วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์การตั้งครรภ์และการผ่าคลอดของตัวเอง กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของ จขกท
หากมีผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ขอเกริ่นนิดหนึ่งก่อนว่าเมื่อต้นปี 60 จขกท เอง ได้ผ่าตัดท้องนอกมดลูกด้วยการผ่าตัดท่อนำไข่ข้างซ้ายทิ้งและผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกไปพร้อมกัน ตอนนั้นความรู้สึกมันแย่มาก ตอนนั้นเสียใจมากเพราะปล่อยมีน้องมาเป็นปี พอติดก็ดันท้องนอกมดลูกและดันตรวจเจอว่าตัวเองเป็นเนื้องอกอีก !!!
หลังผ่าตัดเสร็จกลับบ้าน คุณหมอนัดตรวจแผล 7 วันก็ไปตรวจตามปกติรวมถึงถามคุณหมอว่าถ้าอยากตั้งครรภ์อีกจะปล่อยได้เมื่อไหร่ คุณหมอเองก็แนะนำอยากให้พักสัก 4-5เดือน แต่ด้วยความที่เราใจร้อน เราพักไปแค่ 2 เดือนเท่านั้นแล้วก็เริ่มปฏิบัติการตรวจวันไข่ตกและทำการบ้าน (จริงๆไม่ควรทำนะคะ) เราตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ในรอบนั้นเลย ตอนนั้นตื่นเต้นมากพาสามีไปฝากครรภ์ในวันนั้นเลยค่ะ ระหว่างซักประวัติก็แอบโดนพยาบาลดุนิดหน่อยที่ปล่อยเร็วเกินไป พยาบาลเลยติดสติ๊กเกอร์หน้าสมุดชมพูให้ว่าเป็นครรภ์เสี่ยง ดีใจได้ไม่พ้นวันก็ต้องเครียดอีกแล้วค่ะ เพราะคุณหมอให้อัลตราซาวด์เช็คดูว่ารอบนี้จะอยู่ข้างในหรือข้างนอกมดลูก แต่ปรากฎว่าไม่เจอทั้งข้างในและข้างนอก ไม่พบถุงตั้งครรภ์ ทั้งๆถ้านับตามประจำเดือนก็ 5 week ควรเจอถุงตั้งครรภ์ได้แล้ว!!!!
ตอนนั้นใจเสียมากค่ะ หน้าชาไปหมด คุณหมอเลยนัดต่ออีก 2สัปดาห์แล้วมาซาวด์อีกรอบ เราใจจดใจจ่อ หาข้อมูลในเน็ตไปก็เจอแต่ ท้องลมบ้าง ท้องไข่ปลาอุกบ้าง ยิ่งทำให้ขวัญเสียไปหมด....และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง เราไปตามนัดแต่เช้าเพื่อรออัลตร้าซาวด์ รอบนี้เจอถุงแล้วค่ะ อยู่ในมดลูกแต่ดันไม่มีหัวใจ หมอก็ขอเจาะเลือดวันเว้นวัน เพื่อดูค่า HCG แล้วนัดต่ออีก 1สัปดาห์มาอัลตร้าซาวด์ดูอีกครั้ง บอกตรงๆว่าความรู้สึกตอนนั้นมันเครียดไปหมด เราคิดมากและร้องไห้เกือบทุกวัน กลัวต้องแท้งลูกไปอีก จนถึงวันที่หมอนัด.......แล้วในที่สุดก็เจอหัวใจสักที !!!!
อายุครรภ์จริงตอนนั้นคือ 8week เนื่องจากไข่น่าจะตกช้า ทำให้อายุครรภ์เคลื่อนค่ะ เรากับสามีดีใจมาก จากเครียดๆก็ยิ้มกันออก พากันไปฉลอง ไปทำบุญและบอกครอบครัวของเราทั้งคู่ แต่เดี๋ยวก่อนมันไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น !!!!! เรามีเลือดออกในวันถัดไปค่ะ เราเลยต้องลางานไปคลินิคเพื่อไปอัลตร้าซาวด์ดูอีกรอบแล้วผลก็ปรากฎว่าเรามีภาวะแท้งคุกคาม !!! คุณหมอให้ฉีดยากันแท้งทุกสัปดาห์จนกว่าเลือดจะหยุดไหล แต่คุณหมอก็แอบกระซิบว่าการฉีดยากันแท้งไม่สามารถกันแท้งได้ 100% หากว่าความผิดปกตินั้นอยู่ที่เด็กไม่ได้อยู่ที่ฮอโมนของคุณแม่ ถึงจะใจเสียแต่ก็ขอฉีดเพื่อความสบายใจ เราฉีดตั้งแต่ครรภ์ 8week จน12week เลือดจึงหยุดไหลแล้วก็พบว่าน้องยังอยู่ปกติ ระหว่างนั้นมีอาการแพ้ท้องมาก อาเจียนทุกครั้งที่กินอาหาร กินอะไรไม่ลง น้ำหนักลดไป 5kg ใน3เดือนแรก ระหว่างนี้หมอที่ รพ.ฝากครรภ์ก็นัดเราไปตรวจทุกเดือนปกติค่ะ ทุกอย่างดูเหมือนจะดีใช่ไหมค่ะ !!?
แต่ไม่ค่ะ......ความดันเราขึ้นสูงค่ะอยู่ที่ 140 จริงๆเริ่มสูงตั้งแต่2-3เดือนแรกแล้วแต่ว่าขึ้นอยู่ประมาณ 130 พอมาเดือนที่ 4 ความดันไม่มีท่าที่ว่าจะลดลง คุณหมอสูติเลยส่งตัวให้ไปคุยกับคุณหมออายุรกรรม เนื่องด้วยกลัวว่าหากความดันยังสูงขึ้นอยู่แบบนี้จะครรภ์เป็นพิษ คุณหมออายุรกรรมก็ให้ทานยาลดความดันวันละครึ่งเม็ดในตอนแรก และนัดทุก 2 อาทิตย์ (นัดพร้อมแผนกสูติ) แต่ความดันก็ไม่ได้ลดลงแต่ยังใด แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น ทางคุณหมอสูติให้ตรวจปัสสาวะหาโปรตีนว่ารั่วหรือไม่ ผลออกมาไม่รั่ว และคุณหมออายุรกรรมก็เพิ่มยาจากกินวันละครึ่งเม็ด เป็นวันละ1เม็ด
เข้าเดือนที่ 5 ของการตั้งครรภ์
โดนตรวจหาเบาหวาน ได้ค่าน้ำตาลมา 140 เลยโดนนัดเจาะ 4 เข็มอีก 1 อาทิตย์ ตอนนั้นหาข้อมูลทุกอย่างว่าทำยังไงไม่ให้น้ำตาลสูง ส่วนตัวเป็นคนติดของหวานมาก กินโกโก้เกือบทุกวัน ตอนนั้นเราเลยงดของหวานทั้งหมดเลยค่ะ ปรากฎว่าไม่เป็นเบาหวานค่ะ แต่ว่า.....ความดันไม่ลดลงนะค่ะ !!!
ประครองครรภ์กันมาเรื่อยๆ จนเข้าเดือนที่ 8 ค่ะ คุณหมอก็คุยเรื่องการคลอด ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะคลอดเอง แต่ด้วยความที่ท้องใหญ่มากคุณหมอกลัวคลอดเองไม่ไหว (เราลืมบอกคุณหมอเรื่องผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกเลยได้แจ้งคุณหมอในวันนั้นไปด้วย) สรุปคุณหมอให้ผ่าคลอดค่ะ จริงๆกำหนดคลอดเราวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เราอยากให้น้องคลอดวันนี้ อยากประครองไปจนถึง 40weekด้วยซ้ำ แต่คุณหมอดันนัดก่อน คุณหมอนัดผ่าคลอดแบบบล็อกหลังวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561
วันแห่งการรอคอยมาถึงแล้ววววววว 
คุณหมอนัดนอนที่ รพ.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ตั้งแต่เที่ยงแล้วให้งดน้ำ งดอาหารตั้งแต่ 6 โมงเย็น ระหว่างรอคลอดก็ให้ทานยาความดันปกติ ตอนนั้นเรากับสามีตื่นเต้นกันมาก เตรียมทั้งเสื้อผ้าลูก ของลูก กล้องถ่ายรูปเอาไว้อย่างดี กำหนดคลอดเราวันที่ 5 ตอน 9โมง แต่ทางพยาบาลขอให้ตื่น6 โมงเพื่อเตรียมตัวก่อนไปห้องคลอด
Welcom to the big world !!! 
เราเองตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ วันนั้นหลับๆตื่นๆ จนตี 5 ก็ไปอาบน้ำแต่งตัวรอพยาบาล อารมณ์มันทั้งกลัวก็กลัว อยากเจอก็อยากเจอ อธิบายไม่ถูก พอ6 โมงกว่าๆ พยาบาลก็เข้ามาทำธุระ โกนขน สวนอุจาระให้ สัก1ชั่วโมงได้ก็มาสวนปัสสาวะ ขอบอกว่าการสวนปัสสาวะนี้เจ็บมากกกกกก !!!! เจ็บจนน้ำตาไหล เราโดนสวนเกือบเป็นชั่วโมง พยาบาลคนแรกมาสวนให้เราแต่เหมือนมันไม่เข้า แทงเข้าแทงออกจนเราอยากร้องไห้ พยาบาลคนที่2 มาช่วยแทง ไม่เจ็บเท่าคนแรก แต่.................เรากลับปัสสาวะไม่ออก !!!!
เราให้สามีไปตามพยาบาลมาอีกรอบเพราะเรารู้สึกปวดปัสสาวะแต่มันไม่ออกและเจ็บมากกกก พยาบาลคนแรกที่สวนปัสสาวะเข้ามา ในใจเราภาวนาว่า ไม่เอาคนนี้แล้วได้ไหม ฮืออออออ TT
เหมือนสวรรค์จะเห็นใจ คุณพยาบาลไปตามอีกท่านมา ดูจากลักษณะน่าจะเป็นหัวหน้าพยาบาล คุณหัวหน้าคนนี้สวนให้จึ๊กเดียวเสร็จ เจ็บแบบแปปเดียวเสร็จ โล่งเลยค่ะ (ทำไมไม่เอามาทำให้แต่แรกกกกกกกก

) อยากขอบอกเลยค่ะว่าถ้าทนสวนปัสสาวะได้ การผ่าตัดบล็อกหลังนี้จิ๊บๆไปเลยค่ะ
ตอนนี้เราอยู่ในห้องผ่าคลอดแล้วคะ ตื่นเต้นมาก กลัวด้วย แต่คุณหมอและพยาบาลที่นี้ใจดีทุกคนค่ะ ขึ้นตอนการบล็อกหลังก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร คุณหมอจะให้เรานอนตะแคงแล้วห่อตัวให้ได้มากที่สุด จากนั้นคุณหมอก็จะฉีดยาบล็อกหลัง ขอบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะตอนโดนเข็ม (เจาะสายน้ำเกลือยังเจ็บกว่าเสียอีก) ไม่ถึงนาทีก็จะเริ่มชาค่ะ คุณหมอจะเอาสำลีชุบแอลกอฮอลแล้ววนๆที่แขน พร้อมถามเราว่าเรารู้สึกไหม ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกค่ะว่ารู้สึกในที่นี้คือยังไง เราก็ตอบหมอไปว่ารู้สึก (ก็เรารู้สึกว่ามีสำลีมาวนๆที่แขนจริงๆนี่นา TT) คุณหมอก็ถามอีกว่าแล้วเย็นไหม ? เราก็ตอบกลับไปว่าไม่เย็นแต่รู้สึกค่ะ .
คุณหมอได้ยินอย่างนั้นเลยขอมีดจากพยาบาลแล้วเริ่มผ่าเลย แต่ด้วยความที่เรากลัวเราเลยบอกคุณหมอไปว่า.....คุณหมอค่ะอย่าเพิ่งค่ะยังรู้สึกอยู่เลยค่ะ !!! (จริงๆคือไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ คุณหมอลงมีดไปแล้ว) คุณหมอก็พูดตอบกลับมาว่าลงมีดไปแล้ว !!!! เราจึงรู้ว่า อ๋อออออ จริงๆคือมันชาไปแล้ว แหะๆ
คุณหมอก็ชวนคุยไปเรื่อยๆค่ะ จนเจอน้อง ทุกคนในห้องต่างตกใจ (ทำเราใจเสียไปด้วย) แล้วทุกคนก็อุทานกันว่าตัวใหญ่มาก คุณหมอต้องให้ คุณหมออีกท่านที่อยู่ในห้องช่วยกันขย่มเอาเด็กออก ตอนโดนขย่มรู้สึกเหมือนคนจะจมน้ำเลย
ในที่สุดก็ออกมาแล้วค่ะ ทุกคนในห้องต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตัวใหญ่มาก เหมือนเด็ก 3 เดือนเลย แล้วพยาบาลก็เอาน้องมาแนที่หน้าให้หอมลูก ตอนนั้นน้องถูกห่ออยู่เราก็ดูไม่ออกว่าตัวใหญ่ตรงไหน 555+ แต่วินาทีนั้นมันเหมือนในละครที่เราดูมาเลย ภาพที่เราเคยเห็นคนคลอดลูกเมื่อเห็นลูกแล้วดีใจจนน้ำตาไหล เราเป็นแบบนั้นเลย ไม่รู้มันไหลมายังไงแต่มันไหลเอง
เสร็จจากคลอดน้องเราได้กลับมาที่ห้อง แต่น้องไม่ได้กลับมาด้วย คุณหมอแจ้งว่าน้องหายใจเร็วและน้ำตาลในเลือดต่ำ ต้องรอดูอาการถ้าน้ำตาลปกติแล้วก็จะพามาหาวันพรุ่งนี้เช้า ตอนนั้นก็แอบใจแป่วแต่ก็หวังว่าพรุ่งนี้เขาก็คงเอาลูกมาหาเรา จนเช้าอีกวันเราก็ได้ยินเสียงเด็กร้องนะ ใจก็คิดว่าต้องมีลูกของเราแน่ๆ แต่ไม่ค่ะเป็นของห้องอื่น ลูกเราไม่ได้มา สามีไปดูลูกเราตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะที่ห้อง NICU แอบถ่ายรูปมาให้ดู น้องหนัก 4190g ลูกโดนเจาะให้น้ำเกลือที่หัวในวันแรกๆ ตอนเห็นรูปนั้นน้ำตาไหล สงสารลูกมาก ระหว่างนั้นเรายังเดินไม่ไหวเพราะตึกNICUกับตึกพักฟื้นอยู่คนละตึกกัน เราทำได้แค่ปั้มนมแล้วให้สามีเอาไปส่งให้ลูก แรกๆลูกเรากินนมผงจากโรงพยาบาลค่ะเนื่องจากน้ำนมเรายังไม่ค่อยมา จนวันที่ 2 พยายามไปดูลูกที่ห้อง NICU มือและเท้าลูกมีแต่รอยเจาะ แค่เราเห็นรอยก็น้ำตาไหลแล้วค่ะ ไม่อยากนึกถึงว่าเขาจะเจ็บขนาดไหน เด็กตัวแค่นี้แต่ต้องโดนเจาะทุกเช้า-เย็น เราได้พักฟื้นอยู่3วันก็ออกจากโรงพยาบาลค่ะ แต่ลูกเรายังไม่ได้ออกเพราะว่าน้องน้ำตาลยังต่ำอยู่

เราก็ปั้มนมแล้วเอาไปส่งลูกที่โรงพยาบาลเหมือนเดิม แต่หลังกลับจากโรงพยาบาลได้1วัน พยาบาลก็โทรเข้ามือถือของสามีค่ะ ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจมากน้ำตามันไหลออกมาเฉย เขาโทรมาตอนเกือบ2ทุ่มแล้ว เรานึกว่าลูกเราเป็นอะไร แต่ที่ไหนได้เขาให้เข้ามาเรียนอาบน้ำลูก วิธีดูแลลูก เพราะอาจจะได้กลับบ้านพรุ่งนี้หากคืนนี้ถอดน้ำเกลือแล้วน้ำตาลไม่ต่ำ
วันรุ่งขึ้นเราไปโรงพยาบาลแต่เช้าเลยค่ะ เพื่อหวังว่าจะได้ไปรับลูกกลับบ้านไวๆ แต่ที่ไหนได้เราต้องรอคุณหมอมาตรวจและเจาะน้ำตาลรอบเช้าก่อน กว่าจะรู้ผลก็เที่ยง และแล้วน้องก็ได้กลับบ้านค่ะ ปัจจุบันน้องอายุได้ 4 เดือนกว่าแล้ว แข็งแรงมากค่ะ ไม่ป่วย ไม่ไข้ ทึกมาก !!!!! 5555+

เอาไว้มีโอกาสจะมาแชร์ประสบการณ์จากเด็กนมผงสู่เด็กนมแม่100% นะค่ะ
สุดท้ายนี้อยากขอเป็นกำลังใจให้ว่าที่คุณแม่ทุกคนที่อาจจะกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนกับเรา ขอให้ทุกคนผ่านมันไปได้อย่างสบายและเชื่อมันในความหวังอยู่เสมอค่ะ 
แชร์ประสบการณ์การตั้งครรภ์เสี่ยงและการผ่าคลอด
หากมีผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขอเกริ่นนิดหนึ่งก่อนว่าเมื่อต้นปี 60 จขกท เอง ได้ผ่าตัดท้องนอกมดลูกด้วยการผ่าตัดท่อนำไข่ข้างซ้ายทิ้งและผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกไปพร้อมกัน ตอนนั้นความรู้สึกมันแย่มาก ตอนนั้นเสียใจมากเพราะปล่อยมีน้องมาเป็นปี พอติดก็ดันท้องนอกมดลูกและดันตรวจเจอว่าตัวเองเป็นเนื้องอกอีก !!!
หลังผ่าตัดเสร็จกลับบ้าน คุณหมอนัดตรวจแผล 7 วันก็ไปตรวจตามปกติรวมถึงถามคุณหมอว่าถ้าอยากตั้งครรภ์อีกจะปล่อยได้เมื่อไหร่ คุณหมอเองก็แนะนำอยากให้พักสัก 4-5เดือน แต่ด้วยความที่เราใจร้อน เราพักไปแค่ 2 เดือนเท่านั้นแล้วก็เริ่มปฏิบัติการตรวจวันไข่ตกและทำการบ้าน (จริงๆไม่ควรทำนะคะ) เราตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 ในรอบนั้นเลย ตอนนั้นตื่นเต้นมากพาสามีไปฝากครรภ์ในวันนั้นเลยค่ะ ระหว่างซักประวัติก็แอบโดนพยาบาลดุนิดหน่อยที่ปล่อยเร็วเกินไป พยาบาลเลยติดสติ๊กเกอร์หน้าสมุดชมพูให้ว่าเป็นครรภ์เสี่ยง ดีใจได้ไม่พ้นวันก็ต้องเครียดอีกแล้วค่ะ เพราะคุณหมอให้อัลตราซาวด์เช็คดูว่ารอบนี้จะอยู่ข้างในหรือข้างนอกมดลูก แต่ปรากฎว่าไม่เจอทั้งข้างในและข้างนอก ไม่พบถุงตั้งครรภ์ ทั้งๆถ้านับตามประจำเดือนก็ 5 week ควรเจอถุงตั้งครรภ์ได้แล้ว!!!!
ตอนนั้นใจเสียมากค่ะ หน้าชาไปหมด คุณหมอเลยนัดต่ออีก 2สัปดาห์แล้วมาซาวด์อีกรอบ เราใจจดใจจ่อ หาข้อมูลในเน็ตไปก็เจอแต่ ท้องลมบ้าง ท้องไข่ปลาอุกบ้าง ยิ่งทำให้ขวัญเสียไปหมด....และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง เราไปตามนัดแต่เช้าเพื่อรออัลตร้าซาวด์ รอบนี้เจอถุงแล้วค่ะ อยู่ในมดลูกแต่ดันไม่มีหัวใจ หมอก็ขอเจาะเลือดวันเว้นวัน เพื่อดูค่า HCG แล้วนัดต่ออีก 1สัปดาห์มาอัลตร้าซาวด์ดูอีกครั้ง บอกตรงๆว่าความรู้สึกตอนนั้นมันเครียดไปหมด เราคิดมากและร้องไห้เกือบทุกวัน กลัวต้องแท้งลูกไปอีก จนถึงวันที่หมอนัด.......แล้วในที่สุดก็เจอหัวใจสักที !!!!
อายุครรภ์จริงตอนนั้นคือ 8week เนื่องจากไข่น่าจะตกช้า ทำให้อายุครรภ์เคลื่อนค่ะ เรากับสามีดีใจมาก จากเครียดๆก็ยิ้มกันออก พากันไปฉลอง ไปทำบุญและบอกครอบครัวของเราทั้งคู่ แต่เดี๋ยวก่อนมันไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น !!!!! เรามีเลือดออกในวันถัดไปค่ะ เราเลยต้องลางานไปคลินิคเพื่อไปอัลตร้าซาวด์ดูอีกรอบแล้วผลก็ปรากฎว่าเรามีภาวะแท้งคุกคาม !!! คุณหมอให้ฉีดยากันแท้งทุกสัปดาห์จนกว่าเลือดจะหยุดไหล แต่คุณหมอก็แอบกระซิบว่าการฉีดยากันแท้งไม่สามารถกันแท้งได้ 100% หากว่าความผิดปกตินั้นอยู่ที่เด็กไม่ได้อยู่ที่ฮอโมนของคุณแม่ ถึงจะใจเสียแต่ก็ขอฉีดเพื่อความสบายใจ เราฉีดตั้งแต่ครรภ์ 8week จน12week เลือดจึงหยุดไหลแล้วก็พบว่าน้องยังอยู่ปกติ ระหว่างนั้นมีอาการแพ้ท้องมาก อาเจียนทุกครั้งที่กินอาหาร กินอะไรไม่ลง น้ำหนักลดไป 5kg ใน3เดือนแรก ระหว่างนี้หมอที่ รพ.ฝากครรภ์ก็นัดเราไปตรวจทุกเดือนปกติค่ะ ทุกอย่างดูเหมือนจะดีใช่ไหมค่ะ !!?
แต่ไม่ค่ะ......ความดันเราขึ้นสูงค่ะอยู่ที่ 140 จริงๆเริ่มสูงตั้งแต่2-3เดือนแรกแล้วแต่ว่าขึ้นอยู่ประมาณ 130 พอมาเดือนที่ 4 ความดันไม่มีท่าที่ว่าจะลดลง คุณหมอสูติเลยส่งตัวให้ไปคุยกับคุณหมออายุรกรรม เนื่องด้วยกลัวว่าหากความดันยังสูงขึ้นอยู่แบบนี้จะครรภ์เป็นพิษ คุณหมออายุรกรรมก็ให้ทานยาลดความดันวันละครึ่งเม็ดในตอนแรก และนัดทุก 2 อาทิตย์ (นัดพร้อมแผนกสูติ) แต่ความดันก็ไม่ได้ลดลงแต่ยังใด แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น ทางคุณหมอสูติให้ตรวจปัสสาวะหาโปรตีนว่ารั่วหรือไม่ ผลออกมาไม่รั่ว และคุณหมออายุรกรรมก็เพิ่มยาจากกินวันละครึ่งเม็ด เป็นวันละ1เม็ด
โดนตรวจหาเบาหวาน ได้ค่าน้ำตาลมา 140 เลยโดนนัดเจาะ 4 เข็มอีก 1 อาทิตย์ ตอนนั้นหาข้อมูลทุกอย่างว่าทำยังไงไม่ให้น้ำตาลสูง ส่วนตัวเป็นคนติดของหวานมาก กินโกโก้เกือบทุกวัน ตอนนั้นเราเลยงดของหวานทั้งหมดเลยค่ะ ปรากฎว่าไม่เป็นเบาหวานค่ะ แต่ว่า.....ความดันไม่ลดลงนะค่ะ !!!
ประครองครรภ์กันมาเรื่อยๆ จนเข้าเดือนที่ 8 ค่ะ คุณหมอก็คุยเรื่องการคลอด ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะคลอดเอง แต่ด้วยความที่ท้องใหญ่มากคุณหมอกลัวคลอดเองไม่ไหว (เราลืมบอกคุณหมอเรื่องผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกเลยได้แจ้งคุณหมอในวันนั้นไปด้วย) สรุปคุณหมอให้ผ่าคลอดค่ะ จริงๆกำหนดคลอดเราวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เราอยากให้น้องคลอดวันนี้ อยากประครองไปจนถึง 40weekด้วยซ้ำ แต่คุณหมอดันนัดก่อน คุณหมอนัดผ่าคลอดแบบบล็อกหลังวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561
คุณหมอนัดนอนที่ รพ.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ตั้งแต่เที่ยงแล้วให้งดน้ำ งดอาหารตั้งแต่ 6 โมงเย็น ระหว่างรอคลอดก็ให้ทานยาความดันปกติ ตอนนั้นเรากับสามีตื่นเต้นกันมาก เตรียมทั้งเสื้อผ้าลูก ของลูก กล้องถ่ายรูปเอาไว้อย่างดี กำหนดคลอดเราวันที่ 5 ตอน 9โมง แต่ทางพยาบาลขอให้ตื่น6 โมงเพื่อเตรียมตัวก่อนไปห้องคลอด
เราเองตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ วันนั้นหลับๆตื่นๆ จนตี 5 ก็ไปอาบน้ำแต่งตัวรอพยาบาล อารมณ์มันทั้งกลัวก็กลัว อยากเจอก็อยากเจอ อธิบายไม่ถูก พอ6 โมงกว่าๆ พยาบาลก็เข้ามาทำธุระ โกนขน สวนอุจาระให้ สัก1ชั่วโมงได้ก็มาสวนปัสสาวะ ขอบอกว่าการสวนปัสสาวะนี้เจ็บมากกกกกก !!!! เจ็บจนน้ำตาไหล เราโดนสวนเกือบเป็นชั่วโมง พยาบาลคนแรกมาสวนให้เราแต่เหมือนมันไม่เข้า แทงเข้าแทงออกจนเราอยากร้องไห้ พยาบาลคนที่2 มาช่วยแทง ไม่เจ็บเท่าคนแรก แต่.................เรากลับปัสสาวะไม่ออก !!!!
เหมือนสวรรค์จะเห็นใจ คุณพยาบาลไปตามอีกท่านมา ดูจากลักษณะน่าจะเป็นหัวหน้าพยาบาล คุณหัวหน้าคนนี้สวนให้จึ๊กเดียวเสร็จ เจ็บแบบแปปเดียวเสร็จ โล่งเลยค่ะ (ทำไมไม่เอามาทำให้แต่แรกกกกกกกก
ตอนนี้เราอยู่ในห้องผ่าคลอดแล้วคะ ตื่นเต้นมาก กลัวด้วย แต่คุณหมอและพยาบาลที่นี้ใจดีทุกคนค่ะ ขึ้นตอนการบล็อกหลังก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร คุณหมอจะให้เรานอนตะแคงแล้วห่อตัวให้ได้มากที่สุด จากนั้นคุณหมอก็จะฉีดยาบล็อกหลัง ขอบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะตอนโดนเข็ม (เจาะสายน้ำเกลือยังเจ็บกว่าเสียอีก) ไม่ถึงนาทีก็จะเริ่มชาค่ะ คุณหมอจะเอาสำลีชุบแอลกอฮอลแล้ววนๆที่แขน พร้อมถามเราว่าเรารู้สึกไหม ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกค่ะว่ารู้สึกในที่นี้คือยังไง เราก็ตอบหมอไปว่ารู้สึก (ก็เรารู้สึกว่ามีสำลีมาวนๆที่แขนจริงๆนี่นา TT) คุณหมอก็ถามอีกว่าแล้วเย็นไหม ? เราก็ตอบกลับไปว่าไม่เย็นแต่รู้สึกค่ะ .
คุณหมอได้ยินอย่างนั้นเลยขอมีดจากพยาบาลแล้วเริ่มผ่าเลย แต่ด้วยความที่เรากลัวเราเลยบอกคุณหมอไปว่า.....คุณหมอค่ะอย่าเพิ่งค่ะยังรู้สึกอยู่เลยค่ะ !!! (จริงๆคือไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ คุณหมอลงมีดไปแล้ว) คุณหมอก็พูดตอบกลับมาว่าลงมีดไปแล้ว !!!! เราจึงรู้ว่า อ๋อออออ จริงๆคือมันชาไปแล้ว แหะๆ
คุณหมอก็ชวนคุยไปเรื่อยๆค่ะ จนเจอน้อง ทุกคนในห้องต่างตกใจ (ทำเราใจเสียไปด้วย) แล้วทุกคนก็อุทานกันว่าตัวใหญ่มาก คุณหมอต้องให้ คุณหมออีกท่านที่อยู่ในห้องช่วยกันขย่มเอาเด็กออก ตอนโดนขย่มรู้สึกเหมือนคนจะจมน้ำเลย
ในที่สุดก็ออกมาแล้วค่ะ ทุกคนในห้องต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตัวใหญ่มาก เหมือนเด็ก 3 เดือนเลย แล้วพยาบาลก็เอาน้องมาแนที่หน้าให้หอมลูก ตอนนั้นน้องถูกห่ออยู่เราก็ดูไม่ออกว่าตัวใหญ่ตรงไหน 555+ แต่วินาทีนั้นมันเหมือนในละครที่เราดูมาเลย ภาพที่เราเคยเห็นคนคลอดลูกเมื่อเห็นลูกแล้วดีใจจนน้ำตาไหล เราเป็นแบบนั้นเลย ไม่รู้มันไหลมายังไงแต่มันไหลเอง
เสร็จจากคลอดน้องเราได้กลับมาที่ห้อง แต่น้องไม่ได้กลับมาด้วย คุณหมอแจ้งว่าน้องหายใจเร็วและน้ำตาลในเลือดต่ำ ต้องรอดูอาการถ้าน้ำตาลปกติแล้วก็จะพามาหาวันพรุ่งนี้เช้า ตอนนั้นก็แอบใจแป่วแต่ก็หวังว่าพรุ่งนี้เขาก็คงเอาลูกมาหาเรา จนเช้าอีกวันเราก็ได้ยินเสียงเด็กร้องนะ ใจก็คิดว่าต้องมีลูกของเราแน่ๆ แต่ไม่ค่ะเป็นของห้องอื่น ลูกเราไม่ได้มา สามีไปดูลูกเราตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะที่ห้อง NICU แอบถ่ายรูปมาให้ดู น้องหนัก 4190g ลูกโดนเจาะให้น้ำเกลือที่หัวในวันแรกๆ ตอนเห็นรูปนั้นน้ำตาไหล สงสารลูกมาก ระหว่างนั้นเรายังเดินไม่ไหวเพราะตึกNICUกับตึกพักฟื้นอยู่คนละตึกกัน เราทำได้แค่ปั้มนมแล้วให้สามีเอาไปส่งให้ลูก แรกๆลูกเรากินนมผงจากโรงพยาบาลค่ะเนื่องจากน้ำนมเรายังไม่ค่อยมา จนวันที่ 2 พยายามไปดูลูกที่ห้อง NICU มือและเท้าลูกมีแต่รอยเจาะ แค่เราเห็นรอยก็น้ำตาไหลแล้วค่ะ ไม่อยากนึกถึงว่าเขาจะเจ็บขนาดไหน เด็กตัวแค่นี้แต่ต้องโดนเจาะทุกเช้า-เย็น เราได้พักฟื้นอยู่3วันก็ออกจากโรงพยาบาลค่ะ แต่ลูกเรายังไม่ได้ออกเพราะว่าน้องน้ำตาลยังต่ำอยู่
วันรุ่งขึ้นเราไปโรงพยาบาลแต่เช้าเลยค่ะ เพื่อหวังว่าจะได้ไปรับลูกกลับบ้านไวๆ แต่ที่ไหนได้เราต้องรอคุณหมอมาตรวจและเจาะน้ำตาลรอบเช้าก่อน กว่าจะรู้ผลก็เที่ยง และแล้วน้องก็ได้กลับบ้านค่ะ ปัจจุบันน้องอายุได้ 4 เดือนกว่าแล้ว แข็งแรงมากค่ะ ไม่ป่วย ไม่ไข้ ทึกมาก !!!!! 5555+
เอาไว้มีโอกาสจะมาแชร์ประสบการณ์จากเด็กนมผงสู่เด็กนมแม่100% นะค่ะ