คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ระยะเวลา
แต่อยู่ที่จิตใจของคนทั้งสองต่างหาก
สิ่งไหนก็ตาม ถ้าเป็นของเรา
ต่อให้จากเราไปแล้ว ถึงวันหนึ่งก็ต้องย้อนกลับมาหาเราอีกจนได้
ในทางกลับกัน หากสิ่งนั้นออกจากเราไปแล้ว เเละไม่เคยหวนกลับมาอีกเลย
เเสดงว่า มันไม่ใช่ของเราตั้งเเต่เเรกเช่นกัน
การรับรู้ว่า บางสิ่งที่เราคิดว่ามี มันไม่มีอยู่จริง อาจจะเจ็บเเต่ก็จบ ไม่ทรมานนานมากนัก
เเต่การรอคอย เพื่อจะพบเจอกับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง มันทรมาน แบบไม่มีวันจบ
เหมือนรอปาฎิหาริย์ครั้งที่สอง ทั้งที่ลึกๆก็รู้ว่าปาฎิหาริย์ เกิดได้เเค่ครั้งเดียว...........
แต่อยู่ที่จิตใจของคนทั้งสองต่างหาก
สิ่งไหนก็ตาม ถ้าเป็นของเรา
ต่อให้จากเราไปแล้ว ถึงวันหนึ่งก็ต้องย้อนกลับมาหาเราอีกจนได้
ในทางกลับกัน หากสิ่งนั้นออกจากเราไปแล้ว เเละไม่เคยหวนกลับมาอีกเลย
เเสดงว่า มันไม่ใช่ของเราตั้งเเต่เเรกเช่นกัน
การรับรู้ว่า บางสิ่งที่เราคิดว่ามี มันไม่มีอยู่จริง อาจจะเจ็บเเต่ก็จบ ไม่ทรมานนานมากนัก
เเต่การรอคอย เพื่อจะพบเจอกับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง มันทรมาน แบบไม่มีวันจบ
เหมือนรอปาฎิหาริย์ครั้งที่สอง ทั้งที่ลึกๆก็รู้ว่าปาฎิหาริย์ เกิดได้เเค่ครั้งเดียว...........
แสดงความคิดเห็น
ถามคุณผู้ชายค่ะ ถ้าผู้หญิงที่คุณเคยรักและเอ็นดู กลับมาหาคุณหลังจาก 4 ปีผ่านไป..
ถ้าหากคุณชอบผู้หญิงคนนึง ดีกับเธอ ตามใจเธอทุกอย่าง เจอเธอทุกวัน แต่ตัวคุณเองยังไม่พร้อมที่จะรับเธอเข้ามาในฐานะแฟนด้วยเหตุผลบางประการ
แล้ววันนั้นเธอเลยตัดสินใจตีตัวออกห่างจากคุณ โดยที่คุณก็ยังคงไม่รู้ตัวว่าเธอห่างหายไปเพราะเหตุผลว่าเธอน้อยใจคุณ
4 ปีผ่านไป..คุณมีพูดคุยกับเธอนานๆครั้ง แต่ไม่ได้เจอกันเลย ถ้าเธอกลับมาพูดคุย ชวนคุณไปกินข้าว 2 คน คุณจะให้ความสนใจไหมค่ะ? สำหรับผู้ชาย 4 ปีมันนานเกินไปไหมค่ะ? ถ้าคุณไม่สนใจชวนเธอ แปลว่าคุณไม่สนใจเธอแล้ว ถูกต้องไหมค่ะ?
ปล. สำหรับผู้หญิง (บางคน) 4 ปีมันไวมากๆค่ะ ความรู้สึกยังเหมือนเดิม ถึงชีวิตจะมีอะไรใหม่ๆเข้ามา แต่ความรู้สึกก็มักจะวนกลับมาที่เดิม