เนื่องจากเมื่อวานนี้แฟนเก่าชวนไปดูหนังเรื่อง Hereditary หลังจากที่เขาไปดูมาแล้ว 1 รอบ แล้วชอบมาก เลยมาชวนเราว่าจะต้องดูเรื่องนี้นะ เพราะหนังดี และน่ากลัวมาก เราก็เออๆ ไปก็ได้ฟระ ว่างพอดี... เขาบอกว่าดูกลางวันน่าจะดีสุด แต่เราแบบ หนังผีมันต้องกลางคืนสิ เขาเลยแบบ... เตือนละนะ แล้วหัวเราะแบบเสียงเหี้ยม!
ณ โรงหนัง Emquatier รอบ 19.30 น. ที่นั่ง Vp 1 และ VP 2
ช่วงแรกแรกของหนัง เรานั่งเอาหัวพิงเบาะแบบจะหลับ ละหาววอดๆ ทำไมหนังมันช้าเยื่ยงนี้.... ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงใหนเลย จนต้องหันไปเอาหัวพิงใหล่คนข้างๆแบบจะหลับละนะ... พอหลังจากตัวละครหลักตายเท่านั้นแหละ ความหลอนก็เริ่มขึ้น!!!
ความหลอนที่ว่านี้ไม่ได้มาจาก Jump scare แบบหนังแมสทั่วๆไป แต่มาจากความน่ากลัวของตัวละคร การกระทำหลายอย่างมันทำให้เรากลัวจนแทบอยากจะร้องให้ มันเป็นความรู้สึกแบบกลัวจริงๆ ไม่ใช่แบบตกใจละร้องกรี้ดๆ หนังค่อยๆสร้างบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจมาเรื่อยๆ ทำให้เรารู้สึกอึดอัดทีละนิด และมาระเบิดทุกอย่างออกมาอย่างบ้าคลั่งตอน 20 นาทีสุดท้าย.... เราแบบนั่งจิกมือ เกร็งเท้า กลั้นหายใจ เอาผ้าห่มปิดตา จนมีฉากนึกแบบเราร้องแบบเหมือนจะร้องให้ แบบกุไม่ใหวละนะอิห่าน พอเหอะ! คนข้างๆเห็นเราจะร้องให้นี่นั่งหัวเราะคิกๆ จนโดนเราทุบไปหลายรอบตอนหนังจบ เบาะถัดไปได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้แล้วผู้ชายปลอบตอนเจอฉากนั้นเลย คือมันสุดจริงๆ
เราเดินออกมาจากโรงด้วยอารมณ์ค้างๆ ขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก กลับมาบ้านยังตะขิดตะขวงใจ ต้องเปิดไฟนอนในรอบหลายปีเพราะไม่เคยดูหนังผีแล้วรู้สึกกลัวการอยู่คนเดียวมากขนาดนี้....
อยากบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่สำหรับทุกคน คนชอบคือชอบ คนเกลียดคือเกลียด แต่ใครที่ชอบดูหนังแบบใช้ความคิด ดูหนังแบบมีศิลปะ ดูหนังแบบอาร์ตๆ ชอบเก็บลายละเอียด ให้ตีตั๋วเข้าโรงโลดดดดด!! แต่ถ้าใครชอบดูหนังผีแบบที่น่ากลัวๆแล้วต้องเข้าไปในโรงละตกใจจนร้องกรี้ดๆ เราไม่เนะนำ เพราะคงไม่ถูกจริตคุณแน่นอน
เรื่องนี้สำหรับเรา เอาไป 9/10 เพราะเราชอบจริง หัก 1 คะแนนเพราะช่วงแรกอืด แต่ก็เข้าใจว่ามันต้องเก็บรายละเอียดจริงๆ
สปอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราเชื่อว่าตั้งแต่เปิดเรื่องหลายคนพุ่งเป้าไปที่ชาร์ลีว่าต้องมีอะไร ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ถูกแค่ครึ่งเดียว เราเองก็เหมือนกัน ขนาดตอนโดนชนหัวขาดยังคิดในใจเลยว่า ไม่จริงมั้ง... ดูจบแล้วมาดูอีกรอบถึงได้รู้ว่ามันมีการบอกใบ้ทุกอย่างไว้ตั้งแต่เริ่มปูเรื่องละ ทั้งแสงกระพริบที่ตามชาร์ลีไปทุกที่ ทั้งนกที่บินมาชนกระจกตาย ตอนตัดหัวนกมต่อกับตุ๊กตา ทั้งรูปนกสวมมงกุฏที่วาดไว้ แล้วก็เสาไฟที่ชนก็มีสัญลักษณ์ลัทธิบ้านั่นอยู่ เรามองว่าปีศาจได้เข้าสิงชาร์ลีมานานมากแล้ว คือน่าจะสิงไปพรางๆแล้วรอร่างที่เป็นผู้ชาย เพราะตอนจบจะเห็นว่าแสงสีขาวได้เข้าร่างของปีเตอร์แล้วสลายไปกับร่าง ไม่ได้แค่คอยตามไปรอบๆเหมือนที่ตามชาร์ลี แถมฉากสุดท้ายชาลีมองศพแม่ตัวเองที่หัวขาด ยัยป้าโจนส์ก็เรียกว่าชาร์ลี แล้วปลอบว่าไม่เป็นไร
ตัวแม่เองนี่กลายเป็นเหมือนคนบ้า แต่ความจริงไม่น่าเอาของเข้าบ้านเลย น่าจะเอะใจสักนิดว่าการเชิญวิญญาณมันไม่ใช่แค่ลูกตัวเองที่จะเข้ามา มันเหมือนเปิดประตูให้สิ่งไม่ดีเข้ามาได้ด้วย แต่ชาร์ลีเองก็เหมือนโดนเอาวิญญาณตัวเองไปรวมกับคิงเพมอนตั้งแต่ยังไม่ตายแล้ว มันยิ่งไปกันใหญ่ คิงเพมอนเป็นถึงหนึ่งในแปดราชาของแดนนรก เรื่องมันเลยเถิดขนาดนี้ก็น่าคิดอยู่ เพราะเป็นปีศาจที่น่าจะร้ายมากๆตัวนึง เราสังเกตุตอนสามีนางตาย นางกรี้ดแล้วจิดนางหลุด มีสงวาปผ่านร่างนาง นางหุบปากทันทีเพราะน่าจะโดนสิงไปแล้วเรียบร้อย ยิ่งฉากหั่นคอตัวเองนี่ เราแทบร้องให้ เสียวคอมาก
ส่วนปีเตอร์คงน่าสงสารสุด ขนาดน้องตายยังไม่กล้าบอกใคร แล้วโดนแม่โยนความผิดให้อีก ยิ่งตอนโดนแม่วิ่งตาม แล้วนางกลัวแบบสุดขีด จากที่เรียกแม่ว่า Mom กลับเรียกว่า Mommy เหมือนที่เคยเรียกตอนเด็กๆ เราคิดว่าวิญญาณปีเตอร์คงแตกเป็นเสียงๆตั้งแต่โดนยัยป้าโจนส์มาตะโกนไล่แล้ว พอกลับบ้านมาเจอคอมโบชุดใหญ่สติเตลิดจนหมดเลยโดนยืดร่างเหมือนกับที่แม่โดน แต่หนักกว่าตรงที่โดนยืดไปกลับเป็นวิญญาณน้องสาวที่หลอมรวมกับคิงเพมอนมายืดแทน เราคิดว่าปีเตอร์ตายไปแล้วเรียบร้อย
ตัวพ่อนี่ตอนแรกเรางงมาก ดูมีสติสุดทั้งๆที่เจอเรื่องแบบี้ แต่พอไปรับปีเตอร์กลับจากโรงเรียนตอนรถติดไฟแดงแล้วนางปล่อยโฮนี่สงสารมาก คงอารมณ์แบบ กุไม่ใหวแล้วนะ เป็นเราคงจะไม่กลับบ้านแน่นอน เพราะเห็นว่าแอนนี่น่ากลัวตั้งแต่ตอนเรียกชาร์ลีมาละ คงขับพาลูกหนีไปที่อื่นก่อน แต่นี่นางเลือกที่จะกลับบ้านทั้งๆที่ก็สงสัยแล้วว่าเมียไม่ปรกติ สุดท้ายโดนย่างเกรียมเลย สาสาร....
HEREDITARY ประสบการณ์ดูหนังแบบแทบหยุดหายใจ.... ขนาดที่ต้องเข้าไปดูซ้ำรอบ 2 ในวันถัดไป
ณ โรงหนัง Emquatier รอบ 19.30 น. ที่นั่ง Vp 1 และ VP 2
ช่วงแรกแรกของหนัง เรานั่งเอาหัวพิงเบาะแบบจะหลับ ละหาววอดๆ ทำไมหนังมันช้าเยื่ยงนี้.... ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงใหนเลย จนต้องหันไปเอาหัวพิงใหล่คนข้างๆแบบจะหลับละนะ... พอหลังจากตัวละครหลักตายเท่านั้นแหละ ความหลอนก็เริ่มขึ้น!!!
ความหลอนที่ว่านี้ไม่ได้มาจาก Jump scare แบบหนังแมสทั่วๆไป แต่มาจากความน่ากลัวของตัวละคร การกระทำหลายอย่างมันทำให้เรากลัวจนแทบอยากจะร้องให้ มันเป็นความรู้สึกแบบกลัวจริงๆ ไม่ใช่แบบตกใจละร้องกรี้ดๆ หนังค่อยๆสร้างบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจมาเรื่อยๆ ทำให้เรารู้สึกอึดอัดทีละนิด และมาระเบิดทุกอย่างออกมาอย่างบ้าคลั่งตอน 20 นาทีสุดท้าย.... เราแบบนั่งจิกมือ เกร็งเท้า กลั้นหายใจ เอาผ้าห่มปิดตา จนมีฉากนึกแบบเราร้องแบบเหมือนจะร้องให้ แบบกุไม่ใหวละนะอิห่าน พอเหอะ! คนข้างๆเห็นเราจะร้องให้นี่นั่งหัวเราะคิกๆ จนโดนเราทุบไปหลายรอบตอนหนังจบ เบาะถัดไปได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้แล้วผู้ชายปลอบตอนเจอฉากนั้นเลย คือมันสุดจริงๆ
เราเดินออกมาจากโรงด้วยอารมณ์ค้างๆ ขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก กลับมาบ้านยังตะขิดตะขวงใจ ต้องเปิดไฟนอนในรอบหลายปีเพราะไม่เคยดูหนังผีแล้วรู้สึกกลัวการอยู่คนเดียวมากขนาดนี้....
อยากบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่สำหรับทุกคน คนชอบคือชอบ คนเกลียดคือเกลียด แต่ใครที่ชอบดูหนังแบบใช้ความคิด ดูหนังแบบมีศิลปะ ดูหนังแบบอาร์ตๆ ชอบเก็บลายละเอียด ให้ตีตั๋วเข้าโรงโลดดดดด!! แต่ถ้าใครชอบดูหนังผีแบบที่น่ากลัวๆแล้วต้องเข้าไปในโรงละตกใจจนร้องกรี้ดๆ เราไม่เนะนำ เพราะคงไม่ถูกจริตคุณแน่นอน
เรื่องนี้สำหรับเรา เอาไป 9/10 เพราะเราชอบจริง หัก 1 คะแนนเพราะช่วงแรกอืด แต่ก็เข้าใจว่ามันต้องเก็บรายละเอียดจริงๆ
สปอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้