กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (2 Jul 18)

กระทู้สนทนา



สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงาน วันแรกของสัปดาห์  และ วันแรกของเดือน ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put.Call Option ทุกๆท่าน

เมื่อช่วงเช้าวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index เปิดมาอยู่ในแดนบวก ด้วยแรงซื้อเก็งว่า กองทุนจะทำ Windows Dressing แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก
ได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยกดดันจาก ความกังวลสงครามการค้า (Trade War) ระหว่างสหรัฐ และ จีน นอกจาก
นั้น สภาวะเงินทุนไหลออก ที่ตลาดประเทศไทย กำลังเผชิญอยู่นั้นเป็นปัจจัยที่กดดัน ดัชนี SET index ให้ร่วงลงไปปิดตัวที่ระดับ 1595 จุด -3.96 จุด
วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถฟื้นตัวได้หรือไม่


Fundamental

เอเชียเช้านี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิต
รายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 2 อยู่ที่ +21 ลดลงจากระดับ +24 ในไตรมาส 1 และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ไว้
ที่ระดับ +22 ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดปรับตัวลง 70.71 จุด หรือ -0.32% แตะที่ 22,233.80 จุด หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง
กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอาหาร

ฝั่งสหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (29 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มวัสดุและหุ้นกลุ่มธนาคาร ประกอบกับ
ความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าได้เริ่มคลี่คลายลง หลังจากที่จีนเตรียมประกาศมาตรการผ่อนคลายข้อจำกัดการลงทุนจากต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,271.41 จุด เพิ่มขึ้น 55.36 จุด หรือ +0.23%
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,718.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด หรือ +0.08%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,510.30 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด หรือ +0.09%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า จีนเตรียมประกาศมาตรการผ่อนคลายข้อจำกัดการลงทุน
จากต่างประเทศซึ่งรวมถึงการลงทุนในภาคพลังงานและการธนาคาร อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการปรับตัวของดัชนีดาวโจนส์ทั้งสัปดาห์
พบว่าดัชนียังคงอยู่ในแดนลบ หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ เจอร์นัลรายงานว่า ทางการจีนได้ทำการทบทวนข้อจำกัดในการเข้าถึงตลาดของ
การลงทุนจากต่างประเทศ และจะเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณชนในเร็วๆนี้

รายงานระบุว่า ข้อจำกัดในด้านพลังงาน, ทรัพยากร, โครงสร้างพื้นฐาน, การคมนาคม, กระแสการหมุนเวียนด้านการค้า และการให้บริการระดับ
มืออาชีพ จะถูกยกเลิกหรือผ่อนคลายลง เพื่อให้สอดคล้องกับที่รัฐบาลจีนได้ประกาศมาตรการเปิดเสรีในภาคการเงินและยานยนต์เมื่อไม่นานมานี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย หลังจากธนาคารหลายแห่งสามารถผ่านการทดสอบ
ภาวะวิกฤต (Stress Test) รอบที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้ธนาคารเหล่านั้นเปิดเผยแผนการซื้อคืนหุ้น หรือเพิ่มการจ่ายเงินปันผล

เฟดระบุว่า ธนาคารขนาดใหญ่ 34 แห่ง จาก 35 แห่งสามารถผ่านการทดสอบ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ สามารถผ่านการ
ทดสอบอย่างมีเงื่อนไข โดยเฟดกำหนดให้ธนาคารทั้ง 2 แห่งจ่ายเงินปันผลที่ไม่สูงกว่าระดับในปีที่แล้ว ส่วนธนาคารดอยซ์แบงก์ที่ดำเนินกิจการ
ในสหรัฐไม่ผ่านการทดสอบ

ทั้งนี้ สถาบันการเงินใดที่ผ่านการทดสอบ จะได้รับอนุญาตให้ทำการซื้อคืนหุ้น หรือเพิ่มการจ่ายเงินปันผล
เฟดจัดการทดสอบดังกล่าว โดยมีเป้าหมายป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการเงินซ้ำรอยกับเมื่อปี 2551
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นเจพีมอร์แกนดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงแรกก่อนจะร่วงลง 0.7% ส่วนหุ้นโกลด์แมน แซคส์ลดลง 1.3%
และหุ้นเวลส์ ฟาร์โกปรับตัวขึ้น 3.4%

ขณะที่ หุ้นไนกี้ อิงค์ ทะยานขึ้น 11% ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าคาดในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน
บริษัท ทั้งนี้ ไนกี้ระบุว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 69 เซนต์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 64 เซนต์/หุ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขาย
ที่ระดับ 9.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.4 พันล้านดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อวานนี่ ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%
ในเดือนพ.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.

การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐที่ชะลอตัวในเดือนพ.ค.ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคที่ลดลง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พุ่งขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555
หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนเม.ย

ฝั่งยุโรป
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) หลังจากที่สหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายผู้อพยพ ซึ่งก่อนหน้านี้
ได้สร้างความวิตกกังวลว่าจะก่อให้เกิดความแตกแยกใน EU และอาจส่งผลกระทบต่อเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาลเยอรมนี ได้เป็นผลสำเร็จ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.81% ปิดที่ 379.93 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,306.00 จุด เพิ่มขึ้น 128.77 จุด หรือ +1.06%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,323.53 จุด เพิ่มขึ้น 47.89 จุด หรือ +0.91%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,636.93 จุด เพิ่มขึ้น 21.30 จุด หรือ +0.28%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มผู้นำ EU ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายผู้อพยพ  หลังจากที่หารือกันนานเกือบ 10 ชั่วโมง

อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่รับผู้อพยพจำนวนหลายพันคน ได้ขู่ที่จะใช้สิทธิวีโต้มติดังกล่าว หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากชาติสมาชิก
บรรดาผู้นำ EU ยังระบุอีกด้วยว่า EU ควรจัดตั้งประเทศศูนย์กลางการรับผู้อพยพขึ้นใหม่ โดยกระบวนการดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจ
นอกจากนี้ ประเทศศูนย์กลางดังกล่าวจะต้องทำการแยกผู้อพยพเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้อพยพที่แท้จริง และผู้อพยพพิเศษ ซึ่งจะมีการส่งตัว
กลับประเทศ

การประชุมดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการที่เยอรมนีต้องแบกรับผู้อพยพรวม
กันกว่า 1 ล้านคนตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้นำเยอรมนีต้องการจำกัดจำนวนผู้อพยพเข้าประเทศ ด้วยการทำข้อตกลงกับสมาชิก EU ชาติอื่นๆ

หุ้นโนวาร์ติส ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสวิตเซอร์แลนด์ทะยานขึ้น 4% หลังจากที่บริษัทออกมาประกาศว่าจะซื้อหุ้นคืนมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และเตรียมแยกธุรกิจของบริษัทอัลคอน ซึ่งอยู่ในสายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพตาออกจากโนวาร์ติส

Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์


Technical Analysis

SET index TF Day:  ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ดัชนีร่วงหลุด Support line
ที่สำคัญลงไปอย่างง่ายดาย ซึ่งทำให้สัญญาณ Dead Cross กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการบ่งชี้ว่า ตลาดกำลังเข้าสู่โหมดขาลง (Down Trend) เต็มตัวแล้ว
// อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้สัญญาณจาก Indicator บางตัวเข้าสู่สภาวะ Over Sold ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเกิด
Pullback  ได้บ้าง

S50U18 TF Day: ดัชนีก็ยังคงเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา และทำ New Low อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าดัชนีกำลังจะเริ่มเข้าสู่โหมด
ขาลง (Down Trend)  อย่างไรก็ตามการที่ตลาดร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้สัญญาณจาก Indicator บางตัวเข้าสู่สภาวะ Over Sold
ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเกิด Pullback ได้บ้าง

S50U18 TF60 Min : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนียังคงเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา และทำจุดต่ำใหม่ New Low อย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าบางวัน มีความพยายามขึ้นไปยืนเหนือเส้น EMA25 วัน พร้อมกับมีสัญญาณ Bullish Divergence เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีพละกำลังมากพอ
ที่จะทำให้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นไปยืนเหนือ EMA25 วัน ได้ //ซึ่งแนวโน้มวันนี้คาดว่า หากดัชนีหลุด 1040 จุดลงไป อาจจะมีแรง Panic Sell ตามมา
//แต่ถ้าหากไม่ทำ New Low  อาจจะเห็นการฟื้นตัวของดัชนี (Pullback) ก็เป็นได้

Resistance : 1050 1055 1060 / 1600 1606 1611
Support : 1040 1035 1030 / 1590 1585 1580

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่