ย้อนอ่าน EP.6 : ท่องไปในความเวิ้งว้างที่ Death Valley
https://ppantip.com/topic/37666464
วันที่ 9-10 ของการเดินทาง
HOOVER DAM – GRAND CANYON – LAKE POWELL – LOWER ANTELOPE CANYON – HORSESHOE BEND– LAS VEGAS
แผนที่ของวันที่ 9-10 นะคะ
จากเมื่อวานอันแสนเหน็ดเหนื่อยของการไปเที่ยว Death Valley มา แถมหลับดึกเพราะว่าเมื่อคืนแอบลงไปเจิมตู้สล็อต เลยทำให้วันนี้เราตื่นสาย กว่าจะออกตัว และขับถึง Hoover Dam จุดหมายแรกของวัน ก็ 11 โมงกว่า
ซึ่งอันที่จริงแล้ว Hoover Dam นั้นใกล้กับ Las Vegas มาก ขับรถไปก็ใช้เวลาแค่ประมาณสี่สิบนาทีก็ถึงแล้วค่ะ
HOOVER DAM
Hoover Dam เป็นจุดที่เราใฝ่ฝันว่าอยากมาเห็นด้วยตาของตัวเอง เพื่อได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ในสิ่งที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมา ว่าต้องใช้ความรู้และความสามรถทางวิศวกรรมมากขนาดไหน ถึงได้สร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ Hoover Dam เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่สร้างกั้นแม่น้ำโคโลราโด วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันน้ำท่วมและใช้ในการผลิตไฟฟ้า การเข้าชม Hoover Dam นั้นเสียค่าเข้าประมาณ 30 เหรียญต่อรถหนึ่งคันค่ะ
ตัวเขื่อนสร้างกั้นแม่น้ำโคโรลาโด ตรงจุด Black Canyon
Mike O'Callaghan–Pat Tillman Memorial Bridge: ถ้าเราขับผ่านสะพาน จะเห็น Hoover Dam ในมุมกว้าง
เราสามารถซื้อทัวร์ด้านใน เพื่อชมประวัติของเขื่อน และในส่วนของการผลิตไฟฟ้าได้นะคะ
จาก Hoover Dam เราต้องใช้เวลาอีกกว่า 3 ชั่วโมงกว่า กว่าจะไปถึง Grand Canyon ยังไม่รวมเวลาที่เราแวะทานข้าวเที่ยง ถึงการขับรถบนเส้นทางหลวงเส้นนี้จะเป็นทางตรงก็จริง แต่รถก็ค่อนข้างเยอะ และแอบขับยากอยู่ค่ะ เพราะมีรถบรรทุก และขนาดของรถก็ใหญ่กว่าบ้านเรามาก จะแซงทีก็แอบเสียวเพราะรถเราคันเล็ก บางทีเหมือนเป็นลมดูด รถเราก็จะแอบเซๆนิดหน่อย ทำให้เราใช้เวลามากกว่าที่ Google map คำนวณให้เราไปเยอะเลยค่ะ เลยคิดว่าถ้าเราออกเช้าๆ หรือไปกับเพื่อนสี่คนเปลี่ยนคู่กันขับและช่วยกันดูทางก็คงจะมีเวลาเที่ยวได้มากขึ้น
GRAND CANYON
กว่าจะถึง Grand Canyon นั้นก็เกือบสี่โมงกว่า ซึ่งเราถือว่าวันนี้เราทำเวลาได้ไม่ค่อยดี เพราะมาถึงค่อนข้างเย็น และมีเวลาให้เดินเล่นหรือเยี่ยมชมน้อย เอาจริงๆ เราน่าจะมีเวลาในการเยี่ยมชมอุทยานที่นี่สักสองถึงสามชั่วโมง เพื่อชม Grand Canyon ในมุมที่ต่างไปในแต่ละจุดตามอุทยาน แต่ก็ยังดีที่ทางอุทยานแจกแผนที่ให้ และในแผนที่จะบอกว่าภายในเวลาที่คุณมี คุณควรจะแวะที่ไหนดี เช่น 1-2 ชั่วโมงควรแวะไฮไลท์ตรงไหนบ้าง 3-4 ชั่วโมงแวะจุดไหนได้บ้าง ซึ่งอย่างที่บอกเรามีเวลาน้อย ก็ได้แต่แวะที่ Grand Canyon Visitor Center ชมวิวในมุมทางทิศใต้(South Rim) เราเดินไปชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ของมัน ซึ่งต่อให้ถ่ายภาพออกมายังไง ก็คงไม่สวยและยิ่งใหญ่เท่ากับที่ตาเห็นค่ะ
นักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ
วิวอันยิ่งใหญ่ของ Canyon และตามร่องเขาข้างล่าง คือแม่น้ำโคโรลาโด
นักท่องเที่ยวก็สรรหามุมถ่ายรูปกันจริ๊งงง แอบเสียวแทนค่ะ
จากนั้นเราต้องรีบเดินทางต่อ เพราะตอนนั้นก็เกือบหกโมงแล้ว และเราต้องใช้เวลาเพื่อขับไปพักที่ Lake Powell ในเมือง Page อีกกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งการขับรถในตอนกลางคืนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลยค่ะ เพราะทางเปลี่ยวและมืดมาก ไม่มีไฟข้างทาง หรือแสงไฟจากที่ใดเลย เนื่องจากข้างทางล้วนแต่เป็นที่ราบและภูเขา บรรยากาศก็วังเวงบ้างค่ะ
เรารีบแวะซื้ออะไรนิดหน่อยเป็นอาหารเย็น พอมาถึงโรงแรม เราทานข้าวเสร็จก็เข้านอนเลยเพราะว่าเพลียมากค่ะ
LAKE POWELL
เมือง Page ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการพัก ก่อนที่จะไปชม Antelope Canyon ในวันถัดไป เพราะเป็นเมืองที่ห่างออกไปแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เราพักกันที่ Lake Powell Resort & Marinas คืนละประมาณ หกพันบาทไทย เสียดายไม่มีอาหารเช้าให้ เราก็เลยได้ทานอะไรง่ายๆที่ห้อง ก่อนจะเช็คเอ้าท์ออกมาชมวิวด้านนอก และทำให้ได้พบว่าเสียดายมากกกกที่เมื่อวานเรามาถึงที่นี่ดึกเกินไป เพราะ Lake Powell Resort & Marinas ที่เราพักนั้นอยู่ในโซนอุทยานเลย ซึ่งติดกับ Lake Powell ที่มีวิวสวยมาก และมีกิจกรรมล่องเรือชมวิวผ่านหุบเขา ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คงจะเผื่อเวลาในการอยู่ที่นี่อีกสักวัน ตอนที่จองก็กะว่าจะมาถึงช่วงสี่โมงเดินเล่นถ่ายรูปสักหน่อย แต่ผิดแผนเรื่องเวลาไปนิดค่ะ
ซึ่งถ้าหากจะแค่แวะมานอนพักแล้วล่ะก็ อาจจะดูที่พักในตัวเมือง Page ที่ราคาต่ำกว่านี้ก็ได้ค่ะ
วิวซึ่งสามารถเห็นจากระเบียงโรงแรมเลยค่ะ
ตัวรีสอร์ทขนานไปกับทะเลสาบ
สามารถซื้อทัวร์ล่องเรือตามทะเลสาบผ่านช่องหุบเขาได้นะคะ จุดนี้ก็ติดกับโรงแรมเลยค่ะ
LOWER ANTELOPE CANYON
เราไม่รอช้า รีบออกเดินทางเพื่อไปเที่ยวต่อกันค่ะ ขับไปไม่นานแค่ ยี่สิบกว่านาที ก็ถึงแล้วค่ะ ไฮไลท์ของเราในวันนี้ Antelope Canyon
เราจองทัวร์ Online ล่วงหน้าเพื่อเข้าชม Lower Antelope Canyon ไว้กับ Ken’s Tour เป็นทัวร์ของคนพื้นที่ชาว Navajo เนื่องจาก Canyon อันสวยงามนั้นเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ และเวลาที่ฝนตกนั้น น้ำก็จะท่วมและไหลไปตามร่องแคนยอน จนเกิดเป็นริ้วและรูปทรงที่แปลกตา ซึ่งถ้าฝนตกก็อาจจะทำให้น้ำท่วมและเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ ทำให้เราต้องมีไกด์ท้องถิ่นในการนำเที่ยวจุดนี้ค่ะ
เมื่อไปถึง รอไม่นานก็ถึงรอบของเราที่จองไว้ จะมีไกด์ประจำรอบ คอยดูแล อธิบายข้อควรระวังและพาเราลงไป ข้อดีของ Lower Antelope คือเดินเท้าไปได้เลย ส่วน Upper Antelope นั้นต้องนั่งรถของทัวร์ไปอีก ซึ่งเราใช้เวลาในการต่อแถวอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้ลงไปด้านล่าง
บรรยากาศระหว่างรอคิวลงไปชมนะคะ
ไกด์ก็คอยบอกว่าต้องใช้ความระมัดระวังในการลงนิดนึง พอลงไปด้านล่างก็จะรู้สึกว่าคนเยอะ เพราะบางทีเราเห็นแต่รูปถ่ายที่ไม่ติดคนนะคะ แต่ยังไงเราก็ตะลึงกับความสวยงามร่องหินและแสงแดดที่ส่องลอดผ่านลงมากระทบ ทำให้เกิดเป็นลายริ้วที่แปลกตา
จุด Lady in the wind
เราเดินไปเรื่อยๆตามไกด์ซึ่งก็จะคอยอธิบาย และแนะนำจุดต่างๆว่าจุดนี้ เหมือนรูปทรงอะไร ชื่ออะไร แถมยังช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย เป็นประสบการณ์ที่สนุกและคุ้มค่ากับการได้มาเห็นกับตาจริงๆค่ะ เราใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง
* เราอยากแนะนำว่าควรจองรอบออนไลน์มาก่อนนะคะ ไม่ควร walk in เนื่องจาก
1. เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะได้ดูตามเวลาที่เราวางแผนไว้
2. จะได้จองเวลาแสงสวยๆค่ะ เวลาที่แสงสวยที่สุดในการเข้าชมและถ่ายรูปคือเวลาประมาณเที่ยง
3. อากาศในตอนเช้ายังไม่ค่อยร้อน
4. รอบเช้าจะฝุ่นน้อยกว่ารอบบ่ายๆ เพราะถ้าฝุ่นฟุ้งขึ้นมาเยอะ จะถ่ายรูปไม่สวยและหายใจไม่ค่อยออก
5. คนรอบเช้าจะน้อยกว่ารอบบ่าย เพราะอาจจะมีกรุ๊ปทัวร์จากเมืองใกล้ๆมาลงในช่วงบ่าย
*แนะนำอีกคือ ควรเตรียมน้ำ และผ้าปิดจมูกสำหรับคนแพ้ฝุ่นนะคะ
จบทัวร์ก็โผล่กันขึ้นมาจากช่องนี้ค่ะ
พอทัวร์เสร็จก็เที่ยงพอดีค่ะ แถวนั้นไม่มีร้านอาหารนะคะ ต้องขับกลับเข้าไปในเมือง Page เพราะฉะนั้นเรื่องอาหารนั้นเตรียมไว้ก็ดีค่ะ เพราะว่าเราก็กินแต่ขนมปัง จากนั้นไปต่อกันที่ Horseshoe Bend เลยค่ะ ซึ่งห่างออกไปอีกไม่ไกลนัก ขับรถประมาณ 20 นาที
HORSESHOE BEND
เป็นจุดที่ แม่น้ำโคโรลาโด ไหลโค้งคดเคี้ยว ทำองศาเหมือนดังรูปเกือกม้า ทำให้นักท่องเที่ยวมาแวะถ่ายรูปกันจำนวนมาก ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกสิบกว่านาที อากาศร้อนมากค่ะแดดแรง
ทางเดินไปค่ะ ร้อนมาก
นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันใหญ่ บางจุดก็เสียว เพราะมันไม่มีรั้วหรืออะไรกั้นเลยค่ะ เหมือนว่ามีคนเคยตกด้วยนะคะ
ตรงจุดนี้ถือว่าก็ควรแวะ เพราะใช้เวลาไม่นาน คุ้มกับการได้มาชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างบวกกับจินตนาการของมนุษย์ว่าเหมือนรูปทรงอะไรยังไง แต่การท่องเที่ยวนั้นก็ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะส่วนมากในอเมริกาจะอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ จะไม่ค่อยเห็นราวกั้นอะไรสักเท่าไหร่ค่ะ
[CR] ขับรถเที่ยวตะลุยอเมริกา USA West Coast Road Trip 14 วัน 3,500 km : [EP.7] วิวสุดตรึงตาที่ Grand Canyon, Antelope Canyon
ย้อนอ่าน EP.6 : ท่องไปในความเวิ้งว้างที่ Death Valley https://ppantip.com/topic/37666464
HOOVER DAM – GRAND CANYON – LAKE POWELL – LOWER ANTELOPE CANYON – HORSESHOE BEND– LAS VEGAS
จากเมื่อวานอันแสนเหน็ดเหนื่อยของการไปเที่ยว Death Valley มา แถมหลับดึกเพราะว่าเมื่อคืนแอบลงไปเจิมตู้สล็อต เลยทำให้วันนี้เราตื่นสาย กว่าจะออกตัว และขับถึง Hoover Dam จุดหมายแรกของวัน ก็ 11 โมงกว่า
ซึ่งอันที่จริงแล้ว Hoover Dam นั้นใกล้กับ Las Vegas มาก ขับรถไปก็ใช้เวลาแค่ประมาณสี่สิบนาทีก็ถึงแล้วค่ะ
Hoover Dam เป็นจุดที่เราใฝ่ฝันว่าอยากมาเห็นด้วยตาของตัวเอง เพื่อได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ในสิ่งที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมา ว่าต้องใช้ความรู้และความสามรถทางวิศวกรรมมากขนาดไหน ถึงได้สร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ Hoover Dam เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่สร้างกั้นแม่น้ำโคโลราโด วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันน้ำท่วมและใช้ในการผลิตไฟฟ้า การเข้าชม Hoover Dam นั้นเสียค่าเข้าประมาณ 30 เหรียญต่อรถหนึ่งคันค่ะ
จาก Hoover Dam เราต้องใช้เวลาอีกกว่า 3 ชั่วโมงกว่า กว่าจะไปถึง Grand Canyon ยังไม่รวมเวลาที่เราแวะทานข้าวเที่ยง ถึงการขับรถบนเส้นทางหลวงเส้นนี้จะเป็นทางตรงก็จริง แต่รถก็ค่อนข้างเยอะ และแอบขับยากอยู่ค่ะ เพราะมีรถบรรทุก และขนาดของรถก็ใหญ่กว่าบ้านเรามาก จะแซงทีก็แอบเสียวเพราะรถเราคันเล็ก บางทีเหมือนเป็นลมดูด รถเราก็จะแอบเซๆนิดหน่อย ทำให้เราใช้เวลามากกว่าที่ Google map คำนวณให้เราไปเยอะเลยค่ะ เลยคิดว่าถ้าเราออกเช้าๆ หรือไปกับเพื่อนสี่คนเปลี่ยนคู่กันขับและช่วยกันดูทางก็คงจะมีเวลาเที่ยวได้มากขึ้น
กว่าจะถึง Grand Canyon นั้นก็เกือบสี่โมงกว่า ซึ่งเราถือว่าวันนี้เราทำเวลาได้ไม่ค่อยดี เพราะมาถึงค่อนข้างเย็น และมีเวลาให้เดินเล่นหรือเยี่ยมชมน้อย เอาจริงๆ เราน่าจะมีเวลาในการเยี่ยมชมอุทยานที่นี่สักสองถึงสามชั่วโมง เพื่อชม Grand Canyon ในมุมที่ต่างไปในแต่ละจุดตามอุทยาน แต่ก็ยังดีที่ทางอุทยานแจกแผนที่ให้ และในแผนที่จะบอกว่าภายในเวลาที่คุณมี คุณควรจะแวะที่ไหนดี เช่น 1-2 ชั่วโมงควรแวะไฮไลท์ตรงไหนบ้าง 3-4 ชั่วโมงแวะจุดไหนได้บ้าง ซึ่งอย่างที่บอกเรามีเวลาน้อย ก็ได้แต่แวะที่ Grand Canyon Visitor Center ชมวิวในมุมทางทิศใต้(South Rim) เราเดินไปชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ของมัน ซึ่งต่อให้ถ่ายภาพออกมายังไง ก็คงไม่สวยและยิ่งใหญ่เท่ากับที่ตาเห็นค่ะ
จากนั้นเราต้องรีบเดินทางต่อ เพราะตอนนั้นก็เกือบหกโมงแล้ว และเราต้องใช้เวลาเพื่อขับไปพักที่ Lake Powell ในเมือง Page อีกกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งการขับรถในตอนกลางคืนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลยค่ะ เพราะทางเปลี่ยวและมืดมาก ไม่มีไฟข้างทาง หรือแสงไฟจากที่ใดเลย เนื่องจากข้างทางล้วนแต่เป็นที่ราบและภูเขา บรรยากาศก็วังเวงบ้างค่ะ
เรารีบแวะซื้ออะไรนิดหน่อยเป็นอาหารเย็น พอมาถึงโรงแรม เราทานข้าวเสร็จก็เข้านอนเลยเพราะว่าเพลียมากค่ะ
เมือง Page ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการพัก ก่อนที่จะไปชม Antelope Canyon ในวันถัดไป เพราะเป็นเมืองที่ห่างออกไปแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เราพักกันที่ Lake Powell Resort & Marinas คืนละประมาณ หกพันบาทไทย เสียดายไม่มีอาหารเช้าให้ เราก็เลยได้ทานอะไรง่ายๆที่ห้อง ก่อนจะเช็คเอ้าท์ออกมาชมวิวด้านนอก และทำให้ได้พบว่าเสียดายมากกกกที่เมื่อวานเรามาถึงที่นี่ดึกเกินไป เพราะ Lake Powell Resort & Marinas ที่เราพักนั้นอยู่ในโซนอุทยานเลย ซึ่งติดกับ Lake Powell ที่มีวิวสวยมาก และมีกิจกรรมล่องเรือชมวิวผ่านหุบเขา ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คงจะเผื่อเวลาในการอยู่ที่นี่อีกสักวัน ตอนที่จองก็กะว่าจะมาถึงช่วงสี่โมงเดินเล่นถ่ายรูปสักหน่อย แต่ผิดแผนเรื่องเวลาไปนิดค่ะ
ซึ่งถ้าหากจะแค่แวะมานอนพักแล้วล่ะก็ อาจจะดูที่พักในตัวเมือง Page ที่ราคาต่ำกว่านี้ก็ได้ค่ะ
เราไม่รอช้า รีบออกเดินทางเพื่อไปเที่ยวต่อกันค่ะ ขับไปไม่นานแค่ ยี่สิบกว่านาที ก็ถึงแล้วค่ะ ไฮไลท์ของเราในวันนี้ Antelope Canyon
เราจองทัวร์ Online ล่วงหน้าเพื่อเข้าชม Lower Antelope Canyon ไว้กับ Ken’s Tour เป็นทัวร์ของคนพื้นที่ชาว Navajo เนื่องจาก Canyon อันสวยงามนั้นเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ และเวลาที่ฝนตกนั้น น้ำก็จะท่วมและไหลไปตามร่องแคนยอน จนเกิดเป็นริ้วและรูปทรงที่แปลกตา ซึ่งถ้าฝนตกก็อาจจะทำให้น้ำท่วมและเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ ทำให้เราต้องมีไกด์ท้องถิ่นในการนำเที่ยวจุดนี้ค่ะ
เมื่อไปถึง รอไม่นานก็ถึงรอบของเราที่จองไว้ จะมีไกด์ประจำรอบ คอยดูแล อธิบายข้อควรระวังและพาเราลงไป ข้อดีของ Lower Antelope คือเดินเท้าไปได้เลย ส่วน Upper Antelope นั้นต้องนั่งรถของทัวร์ไปอีก ซึ่งเราใช้เวลาในการต่อแถวอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้ลงไปด้านล่าง
ไกด์ก็คอยบอกว่าต้องใช้ความระมัดระวังในการลงนิดนึง พอลงไปด้านล่างก็จะรู้สึกว่าคนเยอะ เพราะบางทีเราเห็นแต่รูปถ่ายที่ไม่ติดคนนะคะ แต่ยังไงเราก็ตะลึงกับความสวยงามร่องหินและแสงแดดที่ส่องลอดผ่านลงมากระทบ ทำให้เกิดเป็นลายริ้วที่แปลกตา
เราเดินไปเรื่อยๆตามไกด์ซึ่งก็จะคอยอธิบาย และแนะนำจุดต่างๆว่าจุดนี้ เหมือนรูปทรงอะไร ชื่ออะไร แถมยังช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย เป็นประสบการณ์ที่สนุกและคุ้มค่ากับการได้มาเห็นกับตาจริงๆค่ะ เราใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง
* เราอยากแนะนำว่าควรจองรอบออนไลน์มาก่อนนะคะ ไม่ควร walk in เนื่องจาก
1. เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะได้ดูตามเวลาที่เราวางแผนไว้
2. จะได้จองเวลาแสงสวยๆค่ะ เวลาที่แสงสวยที่สุดในการเข้าชมและถ่ายรูปคือเวลาประมาณเที่ยง
3. อากาศในตอนเช้ายังไม่ค่อยร้อน
4. รอบเช้าจะฝุ่นน้อยกว่ารอบบ่ายๆ เพราะถ้าฝุ่นฟุ้งขึ้นมาเยอะ จะถ่ายรูปไม่สวยและหายใจไม่ค่อยออก
5. คนรอบเช้าจะน้อยกว่ารอบบ่าย เพราะอาจจะมีกรุ๊ปทัวร์จากเมืองใกล้ๆมาลงในช่วงบ่าย
*แนะนำอีกคือ ควรเตรียมน้ำ และผ้าปิดจมูกสำหรับคนแพ้ฝุ่นนะคะ
พอทัวร์เสร็จก็เที่ยงพอดีค่ะ แถวนั้นไม่มีร้านอาหารนะคะ ต้องขับกลับเข้าไปในเมือง Page เพราะฉะนั้นเรื่องอาหารนั้นเตรียมไว้ก็ดีค่ะ เพราะว่าเราก็กินแต่ขนมปัง จากนั้นไปต่อกันที่ Horseshoe Bend เลยค่ะ ซึ่งห่างออกไปอีกไม่ไกลนัก ขับรถประมาณ 20 นาที
เป็นจุดที่ แม่น้ำโคโรลาโด ไหลโค้งคดเคี้ยว ทำองศาเหมือนดังรูปเกือกม้า ทำให้นักท่องเที่ยวมาแวะถ่ายรูปกันจำนวนมาก ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกสิบกว่านาที อากาศร้อนมากค่ะแดดแรง
ตรงจุดนี้ถือว่าก็ควรแวะ เพราะใช้เวลาไม่นาน คุ้มกับการได้มาชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างบวกกับจินตนาการของมนุษย์ว่าเหมือนรูปทรงอะไรยังไง แต่การท่องเที่ยวนั้นก็ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะส่วนมากในอเมริกาจะอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ จะไม่ค่อยเห็นราวกั้นอะไรสักเท่าไหร่ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้