ผมไปปารีสเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง โดยขับรถเช่าจาก Zurich ผ่านขึ้นไปและเช่าที่พักจาก AirBNB เนื่องจากประสบการณ์แย่ๆจาก Boo.com ซึ่งผมเขียนกระทู้ไว้ที่
https://ppantip.com/topic/37757144
โดยเดินทางขับรถมาจาก Zurich เข้ามากลางปารีสโดยผ่านด่านค่าผ่านทางด่วน
ถึงที่พัก Zone 2
จอดรถและใน Public Transport แทน
ผมมักจะเดินทางเองและระวังระดับหนึ่งเรื่องการโดนล้วงโดนปล้นอยู่โดยที่
ปกติผมจะเอาเงินใส่กระเป่าหลังกางเกงเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่ถ้ามาต่างประเทศผมจะใส่กระเป๋าด้านข้างซึ่งลึกกว่า
ผมจะแยกเก็บทั้งเงินสดและบัตรเครดิตไง้หลายแห่ง ของผมแบ่งออก 2 ข้าง แล้วยังฝากญาติผู้ชายที่ไปด้วยกันอีก ซึ่งก็ใส่กระเป๋าข้างเหมือนกัน
ผมพักที่ปารีส 3 คืน โดยวันที่เกิดเหตุเป็นวันสุดท้าย ซึ่งเดินทางไป Versailles นั่ง Metro มา Louvre
จากนั้นก็นั่ง RER กลับ มาเปลี่ยนรถที่ สถานี Invalides ซึ่งตอนนั้นเป็นตอนเย็น เมื่อลงรถแล้วจะต่อ Metro สายม่วง ปรากฏว่าคนแน่นมาก อาจจะด้วยความไม่ระวังมากพอหรือเปล่า เราขึ้นรถ metro ไป รถแน่นจนยืนแทยไม่ได้ มีคนที่ผืนอยู่ก่อนตรงประตูแล้วหลังจากกเราขึ้น มีคนอีกกลุ่มหนึ่งขึ้นตามมา อัดจนแน่นมาก มากกว่า สาย Yamanote ที่ Shinjuku ตอนเย็นเสียอีก มือขวาต้องเกาะราวไว้
คนที่ขึ้นมาก็ลง ก่อนประตูปิดมา เด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอก ขี้ให้ผมดุที่เท้า ซึ่งพอผมก้มดูก็เห็น กระเป๋าเงินหล่อนอยู่ พร้อมกับจังหวะที่ประตูรถปิดพอดี
พอหยิบกระเป๋าเงินออกมาก็พบว่า เงินหายหมด ราวเงินไทยที่อยู่ในช่องซิปด้วยราว 700 บาท (ว่าจะเอาไว้เป็นค่าTAXI กลับที่พักเวลาถึงไทย) แต่บัตรเครดิตและใบขับขี่ยังอยู่
ผมมาทบทวนเหตุการณ์ น่าจะทำกันเป็นทีม คนล้วงต้องอยู่ด้านหลังผมคนที่ผมไปพิงเขา เป็นชายผิวสี เขาขึ้นมากก่อนผม ผมที่เหลือเข้ามาอัดให้แน่น ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นผิวสี คนที่เรียกผมให้เห็นกระเป๋า ก็อยู่ในทีมด้วยเป็นเด็กหนุ่มผิวสี
จากเรื่องนี้ผมประมวลว่า
1. ต้องทำงานเป็นทีมเลยมีการวางแผนมาก่อน เลือกสถานีที่คนแน่น และเช่นสถานี้นี้เพราะคนมาจาก Versailles มักจะลงมาต่อรถสถานีนี้
2. มีคนขึ้นมาก่อนรอคนขึ้นมาจะได้ล้วงง่าย
3. มีทีมประกบทำให้การรถแน่น ดึงความสนใจของผู้โดยสาร
4. เขาไม่เอากระเป๋าทั้งใบ อาจจะเป็นเพราะ ไม่อยากมีหลักฐานติดตัว บัตรเครดิตในยุโรปส่วนใหญ่เวลาใช้จะต้องใส่ Pin จึงไม่มีประโยชน์ในการเอาไป (แต่ของเราเซ็นเอา น่าจะมีแบบใช้ pin และเป็นโชคดีของผมเพราะ บัตรเครดิต หายจะยุ่งมาก และใบขับขี่ Smart Card หายจะขับรถต่อไปอย่างไร ผมจะต้องไป Belgium / Germany กลับ Zurich ด้วย)
ทางป้องกันมีคนแนะหลายอย่าง เช่น
เอากระเป๋าผูกเอวไว้ด้านหน้า
หรือเอากระเป๋าเงินแบบคล้องคอ ใส่ไว้ในเสื้อ
บางคนบอก เอาเข็มกัด ติดกระเป๋ากางเกงด้านข้างเลย
ใส่ไว้กระเป๋าเสื้อ หรือกางเกง ซึ่งมีซิบ ล๊อก
ฯลฯ
ผมเลยคิดว่า
สิ่งแรกที่ต้องระวังคือไม่เปิดโอกาสให้เข้าไปเบียด หรือเดินใกล้กับคนอื่น
ระมัดระังคนที่แปลกหน้าที่เข้ามาทักทาย หรือเข้ามาใกล้ แจกเอกสารหรืออะไรอย่างอื่นให้ออกห่าง
รวมกับวิธีการอื่นที่กล่าวข้างต้น อาจจะช่วยได้ การที่นำเรื่องนี้มีเล่าให้ฟังเพื่อเตือนให้ ผู้ที่จะเดินทางระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดี
ผมไปปารีส ถูกล้วงคอ งูเขียว (กระเป๋าเงิน) 800 ยูโร เล่าสู่กันฟังเพื่อระวังต่อไป
https://ppantip.com/topic/37757144
โดยเดินทางขับรถมาจาก Zurich เข้ามากลางปารีสโดยผ่านด่านค่าผ่านทางด่วน
ถึงที่พัก Zone 2
จอดรถและใน Public Transport แทน
ผมมักจะเดินทางเองและระวังระดับหนึ่งเรื่องการโดนล้วงโดนปล้นอยู่โดยที่
ปกติผมจะเอาเงินใส่กระเป่าหลังกางเกงเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่ถ้ามาต่างประเทศผมจะใส่กระเป๋าด้านข้างซึ่งลึกกว่า
ผมจะแยกเก็บทั้งเงินสดและบัตรเครดิตไง้หลายแห่ง ของผมแบ่งออก 2 ข้าง แล้วยังฝากญาติผู้ชายที่ไปด้วยกันอีก ซึ่งก็ใส่กระเป๋าข้างเหมือนกัน
ผมพักที่ปารีส 3 คืน โดยวันที่เกิดเหตุเป็นวันสุดท้าย ซึ่งเดินทางไป Versailles นั่ง Metro มา Louvre
จากนั้นก็นั่ง RER กลับ มาเปลี่ยนรถที่ สถานี Invalides ซึ่งตอนนั้นเป็นตอนเย็น เมื่อลงรถแล้วจะต่อ Metro สายม่วง ปรากฏว่าคนแน่นมาก อาจจะด้วยความไม่ระวังมากพอหรือเปล่า เราขึ้นรถ metro ไป รถแน่นจนยืนแทยไม่ได้ มีคนที่ผืนอยู่ก่อนตรงประตูแล้วหลังจากกเราขึ้น มีคนอีกกลุ่มหนึ่งขึ้นตามมา อัดจนแน่นมาก มากกว่า สาย Yamanote ที่ Shinjuku ตอนเย็นเสียอีก มือขวาต้องเกาะราวไว้
คนที่ขึ้นมาก็ลง ก่อนประตูปิดมา เด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอก ขี้ให้ผมดุที่เท้า ซึ่งพอผมก้มดูก็เห็น กระเป๋าเงินหล่อนอยู่ พร้อมกับจังหวะที่ประตูรถปิดพอดี
พอหยิบกระเป๋าเงินออกมาก็พบว่า เงินหายหมด ราวเงินไทยที่อยู่ในช่องซิปด้วยราว 700 บาท (ว่าจะเอาไว้เป็นค่าTAXI กลับที่พักเวลาถึงไทย) แต่บัตรเครดิตและใบขับขี่ยังอยู่
ผมมาทบทวนเหตุการณ์ น่าจะทำกันเป็นทีม คนล้วงต้องอยู่ด้านหลังผมคนที่ผมไปพิงเขา เป็นชายผิวสี เขาขึ้นมากก่อนผม ผมที่เหลือเข้ามาอัดให้แน่น ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นผิวสี คนที่เรียกผมให้เห็นกระเป๋า ก็อยู่ในทีมด้วยเป็นเด็กหนุ่มผิวสี
จากเรื่องนี้ผมประมวลว่า
1. ต้องทำงานเป็นทีมเลยมีการวางแผนมาก่อน เลือกสถานีที่คนแน่น และเช่นสถานี้นี้เพราะคนมาจาก Versailles มักจะลงมาต่อรถสถานีนี้
2. มีคนขึ้นมาก่อนรอคนขึ้นมาจะได้ล้วงง่าย
3. มีทีมประกบทำให้การรถแน่น ดึงความสนใจของผู้โดยสาร
4. เขาไม่เอากระเป๋าทั้งใบ อาจจะเป็นเพราะ ไม่อยากมีหลักฐานติดตัว บัตรเครดิตในยุโรปส่วนใหญ่เวลาใช้จะต้องใส่ Pin จึงไม่มีประโยชน์ในการเอาไป (แต่ของเราเซ็นเอา น่าจะมีแบบใช้ pin และเป็นโชคดีของผมเพราะ บัตรเครดิต หายจะยุ่งมาก และใบขับขี่ Smart Card หายจะขับรถต่อไปอย่างไร ผมจะต้องไป Belgium / Germany กลับ Zurich ด้วย)
ทางป้องกันมีคนแนะหลายอย่าง เช่น
เอากระเป๋าผูกเอวไว้ด้านหน้า
หรือเอากระเป๋าเงินแบบคล้องคอ ใส่ไว้ในเสื้อ
บางคนบอก เอาเข็มกัด ติดกระเป๋ากางเกงด้านข้างเลย
ใส่ไว้กระเป๋าเสื้อ หรือกางเกง ซึ่งมีซิบ ล๊อก
ฯลฯ
ผมเลยคิดว่า
สิ่งแรกที่ต้องระวังคือไม่เปิดโอกาสให้เข้าไปเบียด หรือเดินใกล้กับคนอื่น
ระมัดระังคนที่แปลกหน้าที่เข้ามาทักทาย หรือเข้ามาใกล้ แจกเอกสารหรืออะไรอย่างอื่นให้ออกห่าง
รวมกับวิธีการอื่นที่กล่าวข้างต้น อาจจะช่วยได้ การที่นำเรื่องนี้มีเล่าให้ฟังเพื่อเตือนให้ ผู้ที่จะเดินทางระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดี