สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องอยากมาแชร์ ประสบการณ์ความรักของตัวเองหน่อย
ย้อนไปเมื่อ7ปีที่แล้ว เราแอบคบกับแฟนคนนึ่งสมัยวัยรุ่น พ่อแม่เราเป็นคนหัวโบราณค่ะ คือไม่อยากให้มีแฟน และไม่ชอบให้ออกไปไหนถ้าเลิกเรียนคือต้องกลับบ้าน วันหยุดก้ต้องอยุ่บ้าน ไม่ค่อยชอบให้ติดเพื่อนและห้ามเพื่อนมาบ้าน เราตอนนั้นมันคืออึดอัดมากคะ เห็นเพื่อนๆไปไหนกันเราก็อยากไป มีแฟนก็อยากไปเที่ยวบ้าง ไปดูหนัง ไปกินข้าวบ้าง แต่ก็ทำได้แค่แอบไป 5-10 นาทีก็ต้องกลับเข้าบ้าน ช่วงนั้นเรากำลังขึ้นปี1 ต้องมีทำรายงานกลุ่ม ทำโครงงาน เราต้องกลับบ้านเย็นแทบทุกวัน และพ่อแม่ก็จะโทรตามเราทุกวัน เพื่อนๆในกลุ่มก็จะเริ่มพูดกันว่า ต้องตามขนาดนี้เลยหรอวะ เราในตอนนั้นก็ไม่เข้าใจพ่อแม่เช่นกัน รู้สึกว่าทำไมคนอื่นถึงมีอิสระทำไมถึงชีวิตดีกว่าเรา เพื่อนเราเลยแก้ไขปัญหาให้เราค่ะ โดยการไปทำรายงานที่บ้านเราแทน แต่ก็นะ เพื่อนๆกลุ่มเราส่วนมาก ก็จะออกแนวแรดๆ กัน เสียงดังวิ้ดว้าย แต่ไม่หยาบคายนะค่ะ พ่อเข้ามาในบ้านก็ไม่ค่อยพอใจคะ พอเพื่อนๆกลับก็บอกกับเราว่า ทีหลังอย่าพาเพื่อนมาบ้านอิก เหมือนมามั่วสุมกัน เราตอนนั้นไม่พอใจมากคะ เราไม่ได้ทำอะไรผิด เพื่อนเราก็ไม่ผิด ทำไมต้องมาว่าด้วย แต่ไม่ใช่แค่เรื่องนี้นะ ยังมีห้ามเราคบเพื่อนอิก เราเครียดเลยคะ เพราะในสังคมแบบนั้น วิทยาลัยอะค่ะ ถ้าเราไม่มีเพื่อนไม่มีสังคม มันจะเรียนจบไปได้ไง ในเมื่อการศึกษามันไม่ได้อยุ่แค่ห้องเรียนมันไม่ได้อยุ่ที่หนังสือเล่มเดียว แต่ในที่สุดเราก็เรียนไม่จบค่ะ ไม่ใช่เพราะเพื่อน และไม่ใช่เพราะหัวไม่ดีนะ เราออกเพราะเราเบื่อคะ เราอยากแหกกฎ เราอึดอัดคะ อะไรที่เป็นกฎเป็นกรอบเราแหกคะ ออกมาอย่างแรกคือหางานทำค่ะ ตอนนั้นอายุประมาณแค่15ปี แน่นอนว่าไม่มีที่ไหนรับเด็กคะ เราเลยอาศัยลงสมัครงานในนามของร.ร ส่งให้ค่ะ เลยได้มาทำงานในห้างแห่งหนึ่งเป็นร้านอาหาร ในใจคิดว่าดีค่ะ ทำงานในห้างไม่เหนื่อยหรอก แอร์เย็น สบาย แต่ไม่ใช่อย่างนั้นคะ ทำได้2วันแรก อยากออกเลยคะ งานหนักมาก เหนื่อยมาก ทำแม้งทุกอย่าง ทั้งล้างจาน เก็บโต๊ะ รับออเดอร์ ปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาด รวมถึงแบกขยะถุงใหญ่ๆ ไปทิ้ง รู้สึกแย่มากที่ออกร.รมา แต่ด้วยความทะเยอทะยาน อยากมีอยากได้คะ ช่วงนั้นจำได้ว่าที่กำลังฮิตๆเลยคือ โทรศัพท์ black berry( BB ) เห็นเพื่อนมี เห็นคนอื่นมีอยากได้คะ แต่พ่อแม่ไม่ซื้อให้เพราะเขาบอกมันเป็นของฟุ่มเฟือย ด้วยความที่เราอยากได้คะ อดทนกัดฟันทำงานจนถึงวันเงินออกเดือนแรกคะ ได้3000 เอาไปซิ้อโทรศัพท์คะ มือสอง ราคา3000 เป่ะ กลับมาบ้านแม่เจอคะ เลยโดนด่า หาว่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย หมดแล้วจะเอาที่ไหนซื้อกิน ในตอนนั้นเราไม่สนใจคะ เราคิดแต่ว่าเราอยากได้ก็คือต้องได้ พอเราได้สมใจแล้ว เป้าหมายเราต่อไปคืออยากกลับไปเรียนคะ เลยไปบอกพ่อกับแม่ บอกท่านว่าจะกลับไปเรียน แต่ขอเรียนเอกชน ค่าเทอมๆละ2,500 บาท พ่อกับแม่ไม่เห็นด้วยคะ เพราะสถานที่เรียนค่อนข้างไกล้ร.ร เด็กช่าง ช่วงนั่นมีข่าวตีกันคะ แต่คนละที่ ผู้ใหญ่ละเนอะ ก้ต้องคิดว่ามันเหมือนๆกัน เราก็ไม่ยอมแพ้คะ ไปทำงานเก็บเงินทำได้ประมาณสองเดือน เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีเงินพอที่จะไปสมัครเรียนละ เลยหยุดทำงานแล้วหันกลับมาเรียนคะ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นร.ร.ที่เราเลือก ค่อนข้างจะไม่ได้มาตรฐานคะ บางวิชาอาจารย์ไม่เข้า นักเรียนส่วนมาก นั่งคุยโทรสัพ และแต่งหน้าคะ เราเข้ามาแรก ๆก็ไม่ชินคะ เพราะเราไม่เคยเรียนร.รที่สบายขนาดนี้ แต่ก็เริ่มปรับตัวได้คะ ในตอนนั้นเราคิดว่าตัวเองเจ๋งดี ที่ทำตัวแหกกฎ ทำตัวแรดๆ แบบนั้น แต่แล้วเราก็เรียนไม่จบค่ะ เพราะเราตั้งท้อง กับแฟนที่เราบอกว่าแอบคบมาตลอดนั่นและคะ พ่อแม่ตกใจมาก ไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้ เห็นแต่ลูกชาวบ้านเป็น เราเองก็ไม่คิดคะว่าจะมีลูกตั้งแต่อายุไม่ถึง20 เราไม่ได้คิดถึงอะไรเลย คิดแค่ว่ามีและก็ต้องเลี้ยง แฟนเราและครอบครัวเค้าพร้อมรับผิดชอบเราคะ เพราะเค้ารู้มาตลอดว่าเราคบกัน พ่อแม่เราเค้าก็รู้คะแต่ไม่ยอมรับและก็ห้ามคบกันมาตลอด ช่วงนั้นเป็นอะไรที่อยากตายมากคะ ร้องไห้ทั้งวันเต็มๆ 7วัน เพราะพ่อรับไม่ได้พ่อด่าเราหยาบๆคายๆ บอกให้ไปเอาออกจะพาไป และจะเอาเรื่องแฟนคะ ตอนนั้นความคิดเราไม่อยากจะมีชีวิตอยุ่ต่อแล้ว แต่เราก็ไม่กล้าที่จะฆ่าตัวตาย เรากลัวคะ ก็ได้แต่อดทนรอว่าอะไรมันจะดีขึ้น หลังจากเรื่องเกิดประมาณสามวัน ครอบครัวแฟนมาขอเรากับพ่อแม่เราคะ ตกลงเรื่องสินสอดเสร็จ อิก1สัปดาห์ เราต้องเข้าพิธีผูกแขนตามประเพณีคะ และเราก็ได้เข้าไปอยุ่บ้านแฟนไปเป็นสมาชิกครอบครัว วันแรกเราร้องไห้คิดถึงแม่คะ เพราะเราไม่เคยห่างแม่ แม่ก็คิดถึงเราคะ แต่แม่ผัวเราเค้าเอาใจเราดีมากคะ พาเราไปนู้นนี่พาไปกินข้าว ทำกับข้าวให้กิน แฟนเราก็รักกันดีคะ ตอนนั้นชีวิตโคตรจะดีเลย มีความสุข แต่ความทุกข์ก็กำลังจะมาเยือนคะ เมื่อแฟนเปิดภาคเรียน เราไม่เคยระแวงคะ ไว้ใจ ตื่นมารีดผ้า หาข้าว ให้แฟน ทุกเช้า ตีสี่ตีห้าต้องตื่นมาทำ แต่แล้ววันนึ่งแฟนเราเปลี่ยนไปคะ เค้าทำตัวแปลกๆ เค้ากลับบ้านสองสามทุ่มทุกวันจากเมื่อก่อนกลับสี่โมงห้าโมง กลับมาก็นอนเล่นแต่โทรศัพท์ ขอจับโทรศัพท์ก้ไม่ไห้ เดินหนี รวมถึงใส่พาดเวิด เราก็เริ่มสงสัยเราถามดีๆ แต่กลับได้คำว่า อย่ามาหาเรื่อง เราขึ้นเลยคะ สุดท้ายทะเลาะกันเราร้องไห้เก็บเสื้อผ้ากลับบ้าน แล้วเราก็มารู้คะว่าแฟนเราแอบมีคนอื่นอยุ่ที่ร.รเค้า อาศัยว่าเราไว้ใจไม่เช็คโทรสัพท์ตอนนั้นเราไว้ใจมากคะ เราไม่เล่นเฟส ไม่เล่นไลน์ไม่เล่นบีด้วย โทรศัพท์มีไว้โทรเข้าออก พอเข้าไปดูอีกทีก็เลยรู้คะว่าเค้าคบคนอื่น ตอนนั้นนิสัยผญ.อะเนอะ โกรธคะ โวยวายโพสเฟส รวมถึงทักแชทผญ.คนนั้น ไป เค้าก็ตอบกลับมาว่าไม่รุ้ว่าแฟนเรามีเมียมีลูก แล้วเค้าก็ไปเลิกกับแฟนเราคะ แฟนเราก็กลับมาง้อเราและพาเรากลับบ้านโดยใช้อุบายเรื่องลูกในท้องมาทำให้เราใจอ่อนยอมให้อภัยเค้าอิกครั้ง แต่แน่นอนว่ามีครั้งแรกแล้วก็ต้องมาครั้ง2,3,4,5 และก็ครั้งแล้วครั้งเล่าๆๆ แต่เราทนคะทนมาตลอด6ปี จนมีวันนึ่ง เค้าตบตีเราคะ สาเหตุมาเนื่องจากวันนั่นเรากับน้องเอารถเค้าไปรับลูกที่ร.ร คะ และหมาวิ่งตัดหน้า รถล้มคะ เรากับลูกกระเด็นมากลางถนน น้องติดอยุ่ที่รถ รถวิ่งผ่านหัวเราไปเกือบเหยียบ ดีนะเค้าเบี่ยงทัน ตอนนั้นเจ็บเข่ามากคะเลือดออก ลูกมีแผลถลอกนิดหน่อย ไม่หนักคะ แต่เราก็ไม่ไปหาหมอคะ ล้างแผลเอา แฟนมาเห็นรถเค้า กระจกหัก และมีรอยที่รถนิดหน่อยคะ ไม่พอใจแถมด่าเราอิก เราก็เลยด่ากลับ ว่าแทนที่จะสนใจลูกเมีย ถามสักคำไหมว่าเจ้บมากไหมเป็นไรมากป่าว ไม่มีคะ ได้คำตอบกลับมาว่าก็เห้นยังยืนได้นิ่ เราโมโหมากจากนั้นเราก็ด่ากัน รวมถึงปาข้าวของใส่กัน และสิ่งที่เราไม่คิดว่าเค้าจะทำ มันเกิดขึ้นคะ เราตบตีเรา กระทืบเรา เตะต่อยไม่ยั้ง เราสุ้คะ แต่สู้ไม่ไหว ตอนนั้นเจ้บช้ำระบมไปหมด หายใจทีก็เจ้บช่วงซี่โครง เค้ามาขอโทดเราคะ เค้าบอกไม่ได้ตั้งใจ และก็ใช้เราไปหาข้าวไห้กิน ใช้เราไปช่วงยกงานยกถุงนุ้นนี่นั่น เราบอกเค้าว่าเราเจ้บเราทำไมไหว เค้าด่าเราว่าสำออยคะ จากนั้นมาความรู้สึกเรามันไม่เหมือนเดิมคะ มันเปลี่ยนไป เรานั่งมองหน้าลูก เราก็บอกกับตัวเองในใจว่า แม่จะเลี้ยงหนูคนเดียวให้ได้ จะทำให้ได้ ลูกเราไม่ติดพ่อนะคะ ติดเราคะติดมาก ลูกร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นเราตีกัน จากวันนั้นมาไม่นานคะ เราเริ่มวางแผนที่จะออกไปจากบ้านหลังนี้ โดยอันดับแรก เราติดต่อแม่เราคะ ว่าให้หาร.ร ไกล้บ้านไว้ให้ ต่อมาเราก็เริ่มทำตัวเย็นชาต่อแฟน ไม่สนใจไม่ใส่ใจรวมไปถึงไม่มีอะไรด้วย และก็ไม่ยอมให้มี จนแฟนเราสังเกตได้คะว่าเราเปลี่ยนไป เราไม่เหมือนเดิม แฟนเราพยายามเอาใจเราสารพัด ซื้อนุ้นนี่ให้ แต่ใจเรามันพอแล้วคะ คิดอยุ่แค่ว่าไม่เอาแล้วคนนี้ จากนั้นเราเริ่มเกริ่นทางแม่ผัวว่าเราอยากกลับไปอยุ่บ้านคะ แต่เค้าไม่ไห้เราไปง่าย ๆ พยายามให้เราปรับความเข้าใจ แต่ยังไงซ่ะเค้าจะไม่ยอมให้เอาหลานไป เราตอนนั้นเหมือนบ้าคะ จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ออกไปจากที่นี่ เราเลยไปคุยกับผช.ในเฟสบุ๊คคนนึ่ง ซึ่งเราแค่คุยเพื่อให้แฟนเราจับได้และเลิกกับเราคะ หลายคนคงคิดว่าทำไมเราไม่บอกเลิกไปตรงๆละ เราบอกแล้วคะ เราทำทุกอย่างแล้วเค้าไม่ยอมเลิกไม่ยอมปล่อยเราคะ รวมไปถึงไม่ยอมให้เรากลับบ้านไปพบพ่อแม่ด้วย และนี่เป็นวิธีสุดท้ายที่เราจะทำคะ คือการมีคนอื่น (ไม่ใช่เรื่องดีนะคะ ) แต่สุดท้ายทุกอย่างจบคะ แม่มารับเรากับลูกกลับบ้าน แฟนเราร้องไห้คะ ไม่อยากให้เราไป คงกลัวจะไม่มีคนตื่นมาหาข้าวให้กิน ซักผ้าให้ทำนุ้นทำนี่ให้ ละมั้ง เราก็ไม่ได้สนคะ จากวันที่ออกมาสิ่งแรกที่ทำคือบล้อคเฟสคะ บล้อคเบอร์และไลน์ แต่เค้าและครอบครัวก็ยังมาก่อกวนเราคะ รวมไปถึงขู่เราจะมาเอาหลานไปเพราะสิทธิ์ของเค้าที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด ก็ไม่ใช่ว่าเราโง่กฎหมายคะ เราไปบอกพ่อกับแม่เรา เค้าก็จัดการโทรไปหาทางครอบครัวแฟน และเรื่องทุกอย่างก็จบคะ ตั้งแต่ออกมาก็มาทำงานหาเงินเลี้ยงลูก แฟนไม่เคยมาสนใจคะ แต่พยายามเอาเฟสคนนู้นคนนี่มาง้อเรา ประมาณสามเดือนเต็ม เรารำคาณ บล้อกทุกทาง จนวันนึ่งเราก็ได้มาพบกับแฟนใหม่คะ เค้าดูเข้าใจเรา ดูมีเหตุผล แต่เราก็ไม่ได้ง่ายซ่ะทีเดียวเพราะด้วยการที่เราเจอความรักแย่ๆมาแล้ว ประกอบกับมีลูก เราคิดเยอะคะ เราคิดได้หลายทาง เราก้คุยบ้างไม่คุยบ้าง ตอบตามมารยาทบ้าง เราทำงานเป็นพนักงานบริการแห่งหนึ่งมีการเข้ากะนะค่ะ กะเช้า กะกลางคืน ช่วงนั่นเราเข้ากะกลางคืน ก็มีเค้าที่คอยโทรหาเรา เป็นห่วงเรา คุยกับเรายันเลิกงาน เป็นคนแรกที่เข้ามาจีบโดยไม่พูดถึงเรื่องลามก ทลึ่ง หรือม้อเลย เค้าชอบฟังเราพูดและชอบพูดถึงเรื่องชีวิตเค้า บางทีก็คุยกันทั้วๆไป จนบางทีเราก็ให้ใจเค้าไปโดยไม่รุ้ตัว รู้อิกทีคือรุ้สึกดีกับคนนี้มากๆ ไปแล้ว เราก็เลยเริ่มทำความรุ้จักและคบกันคะ คราวนี้เราไม่แอบคะ บอกให้พ่อกับแม่รุ้ไปเลยว่าเรามีแฟนใหม่แล้วคนนี้นิสัยเป็นไงหน้าตาเป็นไง แต่พ่อแม่เราก็ยังเหมือนเดิมคะ ไม่ยอมรับ กลัวเราไปเจอคนที่ไม่ดี กลัวเราจะทิ้งลูกไป เราบอกเลยว่าเราไม่คิดทิ้งลูกคะ ถ้ามีแฟนใหม่ก้ต้องยอมรับในตัวเราและลูกด้วย เราคบกันมาได้สักพัก เราก็มีอะไรกันเป็นเรื่องปกติคะ แต่ที่ไม่ปกติคือพ่อแม่รับไม่ได้คะ ที่เราไปนอนบ้านแฟน บอกเราทำตัวไม่มีค่า เราก็เลยตอบไปว่าอะไรๆยังไม่พร้อม ยังไม่อยากแต่ง แค่อยากดูๆกันไปว่าจะอยุ่กันได้ไหม แต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะแอบคบกันโดยคิดว่ามันเป็นความสบายใจของพ่อแม่ว่าเราไม่ได้ติดต่อกันแล้ว แฟนเราจะมาหาพ่อแม่เราก็ไม่กล้าให้มาคะ เรารุ้ว่าพ่อเราเป็นยังไง พ่อเราชอบคนมีตังคะ แต่แฟนเราไม่ได้มีเยอะ แต่ก็ไม่มาเบียดเบียนเราคะ แต่จะเป็นเราที่ซื้อให้เค้ากินบ้าง เค้าซื้อให้กินบ้าง ความรักครั้งนี้เลยค่อนข้างน่าอึดอัดคะ แต่เค้าก็ยังดีกับเรามาก เข้าใจเรา บางครั้งอาจจะไม่ได้คุยกันบ่อยมาก จนถึงตอนนี้คบกันมา7เดือนแล้วคะ เราบอกเลิกเค้ามา7ครั้ง ด่วยเหตุผลที่ว่าเราไม่อยากให้เค้ามาลำบากเพราะเรา อยากไห้เค้าไปเจอคนที่ดีกว่าเรา เพราะตัวเค้าเองก็อายุไม่มากและก้ไม่มีลูก ส่วนเรามีทั้งพาละ มีทั้งหน้าที่ แถมไม่มีเวลาเหมือนใครเค้า แต่เค้าก็ยังเลือกที่จะไม่ไปไหน ก็ยังอยุ่กับเรา เวลาทะเลาะกัน เค้าจะเป็นฝ่ายที่ง้อเราตลอด บางเค้าเราเครียดงานมาลงที่เค้า ก็ยังรับได้ยังเข้าใจ แต่ความที่เค้าดีถึงขนาดนี้มันทำให้เรารุ้สึกแย่ในเวลาเดียวกัน เราอยากจัทำให้เค้ารุ้สึกโชคดีที่มีเรา แต่ก็ทำไม่ได้ ความรักครั้งนี้ควรจะหยุดแค่นี่หรือควรจะไปต่อดีค่ะ
ควรหยุดไว้แค่นี้ หรือควรไปต่อดี ?
ย้อนไปเมื่อ7ปีที่แล้ว เราแอบคบกับแฟนคนนึ่งสมัยวัยรุ่น พ่อแม่เราเป็นคนหัวโบราณค่ะ คือไม่อยากให้มีแฟน และไม่ชอบให้ออกไปไหนถ้าเลิกเรียนคือต้องกลับบ้าน วันหยุดก้ต้องอยุ่บ้าน ไม่ค่อยชอบให้ติดเพื่อนและห้ามเพื่อนมาบ้าน เราตอนนั้นมันคืออึดอัดมากคะ เห็นเพื่อนๆไปไหนกันเราก็อยากไป มีแฟนก็อยากไปเที่ยวบ้าง ไปดูหนัง ไปกินข้าวบ้าง แต่ก็ทำได้แค่แอบไป 5-10 นาทีก็ต้องกลับเข้าบ้าน ช่วงนั้นเรากำลังขึ้นปี1 ต้องมีทำรายงานกลุ่ม ทำโครงงาน เราต้องกลับบ้านเย็นแทบทุกวัน และพ่อแม่ก็จะโทรตามเราทุกวัน เพื่อนๆในกลุ่มก็จะเริ่มพูดกันว่า ต้องตามขนาดนี้เลยหรอวะ เราในตอนนั้นก็ไม่เข้าใจพ่อแม่เช่นกัน รู้สึกว่าทำไมคนอื่นถึงมีอิสระทำไมถึงชีวิตดีกว่าเรา เพื่อนเราเลยแก้ไขปัญหาให้เราค่ะ โดยการไปทำรายงานที่บ้านเราแทน แต่ก็นะ เพื่อนๆกลุ่มเราส่วนมาก ก็จะออกแนวแรดๆ กัน เสียงดังวิ้ดว้าย แต่ไม่หยาบคายนะค่ะ พ่อเข้ามาในบ้านก็ไม่ค่อยพอใจคะ พอเพื่อนๆกลับก็บอกกับเราว่า ทีหลังอย่าพาเพื่อนมาบ้านอิก เหมือนมามั่วสุมกัน เราตอนนั้นไม่พอใจมากคะ เราไม่ได้ทำอะไรผิด เพื่อนเราก็ไม่ผิด ทำไมต้องมาว่าด้วย แต่ไม่ใช่แค่เรื่องนี้นะ ยังมีห้ามเราคบเพื่อนอิก เราเครียดเลยคะ เพราะในสังคมแบบนั้น วิทยาลัยอะค่ะ ถ้าเราไม่มีเพื่อนไม่มีสังคม มันจะเรียนจบไปได้ไง ในเมื่อการศึกษามันไม่ได้อยุ่แค่ห้องเรียนมันไม่ได้อยุ่ที่หนังสือเล่มเดียว แต่ในที่สุดเราก็เรียนไม่จบค่ะ ไม่ใช่เพราะเพื่อน และไม่ใช่เพราะหัวไม่ดีนะ เราออกเพราะเราเบื่อคะ เราอยากแหกกฎ เราอึดอัดคะ อะไรที่เป็นกฎเป็นกรอบเราแหกคะ ออกมาอย่างแรกคือหางานทำค่ะ ตอนนั้นอายุประมาณแค่15ปี แน่นอนว่าไม่มีที่ไหนรับเด็กคะ เราเลยอาศัยลงสมัครงานในนามของร.ร ส่งให้ค่ะ เลยได้มาทำงานในห้างแห่งหนึ่งเป็นร้านอาหาร ในใจคิดว่าดีค่ะ ทำงานในห้างไม่เหนื่อยหรอก แอร์เย็น สบาย แต่ไม่ใช่อย่างนั้นคะ ทำได้2วันแรก อยากออกเลยคะ งานหนักมาก เหนื่อยมาก ทำแม้งทุกอย่าง ทั้งล้างจาน เก็บโต๊ะ รับออเดอร์ ปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาด รวมถึงแบกขยะถุงใหญ่ๆ ไปทิ้ง รู้สึกแย่มากที่ออกร.รมา แต่ด้วยความทะเยอทะยาน อยากมีอยากได้คะ ช่วงนั้นจำได้ว่าที่กำลังฮิตๆเลยคือ โทรศัพท์ black berry( BB ) เห็นเพื่อนมี เห็นคนอื่นมีอยากได้คะ แต่พ่อแม่ไม่ซื้อให้เพราะเขาบอกมันเป็นของฟุ่มเฟือย ด้วยความที่เราอยากได้คะ อดทนกัดฟันทำงานจนถึงวันเงินออกเดือนแรกคะ ได้3000 เอาไปซิ้อโทรศัพท์คะ มือสอง ราคา3000 เป่ะ กลับมาบ้านแม่เจอคะ เลยโดนด่า หาว่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย หมดแล้วจะเอาที่ไหนซื้อกิน ในตอนนั้นเราไม่สนใจคะ เราคิดแต่ว่าเราอยากได้ก็คือต้องได้ พอเราได้สมใจแล้ว เป้าหมายเราต่อไปคืออยากกลับไปเรียนคะ เลยไปบอกพ่อกับแม่ บอกท่านว่าจะกลับไปเรียน แต่ขอเรียนเอกชน ค่าเทอมๆละ2,500 บาท พ่อกับแม่ไม่เห็นด้วยคะ เพราะสถานที่เรียนค่อนข้างไกล้ร.ร เด็กช่าง ช่วงนั่นมีข่าวตีกันคะ แต่คนละที่ ผู้ใหญ่ละเนอะ ก้ต้องคิดว่ามันเหมือนๆกัน เราก็ไม่ยอมแพ้คะ ไปทำงานเก็บเงินทำได้ประมาณสองเดือน เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีเงินพอที่จะไปสมัครเรียนละ เลยหยุดทำงานแล้วหันกลับมาเรียนคะ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นร.ร.ที่เราเลือก ค่อนข้างจะไม่ได้มาตรฐานคะ บางวิชาอาจารย์ไม่เข้า นักเรียนส่วนมาก นั่งคุยโทรสัพ และแต่งหน้าคะ เราเข้ามาแรก ๆก็ไม่ชินคะ เพราะเราไม่เคยเรียนร.รที่สบายขนาดนี้ แต่ก็เริ่มปรับตัวได้คะ ในตอนนั้นเราคิดว่าตัวเองเจ๋งดี ที่ทำตัวแหกกฎ ทำตัวแรดๆ แบบนั้น แต่แล้วเราก็เรียนไม่จบค่ะ เพราะเราตั้งท้อง กับแฟนที่เราบอกว่าแอบคบมาตลอดนั่นและคะ พ่อแม่ตกใจมาก ไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้ เห็นแต่ลูกชาวบ้านเป็น เราเองก็ไม่คิดคะว่าจะมีลูกตั้งแต่อายุไม่ถึง20 เราไม่ได้คิดถึงอะไรเลย คิดแค่ว่ามีและก็ต้องเลี้ยง แฟนเราและครอบครัวเค้าพร้อมรับผิดชอบเราคะ เพราะเค้ารู้มาตลอดว่าเราคบกัน พ่อแม่เราเค้าก็รู้คะแต่ไม่ยอมรับและก็ห้ามคบกันมาตลอด ช่วงนั้นเป็นอะไรที่อยากตายมากคะ ร้องไห้ทั้งวันเต็มๆ 7วัน เพราะพ่อรับไม่ได้พ่อด่าเราหยาบๆคายๆ บอกให้ไปเอาออกจะพาไป และจะเอาเรื่องแฟนคะ ตอนนั้นความคิดเราไม่อยากจะมีชีวิตอยุ่ต่อแล้ว แต่เราก็ไม่กล้าที่จะฆ่าตัวตาย เรากลัวคะ ก็ได้แต่อดทนรอว่าอะไรมันจะดีขึ้น หลังจากเรื่องเกิดประมาณสามวัน ครอบครัวแฟนมาขอเรากับพ่อแม่เราคะ ตกลงเรื่องสินสอดเสร็จ อิก1สัปดาห์ เราต้องเข้าพิธีผูกแขนตามประเพณีคะ และเราก็ได้เข้าไปอยุ่บ้านแฟนไปเป็นสมาชิกครอบครัว วันแรกเราร้องไห้คิดถึงแม่คะ เพราะเราไม่เคยห่างแม่ แม่ก็คิดถึงเราคะ แต่แม่ผัวเราเค้าเอาใจเราดีมากคะ พาเราไปนู้นนี่พาไปกินข้าว ทำกับข้าวให้กิน แฟนเราก็รักกันดีคะ ตอนนั้นชีวิตโคตรจะดีเลย มีความสุข แต่ความทุกข์ก็กำลังจะมาเยือนคะ เมื่อแฟนเปิดภาคเรียน เราไม่เคยระแวงคะ ไว้ใจ ตื่นมารีดผ้า หาข้าว ให้แฟน ทุกเช้า ตีสี่ตีห้าต้องตื่นมาทำ แต่แล้ววันนึ่งแฟนเราเปลี่ยนไปคะ เค้าทำตัวแปลกๆ เค้ากลับบ้านสองสามทุ่มทุกวันจากเมื่อก่อนกลับสี่โมงห้าโมง กลับมาก็นอนเล่นแต่โทรศัพท์ ขอจับโทรศัพท์ก้ไม่ไห้ เดินหนี รวมถึงใส่พาดเวิด เราก็เริ่มสงสัยเราถามดีๆ แต่กลับได้คำว่า อย่ามาหาเรื่อง เราขึ้นเลยคะ สุดท้ายทะเลาะกันเราร้องไห้เก็บเสื้อผ้ากลับบ้าน แล้วเราก็มารู้คะว่าแฟนเราแอบมีคนอื่นอยุ่ที่ร.รเค้า อาศัยว่าเราไว้ใจไม่เช็คโทรสัพท์ตอนนั้นเราไว้ใจมากคะ เราไม่เล่นเฟส ไม่เล่นไลน์ไม่เล่นบีด้วย โทรศัพท์มีไว้โทรเข้าออก พอเข้าไปดูอีกทีก็เลยรู้คะว่าเค้าคบคนอื่น ตอนนั้นนิสัยผญ.อะเนอะ โกรธคะ โวยวายโพสเฟส รวมถึงทักแชทผญ.คนนั้น ไป เค้าก็ตอบกลับมาว่าไม่รุ้ว่าแฟนเรามีเมียมีลูก แล้วเค้าก็ไปเลิกกับแฟนเราคะ แฟนเราก็กลับมาง้อเราและพาเรากลับบ้านโดยใช้อุบายเรื่องลูกในท้องมาทำให้เราใจอ่อนยอมให้อภัยเค้าอิกครั้ง แต่แน่นอนว่ามีครั้งแรกแล้วก็ต้องมาครั้ง2,3,4,5 และก็ครั้งแล้วครั้งเล่าๆๆ แต่เราทนคะทนมาตลอด6ปี จนมีวันนึ่ง เค้าตบตีเราคะ สาเหตุมาเนื่องจากวันนั่นเรากับน้องเอารถเค้าไปรับลูกที่ร.ร คะ และหมาวิ่งตัดหน้า รถล้มคะ เรากับลูกกระเด็นมากลางถนน น้องติดอยุ่ที่รถ รถวิ่งผ่านหัวเราไปเกือบเหยียบ ดีนะเค้าเบี่ยงทัน ตอนนั้นเจ็บเข่ามากคะเลือดออก ลูกมีแผลถลอกนิดหน่อย ไม่หนักคะ แต่เราก็ไม่ไปหาหมอคะ ล้างแผลเอา แฟนมาเห็นรถเค้า กระจกหัก และมีรอยที่รถนิดหน่อยคะ ไม่พอใจแถมด่าเราอิก เราก็เลยด่ากลับ ว่าแทนที่จะสนใจลูกเมีย ถามสักคำไหมว่าเจ้บมากไหมเป็นไรมากป่าว ไม่มีคะ ได้คำตอบกลับมาว่าก็เห้นยังยืนได้นิ่ เราโมโหมากจากนั้นเราก็ด่ากัน รวมถึงปาข้าวของใส่กัน และสิ่งที่เราไม่คิดว่าเค้าจะทำ มันเกิดขึ้นคะ เราตบตีเรา กระทืบเรา เตะต่อยไม่ยั้ง เราสุ้คะ แต่สู้ไม่ไหว ตอนนั้นเจ้บช้ำระบมไปหมด หายใจทีก็เจ้บช่วงซี่โครง เค้ามาขอโทดเราคะ เค้าบอกไม่ได้ตั้งใจ และก็ใช้เราไปหาข้าวไห้กิน ใช้เราไปช่วงยกงานยกถุงนุ้นนี่นั่น เราบอกเค้าว่าเราเจ้บเราทำไมไหว เค้าด่าเราว่าสำออยคะ จากนั้นมาความรู้สึกเรามันไม่เหมือนเดิมคะ มันเปลี่ยนไป เรานั่งมองหน้าลูก เราก็บอกกับตัวเองในใจว่า แม่จะเลี้ยงหนูคนเดียวให้ได้ จะทำให้ได้ ลูกเราไม่ติดพ่อนะคะ ติดเราคะติดมาก ลูกร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นเราตีกัน จากวันนั้นมาไม่นานคะ เราเริ่มวางแผนที่จะออกไปจากบ้านหลังนี้ โดยอันดับแรก เราติดต่อแม่เราคะ ว่าให้หาร.ร ไกล้บ้านไว้ให้ ต่อมาเราก็เริ่มทำตัวเย็นชาต่อแฟน ไม่สนใจไม่ใส่ใจรวมไปถึงไม่มีอะไรด้วย และก็ไม่ยอมให้มี จนแฟนเราสังเกตได้คะว่าเราเปลี่ยนไป เราไม่เหมือนเดิม แฟนเราพยายามเอาใจเราสารพัด ซื้อนุ้นนี่ให้ แต่ใจเรามันพอแล้วคะ คิดอยุ่แค่ว่าไม่เอาแล้วคนนี้ จากนั้นเราเริ่มเกริ่นทางแม่ผัวว่าเราอยากกลับไปอยุ่บ้านคะ แต่เค้าไม่ไห้เราไปง่าย ๆ พยายามให้เราปรับความเข้าใจ แต่ยังไงซ่ะเค้าจะไม่ยอมให้เอาหลานไป เราตอนนั้นเหมือนบ้าคะ จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ออกไปจากที่นี่ เราเลยไปคุยกับผช.ในเฟสบุ๊คคนนึ่ง ซึ่งเราแค่คุยเพื่อให้แฟนเราจับได้และเลิกกับเราคะ หลายคนคงคิดว่าทำไมเราไม่บอกเลิกไปตรงๆละ เราบอกแล้วคะ เราทำทุกอย่างแล้วเค้าไม่ยอมเลิกไม่ยอมปล่อยเราคะ รวมไปถึงไม่ยอมให้เรากลับบ้านไปพบพ่อแม่ด้วย และนี่เป็นวิธีสุดท้ายที่เราจะทำคะ คือการมีคนอื่น (ไม่ใช่เรื่องดีนะคะ ) แต่สุดท้ายทุกอย่างจบคะ แม่มารับเรากับลูกกลับบ้าน แฟนเราร้องไห้คะ ไม่อยากให้เราไป คงกลัวจะไม่มีคนตื่นมาหาข้าวให้กิน ซักผ้าให้ทำนุ้นทำนี่ให้ ละมั้ง เราก็ไม่ได้สนคะ จากวันที่ออกมาสิ่งแรกที่ทำคือบล้อคเฟสคะ บล้อคเบอร์และไลน์ แต่เค้าและครอบครัวก็ยังมาก่อกวนเราคะ รวมไปถึงขู่เราจะมาเอาหลานไปเพราะสิทธิ์ของเค้าที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด ก็ไม่ใช่ว่าเราโง่กฎหมายคะ เราไปบอกพ่อกับแม่เรา เค้าก็จัดการโทรไปหาทางครอบครัวแฟน และเรื่องทุกอย่างก็จบคะ ตั้งแต่ออกมาก็มาทำงานหาเงินเลี้ยงลูก แฟนไม่เคยมาสนใจคะ แต่พยายามเอาเฟสคนนู้นคนนี่มาง้อเรา ประมาณสามเดือนเต็ม เรารำคาณ บล้อกทุกทาง จนวันนึ่งเราก็ได้มาพบกับแฟนใหม่คะ เค้าดูเข้าใจเรา ดูมีเหตุผล แต่เราก็ไม่ได้ง่ายซ่ะทีเดียวเพราะด้วยการที่เราเจอความรักแย่ๆมาแล้ว ประกอบกับมีลูก เราคิดเยอะคะ เราคิดได้หลายทาง เราก้คุยบ้างไม่คุยบ้าง ตอบตามมารยาทบ้าง เราทำงานเป็นพนักงานบริการแห่งหนึ่งมีการเข้ากะนะค่ะ กะเช้า กะกลางคืน ช่วงนั่นเราเข้ากะกลางคืน ก็มีเค้าที่คอยโทรหาเรา เป็นห่วงเรา คุยกับเรายันเลิกงาน เป็นคนแรกที่เข้ามาจีบโดยไม่พูดถึงเรื่องลามก ทลึ่ง หรือม้อเลย เค้าชอบฟังเราพูดและชอบพูดถึงเรื่องชีวิตเค้า บางทีก็คุยกันทั้วๆไป จนบางทีเราก็ให้ใจเค้าไปโดยไม่รุ้ตัว รู้อิกทีคือรุ้สึกดีกับคนนี้มากๆ ไปแล้ว เราก็เลยเริ่มทำความรุ้จักและคบกันคะ คราวนี้เราไม่แอบคะ บอกให้พ่อกับแม่รุ้ไปเลยว่าเรามีแฟนใหม่แล้วคนนี้นิสัยเป็นไงหน้าตาเป็นไง แต่พ่อแม่เราก็ยังเหมือนเดิมคะ ไม่ยอมรับ กลัวเราไปเจอคนที่ไม่ดี กลัวเราจะทิ้งลูกไป เราบอกเลยว่าเราไม่คิดทิ้งลูกคะ ถ้ามีแฟนใหม่ก้ต้องยอมรับในตัวเราและลูกด้วย เราคบกันมาได้สักพัก เราก็มีอะไรกันเป็นเรื่องปกติคะ แต่ที่ไม่ปกติคือพ่อแม่รับไม่ได้คะ ที่เราไปนอนบ้านแฟน บอกเราทำตัวไม่มีค่า เราก็เลยตอบไปว่าอะไรๆยังไม่พร้อม ยังไม่อยากแต่ง แค่อยากดูๆกันไปว่าจะอยุ่กันได้ไหม แต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะแอบคบกันโดยคิดว่ามันเป็นความสบายใจของพ่อแม่ว่าเราไม่ได้ติดต่อกันแล้ว แฟนเราจะมาหาพ่อแม่เราก็ไม่กล้าให้มาคะ เรารุ้ว่าพ่อเราเป็นยังไง พ่อเราชอบคนมีตังคะ แต่แฟนเราไม่ได้มีเยอะ แต่ก็ไม่มาเบียดเบียนเราคะ แต่จะเป็นเราที่ซื้อให้เค้ากินบ้าง เค้าซื้อให้กินบ้าง ความรักครั้งนี้เลยค่อนข้างน่าอึดอัดคะ แต่เค้าก็ยังดีกับเรามาก เข้าใจเรา บางครั้งอาจจะไม่ได้คุยกันบ่อยมาก จนถึงตอนนี้คบกันมา7เดือนแล้วคะ เราบอกเลิกเค้ามา7ครั้ง ด่วยเหตุผลที่ว่าเราไม่อยากให้เค้ามาลำบากเพราะเรา อยากไห้เค้าไปเจอคนที่ดีกว่าเรา เพราะตัวเค้าเองก็อายุไม่มากและก้ไม่มีลูก ส่วนเรามีทั้งพาละ มีทั้งหน้าที่ แถมไม่มีเวลาเหมือนใครเค้า แต่เค้าก็ยังเลือกที่จะไม่ไปไหน ก็ยังอยุ่กับเรา เวลาทะเลาะกัน เค้าจะเป็นฝ่ายที่ง้อเราตลอด บางเค้าเราเครียดงานมาลงที่เค้า ก็ยังรับได้ยังเข้าใจ แต่ความที่เค้าดีถึงขนาดนี้มันทำให้เรารุ้สึกแย่ในเวลาเดียวกัน เราอยากจัทำให้เค้ารุ้สึกโชคดีที่มีเรา แต่ก็ทำไม่ได้ ความรักครั้งนี้ควรจะหยุดแค่นี่หรือควรจะไปต่อดีค่ะ