ต่อจาก
CHAPTER 2 https://ppantip.com/topic/39455403 ที่ได้เล่าตำนานและเรื่องราวของ
M1911 ที่ถือได้ว่าเป็นปืนพกในตำนานหนึ่งกระบอก แต่ว่ายังมีปืนอีกหนึ่งกระบอกในยุคถัดมา ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานในยุคใหม่ และได้ทำการเปลี่ยนโลก และอุตสาหกรรมของปืนไปตลอดกาล
Plastic Gun?
ถ้าพูดถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิตปืน แน่นอนว่าจะต้องเป็นวัสดุที่ต้องมีความแข็งแรงและทานทานอย่าง “เหล็ก” แน่นอน แต่มีปืนพกอีกหนึ่งกระบอก ที่ไม่เชื่อในแนวคิดนี้อย่างสิ้นเชิง
“Glock” ปืนพกสัญชาติออสเตรียน ออกแบบโดย นาย Gaston Glock ผลิตในปี 1982 เป็นปืนพกกระบอกแรกๆของโลกที่ได้มีการใช้วัสดุโพลีเมอร์ซึ่งถือว่าเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งในการผลิตปืน และมาพร้อมกับระบบเข็มพุ่งแทนที่จะเป็นระบบนกสับ ถึงแม้ปืนพกกระบอกแรกที่ใช้ระบบเข็มพุ่ง โครงโพลีเมอร์จะเป็นปืนพก Heckler & Koch P7 จากเยอรมัน แต่ถ้าจะพูดถึงเจ้าพ่อของปืนในรูปแบบนี้ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด ไม่มีใครสามารถเทียบชั้น Glock ได้
หลายๆคนฟังแล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆ ว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆหรือกับการนำพลาสติกมาผลิตเป็นปืน ถึงกับเคยมีคนเคยกล่าวเลยว่า Glock นั้นเปรียบเสมือนปืนเด็กเล่น เนื่องจากผลิตมาจากพลาสติก และไม่มีความขลังความคลาสสิค เป็นตำนาน ถ้าเทียบกับปืนที่ทำจากโลหะ ทำให้ในช่วงแรกๆอาจทำให้ Glock ไม่เป็นที่นิยมนักในเมืองไทย เนื่องจากค่านิยมของปืนในตอนนั้น ผู้คนยังไม่เชื่อมั่นในคุณภาพปืนพลาสติก แต่พอมีคนได้รับรู้ถึงสิ่งที่ Glock พยายามจะนำเสนอออกมานั้น ทำให้หลายๆคนต้องเปลี่ยนความคิดนี้ไปตลอดกาล เพราะถึงแม้ว่า Glock จะผลิตจากพลาสติก แต่ก็ไม่ใช่พลาสติกเกรดของเด็กเล่นแต่อย่างใด หากจะเป็นพลาสติกโพลีเมอร์ ที่เรียกได้ว่า “ตีหัวคนแตก” มีความทนทานและความแข็งแรงไม่แพ้เหล็กเลยทีเดียว
ถึงแม้จะไม่ทนไฟ แต่ข้อดีของ Glock ที่หลายๆคนคิดไม่ถึง คือในส่วนของโครงปืนที่ไม่มีโอกาสถูกสนิมกินเพราะผลิตจากโพลีเมอร์ ทำให้ไม่ต้องการการดูแลรักษามากเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับปืนที่ทำจากเหล็ก ที่จะมีปัญหาสนิมตามมา และต้องชโลมน้ำมันบ่อยๆเพื่อป้องกันการเกิดสนิม อีกทั้ง Glock ยังได้เปรียบในเรื่องของน้ำหนักที่เบากว่า มีแรงรีคอยล์ หรือแรงดีดที่ต่ำกว่า และยังคงได้เปรียนในเรื่องของชิ้นส่วนและกลไกของตัวปืนที่มีความซับซ้อนน้อยมาก โดยมีชิ้นส่วน หลักๆ แค่ 4-5 ส่วน และชิ้นส่วนย่อยอีกประมาณ 30 ชิ้นเท่านั้นเอง เป็นจำนวนที่น้อยมากหากเทียบกับ M1911 ที่มีชิ้นส่วนมากกว่า 50 ชิ้น และ Glock นั้นไม่จำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆในการถอดประกอบเบื้องต้นเลย
All-rounder Combat Pistol
Glock ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของปืนต่อสู้อเนกประสงค์ในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง ด้วยความที่โครงโพลิเมอร์มีความทนทาน ทนสนิม น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ด้วยระบบ Safe Action ที่มีเซฟอยู่ตรงไก ทำให้ไม่ต้องมาเสียเวลาปลดเซฟเหมือนปืนกระบอกอื่นๆ แต่ก็มีความปลอดภัยสูงเพิ่มเติมจากระบบล็อกเข็มแทงชนวน (Firing pin safety) และระบบป้องกันการลั่นจากการตก (Drop safety)
ทำให้ Glock ถือเป็นปืนที่เหมาะกับการใช้งานสมบุกสมบันมากที่สุด เป็นที่นิยมของกองทัพหรือหน่วยงานตำรวจต่างๆทั่วโลก โดยหน่วย SAS ของอังกฤษ และหน่วยพิเศษที่ต้องทำภารกิจสะเทินน้ำสะเทินบก อย่าง Navy SEALs ของสหรัฐก็เลือกใช้ แม้กระทั่งเหล่าพลเรือนก็นิยมนำมาเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินด้วยเช่นกัน
(ทหารกองทัพสหราชอาณาจักรกับ Glock 17)
อีกทั้ง Glock ยังมีหลากหลายโมเดลให้เลือกใช้ ตามขนาดกระสุน และขนาดปืน ตามการใช้งานในแต่ละรูปแบบของแต่ละคน
โดยมีใน ขนาด 9mm Parabellum, .380 Auto, .357, .40, .45 ACP, .45 G.A.P. และ 10mm AUTO
เพราะเหตุนี้ Glock เป็นหนึ่งในปืนที่มีชื่อเสียงที่สุด และขายดีที่สุดในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา และถ้าหากจะถามถึงปืนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ ปืนกระบอกแรกที่จะต้องเข้ามาในหัวของใครหลายๆคน จะต้องเป็น Glock อย่างแน่นอน
The (R)evolution
หาก M1911 จะเป็นผู้สร้างตำนานของปืนออโตเมติก เราจะเรียก Glock ว่าเป็นผู้ปฏิวัติและผู้ที่ทำให้อุตสาหกรรมของอาวุธปืนพัฒนาไปอีกขั้นในเวลาเดียวกันก็ย่อมได้ ด้วยการใช้วัสดุโพลีเมอร์ในการผลิตปืน เป็นการสร้างตำนานบทใหม่ให้แก่วงการปืนพกทั่วโลก ซึ่งผู้ผลิตอาวุธปืนหลากหลายบริษัทก็ได้หันมาใช้วัสดุโพลิเมอร์ในการผลิตปืนเช่นเดียวกับ Glock จนทำให้เกิดสุดยอดอาวุธปืนในยุคปัจจุบันมากมายที่ผลิตจากโพลิเมอร์ เช่น WALTHER PPQ, Springfield XD และ SIG P320
Worldwide Guns
ปืนทุกกระบอกที่เรากล่าวถึงมาตลอดทั้ง 3 Chapter ไม่ว่าจะเป็นทั้ง M1911, S&W Chiefs special, Glock ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างเป็นปืนที่ได้รับการยอมรับ และมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก หรือแม้แต่ปืนกระบอกอื่นๆนอกเหนือจากนี้ ก็ถือว่าเป็นปืนที่ดีและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่น CZ 75, SIG P226/229, SIG P320, Beretta M9 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทยไม่แพ้ M1911 และ Glock เพราะปืนแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีในแบบของมัน
จะเห็นได้ว่า ทั้งในยุคของปืนลูกโม่ Single Action, ในยุคสงครามของ M1911 หรือแม้กระทั่งในสมัยของปืนยุคใหม่อย่าง Glock ในแต่ละยุคสมัยก็ต้องย่อมมีสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดในยุคของมัน และสร้างตำนานของตัวเองไว้
แม้แต่ปืนลูกโม่ Single Action ที่ถึงแม้จะตกยุคไปแล้ว แต่มันก็ถือว่าครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นปืนที่ดีที่สุดในยุคของมัน หรือ M1911 ที่จะผ่านมานับร้อยปี แต่ M1911 ก็ไม่ได้ด้อยกว่าปืนในยุคปัจจุบันแต่อย่างใด มันก็ยังคงเป็นหนึ่งในปืนที่ดีที่สุดตลอดกาล และเป็น M1911 ที่ไม่มีใครมาเทียบได้วันยังค่ำ
วิวัฒนาการของอุตสาหกรรมปืนพกจะมีการก้าวล้ำขึ้นในทุกๆปี แม้จะมีปืนพกกระบอกใหม่ที่ใหม่กว่าทันสมัยกว่าออกมาเรื่อยๆ แม้จะมีตำนานบทใหม่ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่อีกสักกี่ครั้ง แต่อย่างไร ”ตำนาน” ก็ยังคงเป็น ”ตำนาน” อยู่ดี และมันจะได้รับการกล่าวถึงตลอดไป เพราะฉะนั้นถ้าจะให้พูดว่าปืนกระบอกไหนจากยุคไหนดีที่สุด ก็คงจะหาคำตอบให้กับทุกคนไม่ได้ เพราะเชื่อว่าทุกคนก็มีคำตอบและมี ”ตำนาน” เป็นของตัวเองอยู่แล้ว
ตำนานเพชฌฆาตกระบอกสั้น CHAPTER 3 "GLOCK"
Plastic Gun?
ถ้าพูดถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิตปืน แน่นอนว่าจะต้องเป็นวัสดุที่ต้องมีความแข็งแรงและทานทานอย่าง “เหล็ก” แน่นอน แต่มีปืนพกอีกหนึ่งกระบอก ที่ไม่เชื่อในแนวคิดนี้อย่างสิ้นเชิง
“Glock” ปืนพกสัญชาติออสเตรียน ออกแบบโดย นาย Gaston Glock ผลิตในปี 1982 เป็นปืนพกกระบอกแรกๆของโลกที่ได้มีการใช้วัสดุโพลีเมอร์ซึ่งถือว่าเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งในการผลิตปืน และมาพร้อมกับระบบเข็มพุ่งแทนที่จะเป็นระบบนกสับ ถึงแม้ปืนพกกระบอกแรกที่ใช้ระบบเข็มพุ่ง โครงโพลีเมอร์จะเป็นปืนพก Heckler & Koch P7 จากเยอรมัน แต่ถ้าจะพูดถึงเจ้าพ่อของปืนในรูปแบบนี้ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด ไม่มีใครสามารถเทียบชั้น Glock ได้
หลายๆคนฟังแล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆ ว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆหรือกับการนำพลาสติกมาผลิตเป็นปืน ถึงกับเคยมีคนเคยกล่าวเลยว่า Glock นั้นเปรียบเสมือนปืนเด็กเล่น เนื่องจากผลิตมาจากพลาสติก และไม่มีความขลังความคลาสสิค เป็นตำนาน ถ้าเทียบกับปืนที่ทำจากโลหะ ทำให้ในช่วงแรกๆอาจทำให้ Glock ไม่เป็นที่นิยมนักในเมืองไทย เนื่องจากค่านิยมของปืนในตอนนั้น ผู้คนยังไม่เชื่อมั่นในคุณภาพปืนพลาสติก แต่พอมีคนได้รับรู้ถึงสิ่งที่ Glock พยายามจะนำเสนอออกมานั้น ทำให้หลายๆคนต้องเปลี่ยนความคิดนี้ไปตลอดกาล เพราะถึงแม้ว่า Glock จะผลิตจากพลาสติก แต่ก็ไม่ใช่พลาสติกเกรดของเด็กเล่นแต่อย่างใด หากจะเป็นพลาสติกโพลีเมอร์ ที่เรียกได้ว่า “ตีหัวคนแตก” มีความทนทานและความแข็งแรงไม่แพ้เหล็กเลยทีเดียว
ถึงแม้จะไม่ทนไฟ แต่ข้อดีของ Glock ที่หลายๆคนคิดไม่ถึง คือในส่วนของโครงปืนที่ไม่มีโอกาสถูกสนิมกินเพราะผลิตจากโพลีเมอร์ ทำให้ไม่ต้องการการดูแลรักษามากเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับปืนที่ทำจากเหล็ก ที่จะมีปัญหาสนิมตามมา และต้องชโลมน้ำมันบ่อยๆเพื่อป้องกันการเกิดสนิม อีกทั้ง Glock ยังได้เปรียบในเรื่องของน้ำหนักที่เบากว่า มีแรงรีคอยล์ หรือแรงดีดที่ต่ำกว่า และยังคงได้เปรียนในเรื่องของชิ้นส่วนและกลไกของตัวปืนที่มีความซับซ้อนน้อยมาก โดยมีชิ้นส่วน หลักๆ แค่ 4-5 ส่วน และชิ้นส่วนย่อยอีกประมาณ 30 ชิ้นเท่านั้นเอง เป็นจำนวนที่น้อยมากหากเทียบกับ M1911 ที่มีชิ้นส่วนมากกว่า 50 ชิ้น และ Glock นั้นไม่จำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆในการถอดประกอบเบื้องต้นเลย
All-rounder Combat Pistol
Glock ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของปืนต่อสู้อเนกประสงค์ในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง ด้วยความที่โครงโพลิเมอร์มีความทนทาน ทนสนิม น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ด้วยระบบ Safe Action ที่มีเซฟอยู่ตรงไก ทำให้ไม่ต้องมาเสียเวลาปลดเซฟเหมือนปืนกระบอกอื่นๆ แต่ก็มีความปลอดภัยสูงเพิ่มเติมจากระบบล็อกเข็มแทงชนวน (Firing pin safety) และระบบป้องกันการลั่นจากการตก (Drop safety)
ทำให้ Glock ถือเป็นปืนที่เหมาะกับการใช้งานสมบุกสมบันมากที่สุด เป็นที่นิยมของกองทัพหรือหน่วยงานตำรวจต่างๆทั่วโลก โดยหน่วย SAS ของอังกฤษ และหน่วยพิเศษที่ต้องทำภารกิจสะเทินน้ำสะเทินบก อย่าง Navy SEALs ของสหรัฐก็เลือกใช้ แม้กระทั่งเหล่าพลเรือนก็นิยมนำมาเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินด้วยเช่นกัน
(ทหารกองทัพสหราชอาณาจักรกับ Glock 17)
อีกทั้ง Glock ยังมีหลากหลายโมเดลให้เลือกใช้ ตามขนาดกระสุน และขนาดปืน ตามการใช้งานในแต่ละรูปแบบของแต่ละคน
โดยมีใน ขนาด 9mm Parabellum, .380 Auto, .357, .40, .45 ACP, .45 G.A.P. และ 10mm AUTO
เพราะเหตุนี้ Glock เป็นหนึ่งในปืนที่มีชื่อเสียงที่สุด และขายดีที่สุดในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา และถ้าหากจะถามถึงปืนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ ปืนกระบอกแรกที่จะต้องเข้ามาในหัวของใครหลายๆคน จะต้องเป็น Glock อย่างแน่นอน
The (R)evolution
หาก M1911 จะเป็นผู้สร้างตำนานของปืนออโตเมติก เราจะเรียก Glock ว่าเป็นผู้ปฏิวัติและผู้ที่ทำให้อุตสาหกรรมของอาวุธปืนพัฒนาไปอีกขั้นในเวลาเดียวกันก็ย่อมได้ ด้วยการใช้วัสดุโพลีเมอร์ในการผลิตปืน เป็นการสร้างตำนานบทใหม่ให้แก่วงการปืนพกทั่วโลก ซึ่งผู้ผลิตอาวุธปืนหลากหลายบริษัทก็ได้หันมาใช้วัสดุโพลิเมอร์ในการผลิตปืนเช่นเดียวกับ Glock จนทำให้เกิดสุดยอดอาวุธปืนในยุคปัจจุบันมากมายที่ผลิตจากโพลิเมอร์ เช่น WALTHER PPQ, Springfield XD และ SIG P320
Worldwide Guns
ปืนทุกกระบอกที่เรากล่าวถึงมาตลอดทั้ง 3 Chapter ไม่ว่าจะเป็นทั้ง M1911, S&W Chiefs special, Glock ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างเป็นปืนที่ได้รับการยอมรับ และมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก หรือแม้แต่ปืนกระบอกอื่นๆนอกเหนือจากนี้ ก็ถือว่าเป็นปืนที่ดีและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่น CZ 75, SIG P226/229, SIG P320, Beretta M9 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทยไม่แพ้ M1911 และ Glock เพราะปืนแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีในแบบของมัน
จะเห็นได้ว่า ทั้งในยุคของปืนลูกโม่ Single Action, ในยุคสงครามของ M1911 หรือแม้กระทั่งในสมัยของปืนยุคใหม่อย่าง Glock ในแต่ละยุคสมัยก็ต้องย่อมมีสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดในยุคของมัน และสร้างตำนานของตัวเองไว้
แม้แต่ปืนลูกโม่ Single Action ที่ถึงแม้จะตกยุคไปแล้ว แต่มันก็ถือว่าครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นปืนที่ดีที่สุดในยุคของมัน หรือ M1911 ที่จะผ่านมานับร้อยปี แต่ M1911 ก็ไม่ได้ด้อยกว่าปืนในยุคปัจจุบันแต่อย่างใด มันก็ยังคงเป็นหนึ่งในปืนที่ดีที่สุดตลอดกาล และเป็น M1911 ที่ไม่มีใครมาเทียบได้วันยังค่ำ
วิวัฒนาการของอุตสาหกรรมปืนพกจะมีการก้าวล้ำขึ้นในทุกๆปี แม้จะมีปืนพกกระบอกใหม่ที่ใหม่กว่าทันสมัยกว่าออกมาเรื่อยๆ แม้จะมีตำนานบทใหม่ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่อีกสักกี่ครั้ง แต่อย่างไร ”ตำนาน” ก็ยังคงเป็น ”ตำนาน” อยู่ดี และมันจะได้รับการกล่าวถึงตลอดไป เพราะฉะนั้นถ้าจะให้พูดว่าปืนกระบอกไหนจากยุคไหนดีที่สุด ก็คงจะหาคำตอบให้กับทุกคนไม่ได้ เพราะเชื่อว่าทุกคนก็มีคำตอบและมี ”ตำนาน” เป็นของตัวเองอยู่แล้ว