จริงๆแล้วถ้าอายุไม่ถึง 30 ถ้าเรากินแต่อาหารที่มีคุณค่า อาหาร 5 หมู่ที่เรียนสมัยประถม ไม่ใช่อาหารอุตสาหกรรม น้ำหวาน ขนมขบเคี้ยว ของที่ไม่มีน้ำตาล ไขมันทรานส์ มันยากมากที่จะอ้วนนะครับ คนเราอ้วนเพราะพฤติกรรมการกิน และอาหารปัจจุบันที่ไม่เหมาะสมเท่านั้นเอง แค่ปรับอาหารให้เหมาะสม ถึงไม่ออกกำลังกายกาย "ไขมัน" ก็ลดลงได้ ยิ่งถ้าอ้วนไขมันเกิน 20-30 กิโลยิ่งลดลงเร็วมาก ไม่ต้องตกใจ คนเราสามารถลดไขมันได้เดือนละ 4 กิโลทีเดียว คนอ้วน คนตัวใหญ่อาจลดได้มากกว่านั้นอีก

แต่อาหารที่คุณกินใน คห. ที่ 1 แคลลอรี่ น้อยเกินไป แถมสารอาหารน้อย กินแบบนี้มีผลเสียมากกว่าผลดี
- กินแคลลอรี่(พลังงาน) น้อยเกินไป ร่างกายจะปรับลดระบบเผาผลาญลง นอกจากเรียวแรง ภูมิคุ้มกัน สุขภาพ กล้ามเนื้อจะน้อยลงแล้ว สุดท้ายน้ำหนักก็จะไม่ลดลงอีก
* น้ำเต้าหู้ อย่ากินเลย แป้ง นมผง น้ำตาล ไม่ค่อยมีประโยชน์ ซื้อผงถั่วเหลือง 100% มาชงกินแทน
* สัปปะรด น้ำตาลสูงมาก
* สลัดระวังนะ น้ำสลัดน้ำตาล ทรานส์แฟตสูง เหมือนนมข้นหวานเลย
* คุณกินคาร์โบไฮเดรตน้อยไป กินข้าว ข้าวกล้องได้มื้อเช้า กลางวัน มื้อละถ้วย ระหว่างวันกินถั่วต้ม ข้าวโพดต้มได้อีก งดข้าวแค่มื้อเย็นพอ แต่อย่าอดเปลี่ยนเป็นผักผลไม้ ห้ามอดคาร์โบไฮเดรตเด็ดขาด การขาดคาร์บทำให้ร่างกายเข้าภาวะอดอยากเร็ว แล้วน้ำหนักจะไม่ลด ไม่มีแรงออกกำลัง สุขภาพโทรมด้วย ตอนนี้คุณไม่หิวเพราะร่างกายเริ่มปรับเข้าภาวะอดอยาก ร่างกายใช้พลังงานน้อยลง แต่พอถึงจุดหนึ่งคุณจะกินแบบหยุดตัวเองไม่ได้เลย การลดน้ำหนักที่ดีคือวางแผนทำได้ตลอดชีวิต ไม่ใช่อดมากๆในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

- การอดอาหารเป็นช่วงเวลานานๆ(intermittent fasting) การงดคาร์บ(keto, atkins diet) จริงๆแล้วในระยะยาวไม่ดีทั้งสิ้น แพทย์เตือนเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว แต่เทรนด์นี้มักจะวนๆกลับมาเพราะมันทำให้น้ำหนักลดลงเร็วมากในช่วงแรก และดูหวือหวา ข้อมูลเยอะ น่าสนใจกว่าการไดเอ็ทธรรมดา แต่น้ำหนักที่ลดไปมักเป็นน้ำ กับกล้ามเนื้อ แต่ในระยะยาวลดไขมันไปได้น้อยกว่า และทำให้เสี่ยงเกิดเบาหวาน และโรคหัวใจได้ง่ายขึ้น

ไดเอ็ทหักโหมหรือเปล่า ให้ดูว่า คุณมีอาการหิว หน้ามืดตาลาย ปวดหัว มึนหัว ไม่มีแรงหรือเปล่า ถ้ารู้สึกถึงขั้นเฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไร นั่นล่ะ starve mode หรือภาวะอดอยาก

พยายามกินของมีกากใย คาร์บที่มีกากใย ข้าวกล้อง ข้าวโพด มันต้ม พืชผัก ผลไม้ ของพวกนี้แคลน้อย ปริมาณเยอะ สารอาหารเยอะ ยิ่งกินเยอะๆ อึมาก อึง่าย(แต่ไม่เหลว)ยิ่งดี เพราะของเสียจะถูกกำจัดออกจากร่างกายเร็ว เหมือนเครื่องยนต์ทำงานดีจะได้พลังออกมามากขึ้น ใช้พลังงานมากขึ้นก็คือเผาไขมันมากขึ้น แต่อย่าไปหวังว่าอึมากๆแล้วน้ำหนักจะลด

* เพราะไขมันที่ถูกใช้และขจัดออกจากร่างกายส่วนใหญ่ทาง "ลมหายใจไม่ใช่ทางอึ" โดยถูกใช้เป็นพลังงานให้กับกล้ามเนื้อ และมีของเสียเป็น น้ำกับคาร์บอนไดอ๊อกไซด์

เพราะไขมันมันถูกกำจัดออกยากแบบนี้แหละ การอดอาหารถึงไม่ดี เพราะมันลดการเผาผลาญ มันก็ลดปริมาณการเผาไขมันลง ส่วนการกินของหวาน ทรานส์แฟต มันเพิ่มการเก็บไขมันได้มากมายมหาศาล

และยิ่งอ้วน ระบบต่างๆของร่างกายก็ยิ่งแย่ลง เป็นโรคที่คนปกติไม่เป็น อย่างนิ่วในไต โรคตับ โรคไต กระดูกพรุน โรค NCDs ทั้งหลาย (แต่มักไปโทษกรรมพันธ์ กินโซเดียมเยอะ ไม่กินนม ถึงเป็น แต่จริงๆสาเหตุส่วนใหญ่แล้วเพราะคุณอ้วน หรือมีไขมันช่องท้องเกาะตามอวัยวะภายในจากของที่คุณซื้อกินใน Super Market นี่แหละ)

โปรตีนไม่จำเป็นต้องกินมากกว่าคาร์บ จริงๆแล้วมนุษย์ทั่วๆไปควรกินโปรตีนในสัดส่วนแค่ 10% ในอาหารเท่านั้นเอง แต่ถ้าลดน้ำหนัก หรืออยากเพิ่มกล้ามเนื้อก็เพิ่มขึ้นเป็นซัก 30% ไม่ควรมากกว่านั้น และเลือกกินโปรตีนที่มีไขมันน้อยๆ หรือโปรตีนจากพืชจะดีกว่า

การออกกำลังกายที่ดีกับสุขภาพ คือการออกที่มีความเข้มข้นแต่ไม่หนักจนเกินไป หนักเกินมักจะหมายถึงนานเกินไปอย่างวิ่งมาราธอน หรือปั่นจักรยานไกลๆ การคาร์ดิโอแบบ HIIT หรือการยกเวทนั่นแหละครับเรียกว่าเข้มข้น แต่ไม่หนัก แต่คนมักจะเข้าใจว่าการยกเวทมันหนักเพราะยกทีหน้าตาบูดเบี้ยว

แต่ถ้าอ้วนก็ควรออกหนักๆแบบมาราธอนบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อลดไขมันลงไปให้เร็วขึ้น แต่ก็ระวังข้อเข่า อาการบาดเจ็บด้วยนะ

ที่เขาไม่ให้ออกหนัก หรือออกนานเพราะจะสร้างโฮโมนเครียด ซึ่งมีผลเสียระยะยาวกับสุขภาพและอายุขัยของเซลล์

การเลือกซื้อ เลือกกินของสมัยนี้ยากจริงๆ จขกท. เป็นเด็กหอยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่ขอให้อดทนค่อยๆปรับเพราะการมีสุขภาพดี ชีวิตยืนยาว มีความสุข เป็นเรื่องคุ้มค่าและควรลงทุนจริงๆ