สารานุกรมปืนตอนที่ 182 ประวัติศาสตร์ของกล็อค

"ขอขอบคุณเพจ Military tactical weapons(อาวุธยุทธวิธีทางทหาร) อย่างสูงครับ

https://www.facebook.com/militarytacticalweapons/?hc_ref=ARRqCnGw1ZsjIEmIjK6c6WuRLeWkCizRra03Gzmg_JKP9xYX19Ya2p_D00ZoSsQ4NXU



Glock เป็นปืนพกมาตราฐานที่ผลิตขึ้นโดย บริษัท Glock ประเทศออสเตรีย
หากกล่าวปืน Glock โดยคร่าวๆ คงเป็นการบอกกล่าวถึงโครงสร้างของปืน โดยโครงสร้างของปืน Glockทำจากโพลิเมอร์
ส่วนที่เป็นลำเลื่อนและลำกล้องถึงจะทำด้วยเหล็กกล้า
ปืนGlock แต่ต่างจากปืนอื่นๆที่ไม่มี safe
และวัสดุที่ดูเหมือนพาสติก ความพิเศษของปืน Glock นั้น อยู่ตรงที่ ระบบการจุดชนวนที่เป็นแบบเข็มแทงขนวนชนิดพุ่งกระแทก ไม่ใช้นกสับ และที่สำคัญ เรื่องราคาที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้ซื้ออยู่มาก แต่ปัจจุบันหลักจากรัฐบาลได้มีนโยบายจำกัดการมีอาวุธปืน
ทำให้ราคาพุ่งขึ้นสูงเอาการอยู่ทีเดียวแต่เมื่อเทียบกับปืนแบบอื่นๆที่มีขายในท้องตลาด
ปืน Glock
ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี 1963
โดยผู้ที่ประดิษฐ์ปืน Glock คือวิศวกรที่ทำงานอยู่ใน Deutsch-Wagram ซึ่งไกล้กับ Vienna ชื่อนักวิศกรผู้นี้คือ Mr. Gaston Glock โรงงานที่เขาทำอยู่นั้นเป็นโรงงานที่เกี่ยวกับการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ที่ทำจากพาสติก และเหล็ก เขาได้เริ่มพัฒนาและประดิษฐ์ปืน Glock ของเขาอย่างจริงจัง ความหวังลึกๆ ของเขาคือ
"ปืนของเขานั้นเป็นปืนที่ดีที่สุด เพื่อเข้าไปช่วยงานในกองทัพได้"
และนอกจากปืนแล้วเขายังผลิต ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่สำคัญ
สำหรับการออกสนามรบ เช่น อุปกรณ์สนาม มีด และอาวุธต่างๆ
ความมุ่งมั่นของเขาที่ทำให้ปืน Glock ขึ้นตำแหน่งผู้นำของโลกในเรื่องคุณภาพของปืน


โดยเขายึดมั่น
มาตราฐานการผลิต 3ประการคือ
1.ความเชื่อมั่นของลูกค้าความสะดวกในการใช้งาน
2.การพกพา
3.การบำรุงรักษาที่ง่าย



แกสตั้น กล็อค (Gaston Glock) ชาวออสเตรียเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานบริษัท Glock เมื่อคืนวันที่ 26 กรกฎาคม 2542 กล็อกถูกทำร้ายที่เมืองลักซัมเบอร์กโดยคนร้ายตีหัวด้วยฆ้อนยาง หัวแตกถึงเจ็ดแผล เสียเลือดไปกว่าหนึ่งลิตร แกสตั้นยังมีแรงสามารถชกคนร้ายที่อายุน้อยกว่าเกือบ 20 ปี จนฟันหลุดออกจากปากอัดกำปั้นเข้าเบ้าตา ไม่มีแรงหลบหนี เช้าวันต่อมามีคนไปพบทั้งสองคนนอนทับกันอยู่ จึงได้แจ้งตำรวจและหน่วยพยาบาลเข้าช่วยเหลือ แกสตั้น ยังเป็นคนค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเอง มุทะลุ
และมีความเชื่อมั่นใจตัวเองสูงมาก มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อปี 2524 ก่อนกล็อค จะผลิตปืนตอนนั้น บริษัทยังเพียงแค่ทำเปลือกระเบิด พลั่ว และอุปกรณ์สนามพาสติกให้กับกองทัพออสเตรีย เป็นช่วงฤดูกองทัพออสเตรียเปลี่ยนปืนพกประจำการ แกสตั้นไปได้ยินผู้พันท่านหนึ่งรำพึงกับเพื่อนร่วมงานว่า ไม่มีผู้ผลิตรายใดยื่น เสนอปืนที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวตามต้องการของกองทัพได้ ได้ยินเช่นนั้นก็สวนกลับไปว่า ได้ซิบริษัทกล็อคนี่แหละทำได้ ผู้พันสองคนหันดู แกสตั้นแล้วหัวร่อใส่หน้า เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง เล่นดูถูกกันต่อหน้าเช่นนี้มีหรือคนอย่างแกสตั้น กล็อค จะยอม คุณคริสโตเฟอร์ เอ็ดเวิร์ดส (Christopher Edwards) อดีตมือปราบผู้ช่วยนายอำเภอเจพเฟอร์สัน เคาน์ตี้ มณรัฐเคนตั๊กกี้ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันฝึกสอนของกล็อค อิงค์ สหรัฐอเมริกา หนึ่งในผู้ไกล้ชิดกับลุงกล็อกกล่าวว่า ไม่มีใครหัวเราะเยาะแกสตั้น กล็อคได้ แล้วหลุดรอด พี่แกไม่เคยลืมและยากจะให้อภัยกล็อกมั่นใจว่าตนสามารถออกแบบและผลิตปืนที่มีคุณสมบัติจากกองทัพออสเตรียต้องการได้ดีกว่าคนอื่น ทั้งๆ เขาเองไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับปืนมาก่อน กล็อคบอกกับเพื่อนร่วมงานว่า ก็เพราะไม่มีความรู้นี่แหละ เป็นจุดเด่นทำให้ได้เปรียบเหนือผู้ผลิตรายอื่นๆ เพราะจะทำให้ความคิดของเขาเปรียบเหมือนผ้าขาว เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ไม่ผูกติดกับวิธีการ เครื่องจักร หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีเก่าๆ
เป็นระยะเวลาสองปีที่ แกสตั้น กล็อค ตั้งหน้าตั้งตาออกแบบปืนกระบอกแรกของบริษัทกล็อค ลูกน้องของกล็อคเล่าให้ฟังว่า เขาจะทดสอบปืนต้นแบบด้วยตนเองแต่จะยิงด้วยมือซ้าย เพราะเผื่อปืนระเบิดยังมีมือขวาไว้เขียนหนังสือ เขามุ่งมั่นกับโครงการนี้เกิดอาการหงุดหงิด งุ่นง่าน ถึงขนาด เฮวก้า (Helga) ภรรยายังไม่กล้าเข้าใกล้
เมื่อปี 2526 กล็อคส่งมอบปืนชุดแรกให้กับทางกองทัพออสเตรีย
หลังจากผ่านการทดสอบได้จากผ่านการทดสอบได้สั่งซื้อกล็อค 17 เป็นจำนวน 25,000 กระบอก
กล็อคเป็นนวัตกรรมที่แตกต่างจากปืนอื่นๆ มีชิ้นส่วนเพียง 34 ชิ้น
เปรียบเทียบกับปืนขนาด .45 เอซีพี ของสมิท แอนด์ เวสสัน ซึ่งมีส่วนประกอบถึง 60 ชิ้น โครงปืนผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ ไม่เพียงมีราคาต้นทุนต่ำกว่า แต่ยังทำให้ความรู้สึกแรงสะท้อนถอยหลังน้อยกว่าปืนโครงโลหะ คุณจอนห์ ฟาร์นั่ม (John Farnum)ผู้ก่อต้องสถาบันฝึกอบรมป้องกันตัว Defense Training International
ให้ข้อมูลว่า แกสตั้น กล็อค จะไม่รวยได้อย่างไร ก็เมื่อปืนมีต้นทุนประมาณ 75 เหรียญ สหรัฐฯ ขายในราคา 500 ดอลลาร์ นิตยสารธุรกิจอเมริกันชื่อ ฟอร์เบส (Forbes) ประมาณรายได้ของบริษัทกล็อคไว้ที่ 100 ล้านเหรียญ สองในสามของรายได้มาจากตลาดในสหรัฐอเมริกาทั้งส่วนพลเรือนและราชการ ซึ่งมีกว่า 4000 หน่วยงาน



เครดิต****
http://www.gun.in.th/board/index.php?topic=65880.0
http://www.bloggang.com/viewdiary.php
http://www.bloggang.com/viewdiary.php
นิตยสาร "รวมสุดยอดปืนพก"
นิตยสาร "Gun World Thailand June 2003"
และ Glock.com




สวัสดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่