สวัสดีคะ หลายๆ คนคงพอจะทราบข่าวเกี่ยวกับการออกกฎหมายควบคุมการนำห้องมาให้บริการบนเว็บไซต์ Airbnb ที่ญี่ปุ่นกันมาบางแล้ว
ทั้งเรื่องของการจำกัดจำนวนวันในการให้บริการตลอดปี การกำหนดช่วงวันที่สามารถให้บริการได้ในบางพื้นที่ บางจังหวัด
และล่าสุดผู้เป็นเจ้าของที่พักต้องไปทำการขึ้นทะเบียน เพื่อรับหมายเลขใบอนุญาตจากรัฐ หากหลังวันที่ 15 มิ.ย. 2561
ที่พักใดยังไม่มีเลขใบอนุญาตจะไม่สามารถเข้าพักได้ และทาง Airbnb ต้องทำการยกเลิกการจองที่พักนั้น


  
    เราได้วางแผนทริปฮอกไกโดหน้าร้อน กลางเดือน ก.ค. เอาไว้ตั้งแต่ต้นปี หาที่พักและทำการจองล่วงหน้าไว้ช่วงต้นเดือน มี.ค. 2561
สำหรับวันอื่นๆ นั้นก็จองโรงแรมตามปกติ แต่ 2 คืนสุดท้ายก่อนกลับเมืองไทย (คืนวันศุกร์ และเสาร์) ได้วางแผนไว้ว่าจะเที่ยวในซัปโปโร
และจะช็อปปิ้งซื้อของฝากในช่วง 2 วันนี้ จึงมองหาที่พักที่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง เผื่อของเยอะ หรือใครเหนื่อย
จะได้เดินกลับมาที่ห้องพักได้ง่ายๆ ลองหาโรงแรมก็เกินงบไปเยอะอยู่ เลยลองหาห้องพักใน Airbnb ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจ
ใช้บริการAirbnb หลังจากได้ห้องที่ถูกใจ ราคารับได้ รีวิวและคะแนนก็ดี ก็ได้ทำการจอง และจ่ายเงินไปตามขั้นตอนปกติคะ

ปรากฎว่าวันที่ 15 มิ.ย. 2561 ได้รับอีเมลจาก Airbnb ว่าห้องที่เราจองไว้นั้น เจ้าของที่พักยังไม่มีหมายเลขใบอนุญาต
อาจทำให้เราถูกยกเลิกการจองได้ และก็ให้เราดำเนินการสอบถามเจ้าของที่พักดู พร้อมให้ทางเลือกมา 2 ทาง คือ

   1. ยกเลิกการจอง และหาที่พักใหม่ โดย Airbnb จะคืนเงินที่จ่ายไปแล้วให้เต็มจำนวน พร้อมให้คูปองมูลค่าเท่ากับค่าบริการทั้งหมด
       ที่เรายกเลิกไป เพื่อเอาไปใช้จองที่พักใหม่ได้ และจะให้คูปองสำหรับ Airbnb Experience มูลค่า $100 สำหรับใช้บริการครั้งต่อไป
       ภายใน 6 เดือน หลังจากที่เราได้ใช้บริการทริปแรกไปแล้ว

   2. ถ้าตัดสินใจรอดูว่าเจ้าของที่พักเดิมจะได้หมายเลขใบอนุญาตทันกำหนดการเข้าพักที่จองไว้ก็ได้
       แต่ถ้า 10 วันก่อนการเดินทางแล้วยังไม่ได้หมายเลขใบอนุญาต ทาง Airbnb จะทำการยกเลิกการจองให้เรา
       พร้อมคืนเงิน และให้คูปองตามข้อ 1 ในตอนนั้น

     เรางี้เซ็งเลย กำหนดการเดินทางก็ใกล้เข้ามาแล้วเหลือเวลาไม่ถึงเดือน โรงแรมก็แทบไม่มีห้องว่างในช่วงนั้นแล้ว
ที่เหลืออยู่ราคาก็แพงมาก จึงส่งข้อความผ่านระบบของ Airbnb ไปสอบถามเจ้าของที่พักเกี่ยวกับหมายเลขใบอนุญาต
ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่าได้ยื่นไปแล้ว กำลังรอการอนุญาตอยู่ แล้วจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ จึงตัดสินใจให้เวลาเขาสัก 1 สัปดาห์
ปรากฎว่าก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงได้ส่งอีเมล ไปสอบถามที่ japanguestsupport@airbnb.com ซึ่งเป็นอีเมลที่เว็บได้แจ้งไว้
ว่าทางเว็บจะช่วยอะไรเราได้บ้าง

     จะมีอีเมลตอบกลับจากระบบอัตโนมัติ ว่าได้รับเรื่องแล้วจะส่งให้เจ้าหน้าที่มาดูแลเคสเราต่อ สักพักก็ได้รับอีเมล
จากเจ้าหน้าที่แนะนำว่าควรยกเลิกการจองเดิม เพราะดูแล้วไม่น่าจะได้หมายเลขใบอนุญาตทัน และบอกเรื่องการคืนเงิน
คูปองที่จะได้รับ ซึ่งตอนที่อ่านเมลเรายังไม่แน่ใจว่าคูปองที่ได้จะเป็นจำนวนเท่าไร และเอามาใช้ได้เลยไหม
สักพักเจ้าหน้าที่ก็โทรเขาเบอร์มือถือ แจ้งว่าติดต่อมาเพื่อช่วยเหลือ ให้เราตัดสินใจว่าจะยกเลิกของเดิมเลยไหม
แต่พอดีติดงานอยู่ไม่สะดวกจะคุย เลยแจ้งไปว่าจะอีเมลกลับไป

     จากนั้นก็อีเมลกลับไปถามเรื่องการช่วยหาห้องใหม่ และการใช้คูปอง ซึ่งเขาก็ส่ง link ที่พัก
ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงของเดิมที่ยังว่างอยู่มาให้ และตอบคำถามเรื่องการใช้คูปอง พร้อมทั้งแนะนำว่าก่อนจองใหม่
ให้ส่งข้อความไปคอนเฟิร์มเรื่องหมายเลขใบอนุญาตกับเจ้าของที่พักใหม่ด้วย สรุปสิ่งที่เราดำเนินการนะคะ

   1. เลือกที่พักจาก link ที่เขาส่งมาให้ และส่งข้อความไปคุยกับเจ้าของที่พัก (ได้ห้องราคาแพงกว่าเดิมมาคืนละ 1 พันบาท)
       เจ้าของที่พักใหม่ส่งข้อความคอนเฟิร์มหมายเลขใบอนุญาต วันที่ว่าง และชวนให้ไปจองห้องพักเขาได้

   2. ส่งข้อความไปบอกเจ้าของที่ห้องเดิมว่าต้องยกเลิกการจองห้องเขา ขอให้เข้าใจด้วย อันนี้เจ้าของห้องเดิมตอบโอเคกลับมา

   3. ไปทำการยกเลิกการจองเดิมในระบบ มีให้ใส่เหตุผล ก็เลือกอื่นๆ และระบุไปว่าเพราะห้องเดิมยังรอใบอนุญาตอยู่

   4. ได้รับอีเมล  2 ฉบับ คือ เรื่องคูปอง ซึ่งจะมีรหัสคูปอง 2 ใบ ใบแรกเป็นคูปองมูลค่าเท่าที่ของเดิมที่เราจ่ายไป
       ใบที่ 2 เป็นคูปองมูลค่า $100 USD สำหรับใช้ภายใน 6 เดือน หลังจากเข้าพักครั้งแรกไปแล้ว และ
       เรื่องการคืนเงินเต็มจำนวนตามช่องทางที่เราจ่ายไป (ของเราคืนมาที่บัตรเครดิต) ภายใน 15 วันทำการ

   5. ทำการจองที่พักใหม่ ตอนชำระเงิน จะขึ้นรหัสคูปองใบแรกมาให้เลือกจ่ายชำระแทนเงินได้เลยทั้งจำนวน
       ส่วนมูลค่าที่เกินคูปองก็จ่ายด้วยบัตรเครดิตไปตามปกติ เท่ากับว่าเราจะจ่ายเงินจริงแค่เท่าส่วนต่างของค่าที่พักที่แพงขึ้น

     สำหรับขั้นตอนการ check in ตามกฎหมายใหม่ต้องมีการเก็บข้อมูลผู้เข้าพักด้วย เหมือนเวลาไปพักตามโรงแรม
เจ้าของที่พักจะส่ง check in guide link มาให้เรากรอกข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ หมายเลขพาสสปอต์ และแนบไฟล์หน้าพาสสปอต์
โดยต้องกรอกให้ครบทุกคนตามจำนวนผู้เข้าพักที่ได้เลือกไว้ตอนทำการจอง จากนั้นระบบจะแจ้งว่าให้รอการตรวจสอบ จะมีอีเมล
มาแจ้งผลการตรวจสอบให้ทราบ
     เมื่อระบบตรวจสอบข้อมูลเราเรียบร้อยแล้วจะส่งอีเมลมาแจ้ง และเจ้าของที่พักจะส่ง check in guide link มาให้อีก
คราวนี้จะมีข้อมูลของห้องพัก ที่อยู่ เบอร์โทร แผนที่ วิธีการเช็คอิน เวลาเช็คอิน-เช็คเอาท์ กฎของห้องพัก และข้อมูลสำคัญต่างๆ
ที่เจ้าของห้องพักต้องการจะแจ้งเราสำหรับทำการเข้าพักมาให้ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น รอเดินทางตามทริป