รีวิวการเรียน ราชภัฏ vs ม.ดัง เหตุผลที่ต้องซิ่วไป ม.ดัง

วันนี้เราจะมารีวิวเรื่องมหาวิทยาลัยให้ดูค่ะ เพราะจขกท.มีโอกาสได้เรียนทั้ง 2 มหาวิทยาลัย และเหตุผลที่ต้องซิ่วไปม.ดัง
เกริ่นเลยเราเป็นคนที่อยากเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากๆเพราะเหตุผลหลายๆอย่างที่เคยอ่านกระทู้พันทิป,ชื่อเสียงมหาวิทยาลัย วันนี้เราเลยออกมาพูดความจริงเกี่ยวกับการเรียนที่ ราชภัฏ vs ม.ดัง เราจะแยกเป็นประเด็นต่างๆที่เราได้เจอมา (ขอไม่เอ่ยนามชื่อมหาวิทยาลัยนะคะ)
1.การเรียน
การเรียนที่ราชภัฏเรารู้สึกว่าคะแนนทุกๆอย่างมันได้มาง่ายมาก การให้การบ้านเพื่อเก็บคะแนนต่างๆมันให้มาได้ง่ายมาก ข้อสอบที่ออกสอบง่าย และมีแพทเทินเดียวกันไปหมดทุกๆรุ่น การลอกการบ้านเป็นสิ่งที่ไม่ผิด เกรดเราตอนนั้นที่ได้เรียนที่ราชภัฏน่าจะ 3.65 นะถ้าจำไม่ผิดคือเยอะมากๆ ตัดภาพการเรียนที่ม.ดังของเราตอนนี้ การเก็บคะแนน การบ้าน ทุกๆอย่างมันยากมาก ชิ้นงานโดยปกติที่เราเคยเรียนราชภัฏอ.ให้ชิ้นละ 10 คะแนน พอมาม.ดัง การให้คะแนนชิ้นงานหรือการบ้านโหดมาก ชิ้นละ 5 คะแนน ผิดตรงไหนนิดหน่อยหักออก เกรดเราที่ ม.ดังได้แค่ 2.75
2.สภาพแวดล้อมการเรียน และสวัสดิการนักศึกษา
อันนี้เรายกให้ม.ดังเลย ม.ดังสภาพแวดล้อมเหมาะกับการเรียนมาก อุปกรณ์ครบครัน สวัสดิการนักศึกษาในมหาวิทยาลัยดีมาก ชอบตรงมีห้องแอร์เกือบทุกห้อง แต่ตึกเรียนมีความห่างกันไปหน่อยทำให้คนที่ไม่มีรถส่วนตัวอาจจะลำบาก ส่วนราชภัฏอันนี้เราให้ความรวดเร็วในการเรียนเพราะตึกเรียนใกล้กันมาก เดินไปสะดวกๆ
3.ค่าเทอม
ม.ดัง 10,000 บาท/เทอม (เสื้อเฟรชชี่,เสื้อกีฬาฟรี)
ราชภัฏ 12,000/เทอม (+ยังไม่รวมค่าเสื้อเฟรชชี่ กางเกงเฟรชชี่ เข็มตราราชภัฏเสื้อคณะจิปาถะ) ตอนจ่ายแรกเข้ารวมเกือบๆ 15,000
4.อาจารย์ผู้สอน
อันนี้เรามองภาพรวมว่าดีทั้งม.ดังและราชภัฏ แต่ราชภัฏจะมีอาจารย์บางท่านที่สอนไม่รู้เรื่องนิดหน่อย พอรับได้
5.การรับน้อง
อันนี้เป็นประเด็นที่เราจะพูดส่วนใหญ่เลย การรับน้องม.ดัง เน้นสร้างสรรค์ เต้นสนุกสนาน การว้ากมีบ้างพอเป็นสีสันต์ ส่วนราชภัฏ การรับน้องที่ราชภัฏเราว่าดูล้าหลังและไม่ค่อยดีเลย สิ่งที่เราไม่ชอบที่สุดคือการให้รุ่นน้องล่าลายเซนต์รุ่นพี่ โดยก่อนที่รุ่นพี่จะให้ลายเซนต์จะสั่งให้รุ่นน้องทำสิ่งเหล่านี้ เช่น ไปเด้าเสาอาคาร,ตะโกนบอกรักคนที่เดินผ่านหน้าเรา,ไปคุยกับถังขยะ อันนี้คือสิ่งที่เคยเจอมา และสิ่งหนึ่งที่ให้รุ่นน้องทำคือการแนะนำตัวผ่านเฟสบุ๊ค แนะนำตัวธรรมดาเราไม่ว่าหรอก แต่การให้รุ่นน้องแต่งตัวบ้าๆ,แต่งหน้าตลกๆ,ทำตัวบ้าๆน่าอายๆ พร้อมอัดคลิปสวัสดีและขอเข้ารหัส เรามองว่ามันเป็นสิ่งที่ล้าหลังมาก ราชภัฏรับน้องการว้ากของรุ่นพี่คือสิ่งที่เราเกลียดที่สุดเลย
6.เหตุผลที่ซิ่วเข้าสอบม.ดัง
เรามองว่าการสอบเข้าราชภัฏมันง่ายจริงๆนะคะ เพื่อนบางคนคือตอนที่เรียนอยู่ราชภัฏคือไม่เก่งในสาขาที่เรียนเลยยังสอบติดและเข้ามาเรียนอย่างคนที่ไม่รู้เรื่อง เกรดก็ได้ง่าย ส่วนม.ดัง เรารู้เลยว่าทำไมคนถึงอยากเข้าม.ดังเยอะ เพราะว่าการสอบเข้ามันยากมาก ราชภัฏเทียบไม่ได้เลย การแข่งขันสูงมาก และเข้ามาเรียนแล้วเพื่อนในคลาสมีความ Deserve ที่จะเรียนจริงๆ มีส่วนน้อยที่จะไม่เก่งในสาขาที่ตัวเองเรียน อีกอย่างที่เรามอง ม.ดัง ดีกว่า ราชภัฏ คือตอนเรียนจบ ลองเทียบเด็ก 2 คน คนนึงจบม.ดัง อีกคนจบราชภัฏ และทั้ง 2 คนนี้ยังไม่มีประสบการณ์ใดๆเลยนอกจากวุฒิปริญญาที่ยื่นสมัครงาน เราเป็นนายจ้างเราเลือกม.ดังแน่นอน เพราะเด็กจบม.ดังเค้า Deserve ที่จะอยู่จุดที่ดีกว่า เค้าผ่านการแข่งขันที่มากกว่าราชภัฏ

ที่เรากล่าวมาทั้งหมดเราไม่ได้ดูถูกว่าเด็กราชภัฏไม่เก่งกว่าเด็กม.ดัง แต่เราต้องการที่จะพูดว่า เด็กม.ดังเค้าลงทุนมากที่จะเข้าไปเรียนที่ม.ที่มีชื่อเสียง เพื่อนเราหลายๆคนหรือเราคนนึงแหละที่ผ่านการอ่านหนังสือ เรียนพิเศษมาเยอะมากกว่าจะสอบติดม.ดัง ในเมื่อเด็กม.ดังเค้าลงทุนมากว่าที่จะเลือกในสิ่งที่ดีกว่าเค้าควรที่จะได้รับมันจริงๆ หลายๆคนมองว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน เราไม่เคยเชื่อคำนี้เลย ถ้าคำพูดว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกันทำไมต้องมีการจัดอันดับมหาวิทยาลัยมาทุกๆปี
ปล.เรามองว่าราชภัฏเป็นแหล่งผลิตครูที่ดีมาก อันนี้เรายอมให้ราชภัฏเรื่องคณะคุรุศาตร์ ส่วนคณะอื่นเรายังมองว่ายังด้อยกว่าม.ดังจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่