที่จะนำมายก เมื่อยกแล้วจะไปวางให้ได้จุด ถ้าไม่ได้ก็ไม่สามารถทำงานได้เลย
5.เจาะน้ำบาดาลเพื่อลดระดับน้ำในถ้ำ
แผนนี้เป็นแผนที่เสริมเข้ามาโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มมีการเจาะตั้งแต่หัวค่ำวันพฤหัสจนถึงตี 2 โดยเจาะไปได้ 2 หลุม แต่โชคไม่ดีเจาะแล้วยังไม่เจอน้ำ อย่างไรก็ตามผู้ว่าฯบอกว่าจะยังเดินหน้าแผนนี้ต่อไปด้วย
ผู้ว่าฯเชียงราย "ณรงค์ศักดิ์" โอสถธนากร ย้ำว่า ตอนนี้ทางชุดปฏิบัติการทำงานกันทุกนาที
"มีคนถามว่าทำไมผมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ตลอด... มันเหมือนแม่ทัพ รบแล้วเรากำลังจะพ่ายแพ้ เราจะเสียพื้นที่ ถ้าแม่ทัพไม่ยืนอยู่ข้างหน้า ใครจะไปช่วยแม่ทัพรบ นั่นคือเหตุผลที่เราต้องสู้กันตลอด เราจะเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้ายังไง เราก็จะสู้กันตลอด"
ตราบใดที่ปฏิบัติการยังไม่หยุด ทุกฝ่ายยังช่วยเหลือและให้กำลังใจกัน ความหวังที่จะได้พบ "ทีมหมูป่า" ทั้ง 13 ชีวิต ก็ยังไม่สิ้น
กลับมานะเจ้าหมูป่าน้อย...คนทั้งประเทศเราอยู่ !!
เครดิต nation TV