#ทุกคนต่างมีบาดแผลเป็นของตัวเอง

เที่ยงวัน ชายหนุ่มหน้าตาดี แต่มักจะดูเศร้าอยู่เสมอ ดูเหมือนในใจครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็ดูระแวง เที่ยงวันรู้ดีว่าเขามักคิดอะไรในแง่ลบ คงเพราะเรื่องราวที่เขาผ่านมาในอดีต

เมื่อคนอื่นถามว่า เพราะอะไรเขาจึงดูเศร้า เที่ยงวันก็ตอบไปว่า "ทุกคนก็มีเรื่องราวของตัวเองทั้งนั้นแหละ"

เรื่องราวที่เป็นบาดแผลร้าวลึกในชีวิต ถึงแผลจะหายดีแล้ว แต่ร่องรอยก็ยังคงเหลือไว้ให้จดจำได้ไม่ลืม เหมือนเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนจนไม่เคยนอนหลับได้สนิทสักวัน

.

เที่ยงวันเคยติดยา ในอดีตยาเสพติดทำให้เขาไม่เป็นผู้เป็นคน ขาดสติในการกระทำ จนกระทั่งเกือบทำให้ชีวิตคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องต้องสูญเสีย แต่เขาอาจจะโชคดีกว่าหลายๆคนที่ติดยา เพราะในที่สุดเที่ยงวันก็เลิกยาเสพติดได้เด็ดขาด(หลังจากที่ใช้เวลาอยู่เป็นสิบปี)

ความโชคดีของเที่ยงวันก็คือพ่อแม่ของเขาที่พยายามช่วยเหลือทุกทาง ปรับตัวเข้าหาลูก แม่จากเดิมที่เป็นคนเจ้าอารมณ์และไม่มีเหตุผล แต่ก็พยายามทำความเข้าใจและให้กำลังใจลูกชายในกระบวนการเลิกยาเสพติด

เหมือนที่เที่ยงวันเคยพูดอยู่ประโยคหนึ่งว่า

"การเลิกยาไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่ยากที่สุดคือการได้รับการยอมรับจากสังคม ครอบครัวเท่านั้นที่ช่วยให้เราผ่านไปได้ และสำคัญที่สุดก็คือใจเราเอง"

การเผชิญกับเสียงของคนรอบข้างในสังคม บางคนที่ดูถูกเหยียดหยามและไม่ให้โอกาสคนที่เลิกยา ส่งผลให้เกิดความเครียดที่กระตุ้นให้ต้องกลับไปเสพยาใหม่อยู่บ่อยๆ

พ่อแม่ของเที่ยงวันก็ทำให้พวกเราเข้าใจได้ว่า แม้ว่าเสียงของคนรอบข้างจะเป็นอย่างไร สิ่งที่สำคัญกว่าเสียงของใครๆ คือ เสียงที่แสดงความเข้าใจจากคนใกล้ชิด และสำคัญที่สุดคือ เสียงที่แสดงถึงความยืนหยัดไม่หวั่นไหวจากหัวใจตัวเอง

มนุษย์ทุกคนล้วนมีบาดแผล มีความเจ็บปวด ถ้าไม่ยอมรับและเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น ก็จะไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ อย่างไรก็ตามมันก็อาจจะง่ายขึ้น ถ้าคนคนนั้นมีกำลังใจจากคนใกล้ชิดที่รักและเชื่อมั่นในตัวเขา

.

เรื่องของเที่ยงวันมาจากละครเรื่อง 'ข้ามสีทันดร' ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ค่ะ

#หมอมินบานเย็น
#ข้ามสีทันดร